๙. ตัดสินใจตามพระพุทธเจ้า
หลวงพ่อจะเล่าให้ฟัง วันหนึ่งหลวงพ่อได้ถามเรื่องตัดสินใจจากคุณยายอาจารย์ (อุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง)
“ยาย เวลายายจะทำอะไรหรือไม่ทำอะไรนี่ ยายเอาอะไรมาเป็นเครื่องตัดสิน”
“เวลายายตัดสินยายถือหลักง่าย ๆ จะทำอะไรนี่ยายจะตามใจพระพุทธเจ้าทุกอย่างเลย อะไรที่ขัดใจพระพุทธเจ้า หรือไม่ตรงกับที่พระพุทธเจ้าพูดเอาไว้ยายไม่ทําหรอก”
เพราะฉะนั้น ถ้าอยากรู้ว่าถูกใจพระพุทธเจ้าเป็นอย่างไร “ไปนั่งสมาธิค้นเอาเองก็แล้วกัน” ถ้าถามต่อคุณยายก็คงตอบทำนองนี้ คุณยายตอบสั้น ทำไมจึงตอบสั้นอย่างนั้น ที่ตอบสั้นเพราะคุณยายนั่งสมาธิมามาก นั่งมาตั้งแต่อายุไม่ถึง ๓๐ ปี ตอนนี้ท่านอายุ ๘๔ ปีแล้ว สงสัยอะไรยายก็นั่งเข้าที่นั่งสมาธิไปถามพระพุทธเจ้า หลวงพ่อเห็นท่านทำอย่างนั้นมาตั้งแต่เมื่อพบกับท่านใหม่ๆ จนกระทั่งถึงเดี๋ยวนี้
มีอยู่วันหนึ่ง หลวงพ่อเห็นคุณยายกำลังพรวนดินต้นไม้อยู่ท่านพรวนของท่านไปเรื่อยๆ ไม่เร่งร้อนอะไร พรวนไปหน้าก็ยิ้มไป หลวงพ่อเดินเข้าไปใกล้ ๆ ท่านก็ยังไม่เห็น ยืนอยู่พักหนึ่งคุณยายจึงเหลียวมาดู “อ้าว ท่านมาเมื่อไหร่”
“มาได้พักหนึ่งแล้ว เห็นยายพรวนดินอยู่ ยายไม่เหนื่อยหรือ”
“ไม่เหนื่อย"
“ยายทำยังไงจึงไม่เหนื่อย อายุก็มากขนาดนี้แล้ว”
“ยายก็ไม่ได้ทำยังไง ก็ขุดไปอย่างที่ท่านเห็นอย่างนี่แหละ แต่ว่าขุดไปก็ระลึกชาติไป พระพุทธเจ้าในอดีตท่านสร้างบารมียังไง ยายจะได้ทำตามท่านไม่ขาดตกบกพร่อง”
คุณยายพรวนดินต้นไม้ยังระลึกชาติสร้างบารมีได้ เพราะยายทำได้อย่างนี้ยายจึงพูดสั้น ในที่สุดเมื่อคุยไปคุยมาท่านก็บอกว่า
“ยายน่ะไม่ชอบเอาใจใครมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว เอาใจไอ้คนนี้ไอ้คนโน้นมันก็ว่า เอาใจไอ้คนโน้นไอ้คนนั้นมันก็ว่า ยายตัดสินใจตั้งแต่ออกจากบ้านมาแล้วในโลกนี้ยายจะเอาใจพระพุทธเจ้าเท่านั้น นอกนั้นไม่เอาใจใครทั้งนั้นแหละ กิเลสมันเยอะ”
ชัดที่สุดเลย นี้คือวิธีการตัดสินใจของคุณยายอาจารย์ อุบาสิกาจันทร์ขนนกยูง
หลวงพ่อคิดว่าทั้งหมดที่พูดมานี้ได้ครอบคลุมกรณีต่าง ๆ พอสมควรแล้วก็อย่างที่ว่า ถ้าจะให้ตัดสินใจไม่ผิดพลาด ก็คงต้องใช้วิธีสุดท้ายอย่างที่คุณยายอาจารย์ว่า แต่จะใช้วิธีเอาใจพระพุทธเจ้าได้นั้น ก็ต้องพยายามเข้าถึงธรรมกายให้ได้ เห็นพระนิพพานที่อยู่ในกลางศูนย์กลางกายให้ชัด แล้วการตัดสินใจของเราจึงจะไม่ผิดไม่พลาด แต่ประการใด.