วันมหาปวารณา
วันเพ็ญขึ้น ๑๕ ค่ำ วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการอยู่จำพรรษาร่วมกัน เรียกว่า “วันมหาปวารณา” ซึ่งจะต้องรักษาอีกหนึ่งราตรี พรุ่งนี้จึงเป็นวันออกพรรษา ที่ผ่านมานั้นถ้ารูปไหนทำความเพียรยังไม่เต็มที่ ยังไม่อิ่มอกอิ่มใจ นึกทีไรก็ยังไม่ปีติ ยังไม่ภาคภูมิใจว่า พรรษาที่ผ่านมาเรายังชำระกายวาจาใจให้สะอาดให้บริสุทธิ์จนกระทั่งความบริสุทธิ์ผุดขึ้นมากลางหยุดกลางนิ่ง ก็ให้เอาวันนี้สร้างประวัติศาสตร์ชีวิตอันงดงามให้เกิดขึ้นกับตัวของเราเองให้ได้
วันนี้เป็นวันสำคัญพระจันทร์เต็มดวงสว่างไสว ความสว่างปรากฏเกิดขึ้นบนท้องฟ้า สว่างในจักรวาล พระนิพพานส่งผังสำเร็จลงมาให้ ถ้าหากเราได้ใช้วันเวลาในวันนี้ประพฤติธรรมกันอย่างเต็มที่ โอกาสที่เราจะเข้าถึงธรรมมีมากทีเดียว ดูหลวงพ่อวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกายเป็นตัวอย่าง ท่านใช้วันเดียวคืนเดียวเท่านั้น สละชีวิตตั้งใจประพฤติปฏิบัติธรรม กระทั่งไปเห็นแผนผังที่แท้จริงของชีวิตในวันเพ็ญขึ้น ๑๕ ค่ำ เหมือนกัน
วันนี้ก็เช่นเดียวกัน หลวงพ่อหวังว่า บนท้องฟ้าสว่างด้วยแสงจันทร์ ภายในกลางกายของลูกทุกรูปก็คงสว่างด้วยแสงธรรม ถ้าหากความสว่างปรากฏเกิดขึ้นในกลางกาย หลับตาแล้วไม่มืด ความปีติความภาคภูมิใจก็เกิดขึ้นกับเรา ความปีติขนพองสยองเกล้าก็จะเกิดขึ้นแก่ชาวสวรรค์ที่มีทิพยจักษุ มีญาณทัศนะที่ได้เห็นภาพแห่งความดีงามของพวกเราที่กำลังทำความเพียร ทำหยุดทำนิ่ง จนกระทั่งเกิดความสว่างโพลงขึ้นภายใน เห็นเส้นทางสายกลาง ทางไปสู่อายตนนิพพาน เป็นทางแห่งความบริสุทธิ์ ทางแห่งพระอริยเจ้า สว่างโพลงเกิดขึ้นมา เขาจะเกิดความปีติปราโมทย์ใจเช่นเดียวกับตัวของเรา เพราะฉะนั้นใช้วันนี้ให้เป็นประโยชน์ต่อการบำเพ็ญสมณธรรม
หลวงพ่อธัมมชโย
วันศุกร์ที่ ๑๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๔๓