สรุปชัดๆ: "หวย vs หุ้น" เป็นการลงทุนหรือการพนัน?
.
ความหมายของและหลักการ "หวย" และ"หุ้น"
1.หวย คือ กิจกรรมอย่างหนึ่งโดยผู้เสี่ยงทายต้องเลือกหรือซื้อหมายเลขหวยที่ต้องการ แล้วรอการออกรางวัล ตามจำนวนที่ตกลง ในประเทศต่างๆ ทั่วโลกล้วนมีหวยหรือล็อตเตอรี่ขายกันอย่างแพร่หลายทั้งสิ้น ส่วนในประเทศไทยมีหวยทั้งแบบถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย จากข้อมูลในปี 2561 พบว่าร้อยละ 25 ของชาวไทยซื้อล็อตเตอรี่และหวยใต้ดิน รวมเป็นเงินกว่า 250,000 ล้านบาทต่อปี และในปี 2552 ในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก ระบุว่ารายจ่ายในการซื้อล็อตเตอรี่และหวยใต้ดิน ของคนไทยอยู่ที่ 340 บาท/เดือน หรือคิดเป็น 2.1% ต่อรายได้ทั้งหมด
2.หุ้น คือ สิทธิ์ความเป็นเจ้าของในกิจการหรือบริษัท ซึ่งจะแบ่งหน่วยความเป็นเจ้าของเป็นหุ้นตามสัดส่วนจำนวนหุ้นที่มีถืออยู่
การลงทุนหุ้นก็เหมือนลงทุนในกิจการ เช่น ถ้าเราอยากเป็นเจ้าของธนาคารหนึ่ง เราก็อาจจะซื้อหุ้นกลุ่มธนาคาร ซึ่งไม่ต้องใช้เงินเยอะก็ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าของธนาคารได้
โดยสิทธิความเป็นเจ้าของจะรวมถึงการมีสิทธิออกเสียงในการประชุมผู้ถือหุ้น หากใครมีสัดส่วนหุ้นมากก็จะมีสิทธิออกเสียงมาก และรวมถึงสิทธิในการได้รับปันผลกรณีเมื่อบริษัทมีกำไรอีกด้วย
1.หวยและหุ้นเป็นการพนันหรือไม่?
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสลักษณะและโทษที่เด่นชัดของการพนันไว้โดยย่อในสิงคาลกสูตรว่า
" ดูกรคฤหบดีบุตร โทษในการประกอบเนืองๆ ซึ่งการพนันอันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท 6 ประการเหล่านี้ คือ :
1.ผู้ชนะย่อมก่อเวร
2.ผู้แพ้ย่อมเสียดายทรัพย์ที่เสียไป
3.ความเสื่อมทรัพย์ในปัจจุบัน (ไม่มีความมั่นคง, ตั้งหลักตั้งฐานะในชีวิตได้ยาก)
4.ถ้อยคำของคนเล่นการพนัน ซึ่งไปพูดในที่ประชุมฟังไม่ขึ้น
5.ถูกมิตรอมาตย์หมิ่นประมาท
6.ไม่มีใครประสงค์จะแต่งงานด้วย เพราะเห็นว่า ชายนักเลงเล่นการพนันไม่สามารถจะเลี้ยงภรรยา (ไม่มีความน่าไว้วางใจ)
ดูกรคฤหบดีบุตร โทษ 6 ประการในการประกอบเนืองๆ ซึ่งการพนันอันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาทเหล่านี้แล ฯ"
หวยเป็นการพนันหรือไม่? -
หวยจึงจัดว่าเป็นการพนันเพราะมีเดิมพัน, มีผู้ชนะ ผู้แพ้, มีผู้ได้เปรียบและเสียเปรียบ หรือเรียกว่า" มีได้ มีเสีย"และมีการเสี่ยงโชคเป็นหัวใจสำคัญ
หุ้นเป็นการพนันหรือไม่?-
การซื้อขายหุ้นในภาวะปกติจริงๆไม่จัดเป็นการพนัน แต่ถ้าเมื่อใดที่มีการเดิมพันเพื่อเสี่ยงโชคหรือซื้อหุ้นตัวหนึ่งตอนเช้าแล้วขายในตอนเย็นวันเดียวกัน รู้ผลได้ผลเสียเป็นรายวัน แบบนี้เรียกว่า เล่นหุ้นแบบการพนันไปแล้ว แบบนี้จะจัดเป็นการพนัน
2.หวยและหุ้นเป็นอบายมุขหรือไม่?
