การอ่านออกเสียงในการเทศน์
ในการเทศน์ทุกรูปแบบไม่ว่าจะเทศน์แบบปากเปล่าหรือเทศน์แบบอ่านคัมภีร์ ล้วนต้องเกี่ยวข้องกับเรื่องการอ่านการออกเสียงโดยตรงเรื่องนี้จึงเป็นเรื่องสำคัญพอๆกันกับเนื้อหาสาระของบทเทศน์ เพราะเป็นสื่อที่จะเข้าถึงหูผู้ฟังโดยตรง แม้บทเทศน์จะมีเนื้อหาดีแต่อ่านหรือออกเสียงไม่ถูกต้องก็ทำให้บทเทศน์ด้อยลงไปถนัดในที่นี้จักแสดงแนววิธีการอ่านการออกเสียงเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับการเทศน์พอเป็นแนวทางโดยสังเขป กล่าวคือในการเทศน์นั้นผู้เทศน์พึงคำนึงถึงแนววิธีเหล่านี้ คือ
(๑) อ่านออกเสียงให้ถูกตามหลักการอ่าน ดังกล่าวมาในตอนต้นแล้วว่าภาษาไทยนั้นมีหลักการการอ่านอยู่ ๒ แบบคืออ่านตามหลักภาษากับอ่านตามความนิยม และมีหลักมีรายละเอียดในการอ่านแต่ละอย่างอยู่ เช่น การอ่านตามอักขรวิธีของไทยการอ่านคำสมาสในบาลีสันสกฤต การอ่านคำประพันธ์ เป็นต้น เพราะฉะนั้นจำต้องพิถีพิถันในการอ่านในการออกเสียงให้ถูกต้องตามหลักนั้นไม่ควรปล่อยไปตามเคยชินเพราะไม่รู้ไม่สงสัย ทั้งไม่ควรตายใจว่าผู้หลักผู้ใหญ่บางท่านก็อ่านกันมาอย่างนั้น ในสื่อวิทยุสื่อโทรทัศน์บางครั้งก็อ่านอย่างนั้น เพราะบางคำก็อ่านกันผิดๆ กันมาตามความเคยชินก็มีเหมือนกัน ที่ดีคือควรใส่ใจแสวงหาวิธีการอ่านที่ถูกต้องด้วยตัวเองเพื่อให้เกิดความแน่ใจ ด้วยการถามไถ่ผู้รู้หรือด้วยการค้นคว้าจากตำรา
ตัวอย่างคำที่อ่านผิดกันบ่อยๆ
คําว่า คำอ่านถูก คําอ่านผิด
วิตถาร วิดถาน วิตตะถาน
อุตสาหกรรม อุดสาหะกำ อุตะสาหะกำ
อุตราภิมุข อุตตะราพิมุก อุ-ตรา-,อุด-ตรา-
พลีกรรม พะลีกำ พลี-กำ
พลีชีพ พลี-ชีบ พะลีชีบ
ฉิมพลี ฉิมพะลี ฉิม-พลี
ยุคลบาท ยุคนละบาด ยุคนบาด
นักษัตร นักสัด นักกะสัต
(๒) อ่านออกเสียงอักษรให้ถูกต้อง อักษรคือตัวพยัญชนะต่างๆมีวิธีออกเสียงต่างกันบ้างเหมือนกันบ้าง มีเสียงสูงบ้างเสียงต่ำบ้าง เพราะมีฐานคือที่เกิดเสียงต่างกัน เช่นเกิดที่คอ เกิดที่ลิ้น เกิดที่ริมฝีปาก การออกเสียงพยัญชนะเหล่านั้นถ้าว่าตามหลักภาษาโดยเคร่งครัดแล้วย่อมเป็นการยากที่จะออกเสียงให้ชัดเจนถูกต้องได้ทุกคำ ดังนั้นในการพูดและการอ่านปกติทั่วไปนั้น อักษรที่ต่างรูปกันและออกเสียงต่างกันแม้จะออกเสียงเหมือนกันก็พอรู้กันได้ว่าหมายถึงอักษรตัวไหนด้วยความเคยชิน เช่น ค กับ ฆ, ช กับ ฌ, ท กับ ธ, พ กับ ภ, และ ศ ษ ส ในการพูดในการอ่านอักษรเหล่านี้ปกติทั่วไปจะไม่ค่อยพิถีพิถันนักแต่มีอักษรอีกส่วนหนึ่งที่มีความเข้มงวดเน้นย้ำกันมากในการอ่านออกเสียง เพราะเมื่อออกเสียงผิดแล้วจะรู้สึกว่าขัดหูและรู้ได้ว่าออกเสียงไม่ถูก ซึ่งได้แก่กลุ่มตัว ร กับตัว ล และกลุ่มพยัญชนะพิเศษ เช่นตัว ฉ ช ง
