วันวิสาขบูชา "วันกตัญญูของโลก"
ถ้าเราย้อนเวลากลับไปหาอดีต เมื่อประมาณกว่า ๒๐๐๐ ปีมาแล้ว เราจะพบมหาบุรุษท่านหนึ่งที่ได้สั่งสมบุญบารมีมาแล้วอย่างเต็มเปี่ยม เป็นเวลานับอสงไขยกัป เพื่อแสวงหาธรรมอันเป็นเครื่องนำชีวิตให้หลุดพ้นจากความทุกข์ในวัฏสงสาร แม้ในชาติสุดท้ายนั้น ก็ยังยอมเสียสละความสุข อิสริยยศ และราชสมบัติ ซึ่งเป็นยอดปรารถนาของบุคคลทั้งหลาย มาใช้ชีวิตอย่างนักบวช แม้จะพบความลำบาก ทุกขเวทนานานัปการ แต่ด้วยความเพียรและความอดทนอย่างยิ่ง ความปรารถนาที่ท่านตั้งใจไว้ก็หาได้สั่นคลอนไม่
จนในที่สุด คืนวันเพ็ญขึ้น ๑๕ ค่ำเดือน ๖ นั่นเอง มหาบุรุษท่านนั้นก็สามารถค้นพบหนทางอันหลุดพ้นจากมรรคาของชีวิต คือการเวียนว่ายตายเกิด อันเป็นบ่อเกิดแห่งทุกข์อันมหาศาล ได้เข้าถึงแก่นแท้ของชีวิตที่เป็นความสุขอันแท้จริง
การค้นพบทางพ้นทุกข์ พบสุขนี้เรียกว่า การตรัสรู้ คือการรู้แจ้ง หมายถึงรู้อริยสัจ ๔ ได้แก่
ทุกข์ เป็นบ่อเกิดแห่งความไม่สบายกาย ความไม่สบายใจ
สมุทัย ต้นเหตุหรือสาเหตุที่ทำให้เกิดความทุกข์ ได้แก่ความทะยานอยากต่าง ๆ
นิโรธ ความดับทุกข์ การดับความทะยานอยาก อย่างไม่อาลัยอาวรณ์
มรรค ข้อปฏิบัติหรือวิธีการในการดับทุกข์ อันได้แก่ มรรค ๘ อันเป็นหนทางให้ถึงความเป็นอริยบุคคล
เมื่อทรงค้นพบหนทางแห่งการหลุดพ้นแล้ว ด้วยพระมหากรุณาธิคุณพระองค์ก็ยังเอาธรรมวิเศษมาสั่งสอนโปรดมนุษย์ทั้งหลาย ประดุจดังโคมประทีปดวงใหญ่เป็นแสงชัยที่สาดส่องนำทางไปสู่ชีวิตใหม่
วันนี้จึงเรียกว่า “วันวิสาขบูชา” เป็นวันที่ได้เกิดเหตุการณ์อันมหัศจรรย์ คือ เป็นวันประสูติ ตรัสรู้ ปรินิพพาน ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้เป็นพระบรมศาสดานั่นเอง
เมื่อวันนี้เวียนมาถึง เหล่าพุทธศาสนิกชนก็จะได้น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ด้วยการปฏิบัติบูชา เพื่อแสดงความกตัญญูต่อพระองค์เนื่องใน “วันกตัญญูของโลก” อีกครั้ง
✏ศิลปีธรรม
⚪จากวารสารกัลยาณมิตร ปีที่ ๑ ฉบับที่ ๕
พฤษภาคม ๒๕๒๙