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสประเภทของอบายมุขทั้ง 6 ไว้ในสิงคาลกสูตรว่า :
"อริยสาวกย่อมไม่เสพทางเสื่อมแห่งโภคะ (อบายมุข) 6 เป็นไฉน ดูกร คฤหบดีบุตร
1.การประกอบเนืองๆ ซึ่งการดื่มน้ำเมาคือสุราและเมรัยอันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท เป็นทางเสื่อมแห่งโภคะ
2.การประกอบเนืองๆ ซึ่งการเที่ยวไปในตรอกต่างๆ ในกลางคืน เป็นทางเสื่อมแห่งโภคะ
3.การเที่ยวดูมหรสพเป็นทางเสื่อมแห่งโภคะ
4.การประกอบเนืองๆ ซึ่งการพนันอันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท เป็นทางเสื่อมแห่งโภคะ
5.การประกอบเนืองๆ ซึ่งการคบคนชั่วเป็นมิตร เป็นทางเสื่อมแห่งโภคะ
6.การประกอบเนืองๆ ซึ่งความเกียจคร้าน เป็นทางเสื่อมแห่งโภคะ ฯ"
การซื้อและการขายหวย(ล็อตเตอรี่หรือสลากกินแบ่งรัฐบาล) เป็นอบายมุขหรือไม่? -
การซื้อขายหวยทั้งบนดินและใต้ดินรวมทั้งหวยออนไลน์จึงจัดเป็นทางเสื่อมแห่งโภคทรัพย์หรือเป็นอบายมุขเพราะเป็นการพนันก็คือ 1 ในทางแห่งความเสื่อมในโภคะ (หรือโภคทรัพย์สมบัติ) หรืออบายมุข 6
หุ้นเป็นอบายมุขหรือไม่? -
หุ้นหากดำเนินการโดยปกติ การซื้อขายหุ้นไม่จัดเป็นอบายมุข (แต่ถ้ามีการเดิมพันเพื่อเสี่ยงโชค, มีการซื้อขายหุ้นอย่างผิดปกติเช่นการปั่นหุ้น, ตั้งราคาเกินความเป็นจริง จัดเป็นอบายมุข)
3.หวยและหุ้นผิดศีลหรือไม่? หวยและหุ้นเป็นบาปหรือไม่?
หวยผิดศีลหรือไม่? เป็นบาปหรือไม่? -
การซื้อขายหวยกันตามปกติถือว่าไม่ผิดศีลข้อใดๆเลยแต่จัดว่าเป็นบาปเพราะขบวนการซื้อขายหวยหรือล็อตเตอรี่ทุกรูปแบบนั้นมีความโลภหรือความอยากครอบงำจิตใจ รวมถึงโมหะ(ความหลง) คือมัวเมาในการแสวงหาโชคลาภที่มีความวิงวอนและเพ้อฝันเป็นฐานรากและมักจะมีจิตที่ขุ่นมัวหมอง
การซื้อหุ้นเล่นหุ้นผิดศีลหรือไม่? เป็นบาปหรือไม่?-
การซื้อขายหุ้นกันปกตินั้นไม่ผิดศีลข้อใดๆเลย และไม่เป็นบาปด้วย แต่ถ้าหากผู้ซื้อและผู้ขายมีใจขุ่น, มัวหมอง คิดหวังเพราะเสี่ยงโชค, มีความโลภอยากได้ทรัพย์สินเงินทองแบบมากเกินไปและมีโมหะหรือความหลงนำหน้า แบบนี้จัดว่าเป็นบาป
4.หวยและหุ้นเป็นอาชีพนักลงทุนโดยสุจริตหรือไม่?
