ให้มีความตั้งใจให้แน่วแน่...ที่จะเข้าถึงธรรม

วันที่ 02 กย. พ.ศ.2566

2-9-66-B2.jpg

ให้มีความตั้งใจให้แน่วแน่...ที่จะเข้าถึงธรรม
                    การที่เราได้ตัดสินใจทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างในทางโลก ทิ้งความสนุกสนานเพลิดเพลิน ความสะดวกสบาย การทำมาหากินต่าง ๆ ทั้งลาภ ยศ สรรเสริญในทางโลก เราทิ้งได้ทุกอย่าง ก็เพราะว่าลูกทุกคนได้พิจารณาเห็นว่า ทางโลกนั้นไม่ใช่ทางที่เราจะสร้างบารมีให้สะอาด บริสุทธิ์ บริบูรณ์ ดังเช่นเพชรที่เจียระไนแล้วได้เลย เพราะต้องอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มีแต่ผู้ทุศีลเป็นจำนวนมาก แต่ผู้มีศีลเป็นจํานวนน้อย


                    เราทิ้งสิ่งเหล่านั้นเข้ามาสู่ในองค์กรนี้ มีวัตถุประสงค์ประการแรก ที่จะมาศึกษาวิชชาธรรมกาย เพื่อที่จะได้รู้แจ้งเห็นจริงในชีวิตของตัวเอง และท่าเป้าหมายของชีวิตให้ชัดเจน ทำพระนิพพานให้แจ้ง หรือมุ่งไปสู่ที่สุดแห่งธรรม ประการที่สอง มุ่งมาฝึกฝนอบรมตัวของเราให้สมบูรณ์ด้วยวิชชาและจรณะ ประการที่สาม เพื่อสร้างบารมี อะไรที่เป็นบุญเป็นบารมี เราก็จะทำกันอย่างเต็มที่โดยใช้เวลาที่มีจำกัดอยู่ในโลกนี้ หรือวันหนึ่งคืนหนึ่งให้ใจวนเวียนอยู่กับความดีกับการสร้างบารมีทุกชนิด โดยไม่มีข้อแม้ ข้ออ้าง และเงื่อนไขใด ๆ เลย นี่คือความตั้งใจจริงของเราตั้งแต่แรก


                    เราได้เข้ามาสู่องค์กรนี้...ยอมรับกฎเกณฑ์ ระบบ ระเบียบทั้งธรรมวินัย และกฎเกณฑ์ที่หมู่คณะมอบให้ ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าทำให้เราตามใจตัวเราเองไม่ได้ แต่เราก็เต็มใจที่จะทำ เพื่อความบริสุทธิ์บริบูรณ์ของเรา เพื่อการสร้างบารมีฝึกฝนอบรมตน และการศึกษาวิชชาธรรมกาย


                    เพราะฉะนั้น....เมื่อลูกทุกคนได้มีความตั้งใจเป็นอย่างดีแล้วอย่าให้ใจซัดส่ายไปที่อื่น ที่นอกเรื่องนอกราว ที่ไม่เป็นสาระแก่นสาร ที่ไม่ใช่เรื่องของพระ ของเณร ของอุบาสก ของอุบาสิกา เมื่อใจเราไม่ซัดส่าย ใจจะหยุดนิ่งอยู่ภายใน เมื่อใจหยุดอยู่ภายในถูกส่วนเข้า เดี๋ยวก็จะเข้าถึงสิ่งที่มีอยู่แล้วภายในไปตามลำดับที่เราได้ยินได้ฟังกันบ่อย ๆ เข้าถึงดวงธรรม เข้าถึงกายภายใน เข้าถึงพระธรรมกาย แล้วก็จะได้ศึกษาวิชชาธรรมกาย เพราะฉะนั้น....เราต้องมีความตั้งใจอย่างแน่วแน่ที่จะเข้าถึงสิ่งที่มีอยู่ในตัวของเราให้ได้ ถ้าเราตั้งใจแน่วแน่อย่างนี้ก็จะเข้าถึงจนได้


                    ทั้งพระภิกษุและสามเณรให้ดูแบบอย่างพระเดชพระคุณหลวงปู่พระผู้ปราบมาร ถ้าเราอยากเป็นอย่างท่าน เราก็ต้องทำอย่างท่าน ของคุณยายก็เช่นเดียวกัน ถ้าอยากเป็นอย่างคุณยาย ก็ต้องทำอย่างคุณยาย ถ้าไปทำตรงกันข้าม ก็ไม่เป็นแบบท่านต้นแบบมีอย่างนี้อยู่แล้วเป็นบรรทัดฐานเอาไว้สำหรับเทียบเคียงตัวของเราเองว่า “ได้ดำเนินตามรอยท่านแล้วหรือยัง” ถ้าเดินตามรอยท่านเราก็จะต้องเป็นอย่างท่าน คือ ไปรู้ไปเห็นในสิ่งที่ท่านได้รู้ ได้เห็นได้เข้าถึง และได้เป็นในสิ่งนั้น นี่คือเครื่องวัดของเรา แบบแผนของเรา เพราะฉะนั้น....ใครที่ยังไม่เป็นอย่างนี้ก็ให้ปรับปรุงแก้ไขใครที่เป็นแล้วก็ทำให้เจริญขึ้นไปเรื่อย ๆ ทำทุกวันทุกคืน อย่าได้ท้อถอยกันนะ

 

 

คุณครูไม่ใหญ่

จากหนังสือ ง่ายที่สุดคือหยุดได้ เล่มที่ ๔

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.027912219365438 Mins