สร้างบารมีให้ตลอดรอดฝั่ง...ต้องตอกย้ำเป้าหมาย
หลวงพ่อชื่นใจกับลูกทุกคนที่มาสร้างบารมีด้วยกัน เหลืออย่างเดียวว่า “ทำอย่างไรจะสร้างบารมีได้ตลอดรอดฝั่ง” จนกระทั่งถึงจุดหมายปลายทางอย่างที่ได้ตั้งมโนปณิธานสูงสุดเอาไว้ว่า จะไปสู่จุดหมายปลายทางถึงที่สุดแห่งธรรม สิ่งที่เราทำในปัจจุบันจะเป็นเครื่องวัดว่าเป้าที่เราตั้งนั้น เราตั้งไว้ลอยๆ เล่น ๆ ฟุ้งฝัน เพ้อฝัน หรือว่าฝันใฝ่ ให้ดูที่ปัจจุบัน
ถ้าปัจจุบันนี้เราทำได้ตลอดรอดฝั่ง ซึ่งใช้ระยะเวลาช่วงสั้น ๆ แค่ ๖๐ ปี ๗๐ ปี ๘๐ ปี แล้วก็หมดเวลาของชีวิต แสดงว่ามโนปณิธานหรือเป้าที่เราตั้งไว้ เราตั้งไว้ด้วยความปรารถนาอย่างแท้จริงที่จะเดินไปให้ถึงตรงนั้น ถ้าแค่ช่วงสั้น ๆ นี้ เรายังทำไม่ได้แล้วเราจะไปทำช่วงยาวได้อย่างไร เป็นไปได้ยากมาก หลวงพ่อว่าเป็นไปได้ยาก
ยิ่งเรามาเกิดในยุคที่มนุษย์มีอายุได้แค่นี้ ไม่ได้เกิดมาในยุคมนุษย์มีอายุ ๔๐,๐๐๐ ปี หรือ ๘๐,๐๐๐ ปี หรือ ๑๐๐,๐๐๐ ปี เวลาชีวิตยาวนาน แต่ยุคนี้นี่ประเดี๋ยวเดียวจะดูสิว่าใครจะมีกำลังใจในการสร้างบารมีไปสู่เป้าหมายได้อย่างแท้จริง ปัจจุบันนี้จะเป็นเครื่องวัด สมัยอยู่บ้านธรรมประสิทธิ์คุณยายฯ จะพูดอย่างนี้เรื่อย ๆ ตอนเย็น ๆ ทุกวันที่เจอกัน จะย้ำแล้วย้ำอีก ซ้ำแล้วซ้ำอีกเรื่อย ๆ มาตลอดเลย
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ตั้งแต่บ้านธรรมประสิทธิ์เรื่อยมาจนกระทั่งถึงปัจจุบัน หลวงพ่อรู้สึกเสียดายสำหรับคนที่มีความตั้งใจดีแต่แรก แต่ว่าทำไม่ได้ตลอด เสียดายหลาย ๆ คนเลยพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านเคยเปรียบเทียบเอาไว้เหมือนกับทหารที่ออกรบ บางคนแค่ได้ยินเสียงข้าศึกได้ยินกิตติศัพท์ ได้ยินข่าวว่าข้าศึกจะยกทัพมาก็กลัวลนลานแล้ว ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้เห็นข้าศึกเลยลนลานเป็นทุกข์ ยอมแพ้แล้ว บางพวกเข้าสู่สนามรบ เห็นแต่ผงคลี คือ เห็นแต่ฝุ่นฟุ้ง ในการเดินทัพของข้าศึก ยังไม่ได้ปะทะกันเลยก็ถอยหลังแล้ว บางพวกเห็นข้าศึก เมื่อฝุ่นฟุ้งนั้นหายไปแล้ว แค่เห็นยังไม่ทันรบกันเลยก็ยอมแล้ว บางพวกปะทะกันได้หน่อย ฝีมือเราก็มีแต่ยังไม่ได้โชว์ฝีมือเลย แค่ปะทะกันเพลงสองเพลงแค่นั้นก็วิ่งแจ้นเลยทิ้งศาสตราวุธไปแล้ว แต่ก็มีบางพวกสู้กันไปได้รับบาดเจ็บแต่ก็สู้กันไปจนกว่าจะชนะ บางพวกก็ตายในสนามรบ
นักสร้างบารมีก็เช่นกัน ตั้งเป้าเอาไว้อย่างดีเลยว่าจะไปถึงจุดหมายปลายทาง แต่บางพวกนั้นงานที่แท้จริงยังไม่ทันเริ่มเลยยอมแพ้ไปเสียแล้ว แค่กรุยทางสร้างฐานปฏิบัติการ บางพวกยังไม่ทันสร้างศูนย์พุทธจักรเลยก็ไปแล้ว บางพวกกำลังสร้างศูนย์พุทธจักรอยู่ก็ไปอีก บางพวกพอเปลี่ยนมาเป็นวัดวรณีก็ไปอีก แล้วพอเปลี่ยนมาเป็นวัดพระธรรมกายก็หายไปอีก พอเริ่มตั้งหลักได้เต็มที่ จะรวมประชุมทหารทำวิชชาก็จากไปกันอีก ยังไม่ได้ปะทะกันเลย อยู่ในระดับได้ยินข่าวข้าศึก เห็นฝุ่น เห็นตัวข้าศึกปะทะกันเรายังไม่ได้ปะทะกันเลยนะ
ที่เหลืออยู่และที่กำลังจะมาใหม่ สู้ให้เต็มที่ ดูอย่างพระเถระที่นั่งอยู่หน้า ท่านเป็นนักสู้ ดูเถอะท่านเป็นธงชัยของพวกเรา เห็นแล้วจะได้มีกำลังใจเอาอย่างท่าน สู้ศึกทุกองค์ที่นั่งอยู่ข้างหน้านี้ทั้งหลาย ดูว่ายามใดที่เกิดความท้อใจ หันมาดูพระเถระ เพราะท่านมีกำลังใจที่จะต่อสู้กับอุปสรรคทั้งหลายทั้งมวล ท่านก็มีเลือดมีเนื้อมีชีวิตจิตใจ เหนื่อยเป็น หิวเป็น กระหายเป็น มีความทะยานอยากเป็นเหมือนกับทุก ๆ คนในโลก แต่ว่าท่านจะแตกต่างจากชาวโลกที่หัวใจของท่านเข้มแข็ง มีปณิธานที่แน่วแน่ ยอมตายในสนามรบแห่งกองทัพธรรม เพื่อที่จะไปให้บรรลุเป้าหมาย และการที่ท่านเข้มแข็งนี้แสดงว่าที่ผ่าน ๆ มา ท่านก็เข้มแข็งอย่างนี้
ผลอย่างนี้ก็มาจากเหตุที่ประกอบเอาไว้ดีแล้วจากชาติในอดีตภพในอดีตที่ผ่านการสร้างบารมีกันมาตลอดระยะเวลาอันยาวนานเป็นผลให้ท่านเข้มแข็งอยู่จนกระทั่งบัดนี้แล้วก็ถึงที่สุด
คุณครูไม่ใหญ่
จากหนังสือ ง่ายที่สุดคือหยุดได้ เล่มที่ ๖