หวยเป็นอาชีพนักลงทุนโดยสุจริตหรือไม่? -
การซื้อขายหวยไม่ใช่อาชีพนักลงทุน หากแต่ถือว่าเป็น1 ในกิจกรรมการพนัน เนื่องจากมีผู้ชนะ-ผู้แพ้, มีฝ่ายผู้กำไร-มีผู้ขาดทุน, มีการเดิมพัน, มีได้-มีเสีย, โดยมีความหลงและความโลภเป็นพื้นฐานนั่นเอง
หุ้นเป็นอาชีพนักลงทุนโดยสุจริตหรือไม่?-
การซื้อขายหุ้นจัดเป็นอาชีพนักลงทุนโดยสุจริต ถ้าหากบุคคลนั้นศึกษาวางแผนธุรกิจอย่างรอบคอบมีหลักการและมีเป้าหมายการลงทุนในกิจการธุรกิจต่างๆ ที่ตนเองมีความสุขและมีความสนใจในระยะยาว การเล่นหุ้นจึงไม่ถือว่าเป็นมิจฉาอาชีวะเพราะเป็นมูลค่าตามความเป็นจริง ยกเว้นกรณีการไปปั่นหุ้น หรือไปปั่นป่วนสร้างราคาเกินความจริง ถ้ากรณีอย่างหลังนี้ถือว่าเป็นมิจฉาอาชีวะ
5.หวยและหุ้น มีผลกรรมที่จะได้รับหรือไม่? อย่างไรบ้าง?
การซื้อขายหวย กับผลกรรมที่จะได้รับ? -
ครั้งหนึ่ง พระเดชพระคุณพระมงคลเทพมุนี หลวงปู่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ได้เคยกล่าวถึง "หวย" ไว้ว่า “ยิ่งเล่นยิ่งชิบหาย”
นอกจากนี้ หลวงพ่อธัมมชโย ในสมัยที่ท่านได้ทำหน้าที่บรรยายธรรมะทางสถานีโทรทัศน์ DMC.ท่านเคยกล่าวไว้ว่า
“หวย คือ ที่สุดของความห่วย
เพราะ ฮวย - ห่วย - ฮ่วย - ฮ้วย - หวย”
ดังนั้น วิบากกรรมของผู้ที่เป็นเจ้ามือหวย คือ จะตกอยู่ในวงจรของความหลง ชีวิตจะไม่เจริญรุ่งเรือง
ส่วนผู้มีอาชีพขายหวยหรือล็อตเตอรี่จะทำให้มีเชื้อแห่งความหลง เพราะทำให้คนติดหลงงมงาย เพ้อๆ ฝันๆ ว่า “จะรวยๆ” เชื้อนี้จะทำให้ขาดปัญญา และมีโอกาสดำเนินชีวิตผิดพลาดได้ เช่น เป็นเหตุให้ถูกดึงไปอยู่ในวงจรของการคบคนพาล ซึ่งจะมีโอกาสดำเนินชีวิตผิดพลาดได้
สำหรับผู้เล่นหวยทั้งใต้ดินหรือบนดินก็จะตกอยู่ในวงจรแห่งความหลงงมงายไม่เจริญก้าวหน้า
ถ้าเล่นหวยอย่างลุ่มหลงหัวปักหัวปำ จิตใจหมกมุ่นอยู่กับหวยหรือการพนันใดๆ จนถึงวาระสุดท้าย ละโลกไปต้องตกลงในมหานรกขุมที่ 6 ที่มีไว้รองรับผู้ที่ชอบเล่นการพนัน เช่น เล่นไพ่, เล่นหวย ฯลฯ หรือฝักใฝ่ทำธุรกิจส่งเสริมเกี่ยวข้องเรื่องการพนัน โดยมีอายุขัยของตาปนมหานรกเท่ากับ 16,000 ปีนรก วันหนึ่งคืนหนึ่งในมหานรกขุมนี้ เมื่อเทียบกับเวลาในมนุษยโลกแล้วเท่ากับ 9,216 ล้านปีของมนุษยโลก ถ้า 16,000 ปีนรก ก็เท่ากับ 53,084,160,000 ล้านปีในเมืองมนุษย์
การซื้อขายหุ้น กับผลกรรมที่จะได้รับ? -
