ไม่เสีย ไม่หาย

วันที่ 12 มิย. พ.ศ.2547

ไม่เสีย ไม่หาย


.....ควันรถสีดำลอยฟ่องอยู่ในอากาศ จากรถหลากยี่ห้อ หลายคัน ที่เบียดเสียดเยียดยัดกันบนท้องถนน ผสานกับเสียงแตรรถที่ดังกันคนละทีสองที เหมือนวงมโหรีปี่พาทย์ที่ประชันกันโหมโรงอย่างไม่รู้ปี่รู้ขลุ่ย ท่าทางวงนี้จะไม่มีแม้แต่ฉิ่งตีเคาะให้จังหวะ จึงฟังดูสับสนอลหม่านน่ารำคาญยิ่ง แต่ถึงแม้เรื่องราวบนถนนจะวุ่นวายเพียงใด ยังไม่อาจหันเหความสนใจของหญิงสาวนางหนึ่งบนบาทวิถีได้ เธอเดินดุ่ม ก้มๆ เงยๆ เหมือนหาเศษสตางค์ ใบหน้าเคร่งเครียดเขม็งเกลียว โดยมีเพื่อนหญิงอีกคนหนึ่งเดินตามหลังอยู่ไม่ห่างใครเห็นท่าทางเธอแล้วไม่ต้องเดาก็รู้ว่า ของหาย แต่ใครเลยจะสนใจช่วยหา เพราะไม่ใช่ของๆ ตัว ไม่ใช่ธุระกงการอะไร แต่ถ้าบังเอิญหาเจอ จะคืนเธอก็ใช่ที่ นี่แหละหนา มนุษย์โลกมักเป็นกันอย่างนี้ หญิงสาวคงรู้กฎข้อนี้ดี จึงเปรยกับเพื่อนรักอย่างหมดหวังว่า

“ ไม่เจอแล้วล่ะณี คงมีคนเก็บไปแล้วล่ะ ” เธอพูดพลางเหมือนจะร้องไห้ ขอบตาเริ่มรื้นอันเป็นสัญญาณบางอย่าง ไม่นานเธอก็ปล่อยโฮ ๆ ออกมาอย่างเหลืออด เพื่อนข้างๆ ได้แต่ลูบหน้าลูบหลังให้กำลังใจไปตามประสา “ ไม่เป็นไรหรอกกิ่ง ของหายไปแล้วก็หายไปเถอะ ถือเสียว่าฟาดเคราะห์ อย่าเสียใจไปเลยนะ แล้วเราค่อยซื้อใหม่ก็ได้ ” ” ตั้งใจจะพูดให้เพื่อนคลายโศก แต่อนิจจา เธอยิ่งร้องไห้หนักกว่าเดิม ทำเอาเพื่อนข้างๆ หมดปัญญา ไม่รู้ไปเหยียบตุ่มตาปลาอะไรเข้าอีก ว้า !

 

              ฉากนี้ถ้ามองระยะท๊อปวิว จะเห็นคนจุดเล็กๆ สองจุด กับถนนสายลาดพร้าวที่แออัดด้วยรถยนต์มากมาย พอคำนวณได้ว่าเป็นเขตอันตรายของมลพิษในอากาศติดอันดับต้นๆ เขตหนึ่งของโลก แต่ม่านควันในหัวใจของคนจุดเล็กๆ นี่สิ น่าเป็นห่วงยิ่งกว่าอากาศรอบข้างเสียอีกหลังจากนั่งอยู่นาน ในที่สุดเพื่อนข้างๆ ก็ตัดสินใจพูดปลอบใจหนที่สอง ซึ่งคิดว่าตรองมาดีแล้ว

 

“ นี่กิ่ง เธออยากเสียอย่างเดียว หรืออยากเสียสองอย่าง ” ได้ฟังคำปุจฉา เพื่อนเช็ดน้ำตาทำหน้าหงุดหงิด “ จะบ้าเหรอแก ! กระเป๋าหายอย่างเดียวก็เกินพอแล้ว แกจะให้ฉันหายของอะไรอีก ”

“ ก็นั่นไง ฉันถึงว่าแกเสียสองอย่าง เสียของไปแล้ว ยังต้องมาเสียใจอีกเหรอ คุ้มกันไหมล่ะ ”

 

          จำเลยผู้ตกทุกข์ได้ฟังเลยฉุกคิด เพื่อนเลยว่าต่อ “ รักษาใจให้ดีอย่างเดียวก็พอ ถ้าอารมณ์ดี อะไรๆ ก็พลอยดีไปด้วย อย่างแรก สติกลับคืนมา ทำให้คิดแก้ไขปัญหา หรือสถานการณ์ที่กำลังย่ำแย่ได้ทันท่วงที ไม่ตีตนไปก่อนไข้ เรื่องร้ายจะกลายเป็นดีได้นะ !” รอยยิ้มปรากฎบนใบหน้าอีกครั้ง เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นขัดจังหวะ พี่ที่บริษัทโทรมาบอกว่า เธอน่ะ ลืมกระเป๋าสตางค์ไว้ที่ทำงาน !

อุบลเขียว

 

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.011573334534963 Mins