.....เหงื่อไหลซึมออกมาไม่ขาดสาย มือที่จับกันไปมาสั่นเล็กน้อย แม้จะพยายามสะกดกลั้นความเท่าใด ดูเหมือนจะเพิ่มความร้อนรุ่มมากขึ้น นายตำรวจสองนายที่นั่งขนาบข้าง สาละวนอยู่กับการสำรวจอาวุธให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้ เขาเหลือบไปเห็นกระบอกปืนสีดำมะเมื่อม แม้จะยังไม่ได้ลั่นไก แต่ให้รู้สึกครั่นคร้ามอยู๋ใช่น้อย
.....สถานการณ์ในตอนนี้ ให้นึกไปไกลถึงการไล่ล่าอาชญากรในหนังตะวันตก ที่มีตำรวจปะทะกองโจร เสียงปืนดังสนั่นหวั่นไหว…ทั้งที่การไปในครั้งนี้ เพื่อจับกุมตัว ผู้หญิง คนหนึ่งเท่านั้นรถตำรวจวิ่งไปตามถนนทางหลวงอย่างเร่งรีบ เสียงไซเรนทำให้รถทุกคันบนถนนต้องหลีกทางกับสัญญาณฉุกเฉิน พายุฝนกระหน่ำลงมาอย่างไม่ขาดสาย ชายหนุ่มเฝ้าตำหนิตัวเอง ถ้าเขามีความละเอียดรอบคอบมากกว่านี้ เหตุการณ์เลวร้ายคงไม่เกิดขึ้น
คนที่เขารัก คงไม่ต้องตกอยู่ในอันตราย
.....ภรรยาของเขาท้องแก่ใกล้คลอดแล้ว เกิดปวดท้องขึ้นมากระทันหันระหว่างที่เขาขับรถมาตามทางจนถึงตำบลนี้ ขับไปได้สักพักรถเกิดเสีย เพราะพายุฝนที่ตกลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา มองออกไปเห็นบ้านหลังหนึ่งอยู่กลางทุ่ง จึงตัดสินใจอุ้มภรรยาไปขอความช่วยเหลือด้วยความทุลักทุเลหญิงสาววัยกลางคนเป็นผู้เปิดประตูต้อนรับ ทั้งบ้านดูวังเวงปราศจากผู้คน เธอเห็นอาการของฝ่ายหญิงแล้วจึงรีบประคองพาไปนั่งพัก แล้วไล่ให้ชายหนุ่มรีบไปโบกรถเพื่อพาส่งสถานีอนามัยที่ใกล้ที่สุด เพราะความใจร้อน เขาจึงวิ่งไปเรื่อยๆ จนถึงหมู่บ้าน
.....คนแรกที่เขาเห็น คือ ชายชราอายุราว ๗๐ ปั่นจักรยานผ่านมา เขาร้องตะโกนขอความช่วยเหลืออย่างไม่รอช้า ชายชราได้ฟังแล้วต้องอุทานด้วยความตกใจ
“ตายล่ะ คุณรู้ไหมว่าผู้หญิงที่อยู่บ้านนั้นนะ มันบ้า เพิ่งออกจากโรงบาลมาหยกๆ ”
.....เขาตกใจแทบสิ้นสติ กว่าจะรู้ตัวอีกที ก็นั่งอยู่บนรถตำรวจมุ่งตรงสู่บ้านหลังนั้นแล้ว ตลอดทางเขานึกหวาดกลัวไปต่างๆ นานา นึกถึงเสียงกรีดร้องของภรรยาด้วยความเจ็บปวด นึกถึงชีวิตลูกที่เกิดมาเมื่อรถมาถึง ได้ยินเสียงเด็กร้องไห้จ้า จึงรีบกระโจนออกจากรถ พังประตูเข้าไปทันทีภาพที่เห็น คือภรรยาเขานอนเหยียดยาวบนเตียงอย่างอิดโรย หญิงวัยกลางคนหัวกระเซิง ยืนยิ้มแป้นอุ้มเด็กส่งให้เขา
“ เด็กผู้ชายน่ะ ปลอดภัยทั้งแม่ทั้งลูกเลย ”
.....เขาทรุดเข่าร้องไห้ลงกับพื้น รับเด็กชายมากอดด้วยความรู้สึกท่วมท้น ตำรวจทุกคนต่างยืนงง ตกตะลึงเหมือนถูกสะกด!
.....เรื่องบางเรื่องในชีวิต….ก็ไม่เลวร้ายอย่างที่คิด !
อุบลเขียว