สอนลูกให้รักพ่อแม่
เมื่อสามีภรรยาคู่หนึ่งอยู่กินกันมาจนมีลูก ๒ คน หญิงหนึ่ง ชายหนึ่ง สองคนช่วยกันทำมาหากินเลี้ยงลูกจนโตแล้วพาไปเข้าโรงเรียน และพยายามอบรมบ่มเพาะนิสัยเป็นคนดีให้ลูก เห็นพ่อบ้านยังไม่กลับจากที่ทำงาน แม่เรียกลูกๆ มาพูดคุยเรื่องนั้นเรื่องนี้ แล้วปรารภถึงสามีให้ลูกฟังประจำ
“พ่อของลูกนี่ขยันจริงๆ นะลูก ตั้งแต่แต่งงานกับแม่มา ไม่เคยเหลวไหลเลย ทำงานตัวเป็นเกลียวหาเลี้ยงลูกและแม่ เหล้า ยา บุหรี่ไม่เคยแตะ ทั้งยังซื่อสัตย์อีกต่างหาก เจ้านายจึงรัก แม่โชคดีที่ได้แต่งงานกับพ่อของลูก และลูกก็โชคดีที่ได้เกิดมาเป็นลูกของพ่อ”
เด็กๆ ฟังแม่พรรณนาความดีของพ่อทำนองนี้บ่อยๆ ทำให้เกิดรักพ่อมากขึ้นทุกวัน และสังเกตดูพ่อก็เหมือนกับที่แม่บอก ยิ่งปลื้มในตัวพ่อ และยิ่งรัก ยิ่งเคารพ ถือเอาพ่อเป็นแบบอย่าง วันใดพ่ออยู่บ้านกับลูกๆ แม่ออกไปจ่ายตลาด พ่อก็จะพูดกับลูกๆเหมือนกันว่า
“แม่ของลูกนี่น่ารักนะลูก เป็นแม่บ้านแม่เรือน พ่อปลื้มที่สุดเลย เพื่อนๆ ของพ่อเขายังชมกันเลยว่าพ่อโชคดีที่ได้แต่งงานกับแม่ของลูก ตอนที่ตั้งท้องลูกๆ นะ แม่เขาระมัดระวังท้องมีให้อะไรมากระทบเลยละ คลอดออกมาแล้วก็เฝ้าทะนุถนอมลูกอย่างกะไข่ในหินเชียว แม่เขารักลูกมากนะลูก ยอมลาออกจากงาน มาดูแลลูกเอง พ่อบอกให้จ้างพี่เลี้ยง แม่เขาก็ไม่ยอม อยากจะเลี้ยงลูกเอง พ่อก็ไม่ว่าอะไรอีก”
ลูกๆ ซึมซับความดีของแม่เข้าไว้ในใจทำนองนี้บ่อยๆ ก็รู้สึกรักแม่มากขึ้น เห็นใจแม่มากขึ้น อยากช่วยแม่ทำงานบ้าน ไม่อยากให้แม่ผิดหวัง ไม่อยากให้แม่เสียใจ ตั้งใจว่าโตขึ้นจะเลี้ยงแม่ให้มีความสุข ก็คิดไปตามประสาเด็กๆ แต่เป็นความคิดที่วิเศษ เป็นความคิดที่ฝังแน่นอยู่จิตสำนึก มาตั้งแต่เด็กๆ เมื่อเด็กทั้งสองโตขึ้น ก็ไม่เคยทำให้พ่อแม่ผิดหวังเลย เรียนหนังสือก็เก่ง มีความประพฤติที่ดี ว่าง่ายสอนง่าย ไม่เคยนิ่งดูดาย ช่วยพ่อช่วยแม่ทำงานบ้านเท่าที่กำลังจะมีทำได้ พ่อแม่ทั้งคู่สุดแสนจะปลื้ม ที่ลูกทั้งคู่ เป็นลูกกตัญญู หายเหน็ดหายเหนื่อย ที่เลี้ยงดูอุ้มชูกันมา
เรื่องนี้สื่อความให้เห็นว่า
พ่อแม่ทุกคนย่อมต้องการให้ลูกของตนเป็นคนดี เป็นคนกตัญญู และรักพ่อรักแม่ แต่สำเร็จตามต้องการบ้างไม่สำเร็จบ้าง เทคนิคการสอนลูกให้รักพ่อรักแม่และเชื่อฟังพ่อแม่นั้นมีหลากหลายวิธี อย่างเช่น “แนะให้ทำ นำให้ดู อยู่ให้เห็น” ก็เป็นวิธีหนึ่ง การให้ลูกได้ยินได้ฟังเรื่องดีๆ ของพ่อจากปากแม่หรือเรื่องดีๆ ของแม่จากปากพ่อก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะทำให้ลูกเกิดความประทับใจในตัวพ่อแม่ เพราะเด็กๆ นั้นเหมือนผ้าขาวพร้อมที่จะซึมซับเอาทุกสิ่งที่ผ่านมาสัมผัสเข้าไว้ เมื่อได้ฟังเรื่องดีๆก็ซึมซับเรื่องดีๆ ไว้ในใจ ทำนองเดียวกัน หากได้ยินพ่อด่าแม่นินทาแม่ให้ฟัง หรือได้ยินแม่ด่าพ่อนินทาพ่อให้ฟัง ก็จะซึมซับไว้ แต่จะรู้สึกเกลียดพ่อเกลียดแม่ทีละเล็กละน้อย ยิ่งเห็นพ่อประพฤติอย่างที่แม่บอกหรือเห็นแม่ประพฤติอย่างที่พ่อบอกกยิ่งเร่งให้ความรู้สึกไม่รักพ่อไม่รักแม่เพิ่มดีกรีขึ้น ความปลื้มใจความภูมิใจในตัวพ่อในตัวแม่ไม่เคยมีเลย ดังนั้นท่านจึงบอกว่าทุกเรื่องสำหรับลูกจะต้อง “เริ่มที่พ่อ ต่อที่แม่” ทั้งสิ้น