ผู้ลงทุนที่มีการลงทุนในตลาดหุ้นหรือในตลาดหลักทรัพย์ (Stock Market) ที่มีการซื้อขายหุ้นปกตินี้นับเป็นสัมมาอาชีวะ ย่อมจะเจริญรุ่งเรืองในชีวิตและธุรกิจการงานได้ หากมีการศึกษาหาความรู้, มีความรอบรู้ ทั้งรู้จริง - รู้จำ, ทันโลก - ทันธรรม, มีความเข้าใจในการศาสตร์การลงทุนกับตลาดหุ้นด้วยราคาเมื่อเทียบกับมูลค่าที่ประเมินจากพื้นฐานกิจการแล้วมีกำไรคาดหวังเป็นบวก สร้างระบบการลงทุนของตนเองที่ทำให้มีกำไรตามคาดหวังที่เป็นบวกอย่างสมเหตุสมผล รวมถึงบริหารจัดการเงินทุนอย่างเหมาะสมกับความเสี่ยง และลงทุนด้วยจิตใจที่อยู่เหนือความโลภและความหลง ประเมินเหตุและผลตามความจริง ลงทุนตามหลักการอย่างมีประสิทธิภาพและมีวินัย และสำคัญเหนือสิ่งอื่นใดคือมีพื้นฐานสำคัญคือมีบุญสะสมไว้ดีแล้วรองรับ
คุณสมบัติเหล่านี้จึงไม่จัดว่าเป็นมิจฉาอาชีวะ ยกเว้นการใช้ขบวนการพิเศษ เพื่อสร้างราคา หรือดันราคาอย่างไม่มีเหตุผล หรือผิดปกติ
สรุป: องค์ประกอบของการพนันโดยย่อ คือ มีความโลภและความหลงเป็นพื้นฐาน, มีการวางเดิมพัน, มีทรัพย์สินที่น่าดึงดูดมาล่อใจและความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นระหว่าง"ได้กับไม่ได้" "ชนะกับแพ้" "ได้กับเสีย" และปล่อยให้ทุกอย่างดำเนินไปตามโชคชะตาฟ้่าลิขิต
ส่วนองค์ประกอบของการลงทุนหรือการทำธุรกิจโดยหลักคือ มีการศึกษาหาข้อมูล, มีการวางแผน, การเปรียบเทียบกับการลงทุนแบบอื่นๆ, มีการคำนึงถึงความเสี่ยงและมีเป้าหมายที่จะลงทุนในธุรกิจที่ตนเองเลือกแล้วในระยะยาว
ซึ่งองค์ประกอบดังกล่าวนั้นก็คือเส้นตรงกลางที่แบ่งแยกระหว่างการลงทุนกับการพนัน เพื่อตรวจสอบเจตนาให้ชัดเจนว่า สิ่งใดเป็นการพนัน และสิ่งใดเป็นการลงทุน
ดังนั้น หากทุกท่านพิจารณาด้วยองค์ประกอบเหล่านี้อย่างมีใจเป็นธรรม เป็นกลางๆ ปราศจากอคติ ย่อมทราบว่าหนทางใดที่นำพาเราไปสู่เส้นทางบาป เส้นทางมิจฉาอาชีวะ ที่มีวิบากกรรมรองรับในเบื้องหน้า
หนทางใดที่นำพาเราไปสู่เส้นทางบุญ เส้นทางสัมมาอาชีวะที่จะเป็นการสร้างฐานที่มั่นคงของเราเพื่อจะได้มีรูปสมบัติ, ทรัพย์สมบัติและคุณสมบัติที่สมบูรณ์พร้อมที่จะสร้างคุณประโยชน์และอานิสงส์ที่งดงามสว่างไสวรอคอยอยู่ในอนาคตกาลเบื้องหน้า.
ที่มา:
1.สิงคาลกสูตร, พระไตรปิฎก เล่มที่ 11, พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ 3, ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค
https://www.84000.org/tipitaka/read/v.php?B=11&A=3975&Z=4020
2.เนื้อหาบางส่วนเรียบเรียงมาจาก" ที่นี่มีคำตอบ Answer by law of kamma" หลวงพ่อธัมมชโย