ตัว ร กับตัว ล นี้จำเป็นต้องพิถีพิถันในการพูด ในการอ่าน รวมถึงในการเทศน์ด้วย ส่วนใหญ่จะออกเสียง ร เป็น ล กันจนชินกระทั่งไม่สามารถจะออกเสียง ร แท้จริงคือต้องรัวลิ้นเล็กน้อยได้ หากต้องออกเสียง ร จำต้องฝืนความรู้สึกและติดขัดเพราะไม่ชิน เมื่อเผลอตัวก็เข้ารูปเป็น ล เช่นเดิม เช่นว่า
รวบรวม ออกเสียงเป็น ลวบลวม
รุ่งเช้า ออกเสียงเป็น ลุ่งเช้า
ระยะทาง ออกเสียงเป็น ละยะทาง
รางวัล ออกเสียงเป็น ลางวัน
ร้องเรียน ออกเสียงเป็น ล้องเลียน
ปรากฏ ออกเสียงเป็น ปลากด
ในทางกลับกัน จะเพราะกลัวผิด เพราะเผลอไป หรือเพราะเคยชินเมื่อออกเสียงตัว ล กลับรัวลิ้นเป็นตัว ร ไปก็มี เช่นว่า
ล่มจม ออกเสียงเป็น ร่มจม
เล่าเรียน ออกเสียงเป็น เร่าเรียน
ลำเอียง ออกเสียงเป็น รำเอียง
ล่องหน ออกเสียงเป็น ร่องหน
ส่วนอักษรกลุ่ม ฉ ช ง นั้นออกเสียงถูกต้องกันเป็นส่วนใหญ่แต่ก็มีบ้างที่ไม่สามารถออกเสียงได้ชัดเจนทุกครั้ง ซึ่งส่วนใหญ่จะติดมาจากถิ่นเดิมของตน ซึ่งในถิ่นนั้นออกเสียงกันอย่างนั้น เช่นว่า
ออกเสียง ฉ เป็น ส เช่น ฉิ่งฉับ เป็น สิ่งสับ, ฉันข้าว เป็น สันข้าว
ออกเสียง ช เป็น ซ เช่น ช้าง เป็น ซ้าง, โชติช่วง เป็น โซดซ่วง
ออกเสียง ช เป็น จ เช่น ช้าง เป็น จ๊าง
ออกเสียง ง เป็น ฮ เช่น เงิน เป็น เฮิน, งาน เป็น ฮาน
ออกเสียง ร เป็น ฮ เช่น รัก เป็น ฮัก, เรียน เป็น เฮียน
นอกจากอักษรเหล่านี้แล้ว กลุ่มคำควบกล้ำและกลุ่มอักษรนำซึ่งจะกล่าวต่อไปก็มีความสำคัญไม่น้อย จำต้องพิถีพิถันเช่นกัน
(๓) อ่านออกเสียงคำควบกล้ำให้ถูกต้องคำควบกล้ำ คือคำที่มีอักษร ๓ ตัวคือ ร ล ว ซ้อนอยู่ข้างหลัง อักษรอื่น เช่น กร จร กล ปล กว คว อักษร ๓ ตัวนี้จึงเรียกว่า อักษรควบ คำควบกล้ำนี้มีอยู่ ๒ แบบคือ คำควบแท้ กับ คำควบไม่แท้ มีวิธีการอ่านดังนี้
คำควบแท้ คือคำที่อ่านออกเสียงอักษรนำกับอักษรควบกล้ำเป็นเสียงเดียวกัน เช่นคำว่า กรด กลด กล้า ปรุง ปลด ปลิง กว่า เกวียน
ควาย ความ
คำควบไม่แท้ คือคำที่ไม่ต้องอ่านออกเสียงอักษรควบ ให้อ่านเฉพาะอักษรนำ เช่น จริง เศร้า ศรี เศรณี สระน้ำ สรวง สร้อย เสริม เว้นพิเศษเฉพาะตัว ร เมื่อควบอยู่กับตัว ท ให้ออกเสียงเป็นตัว ซ ดังตัวอย่างในคำประพันธ์โบราณว่า
ทรวดทรงทราบทรามทราย ทรุดโทรมหมายนกอินทรี
มัทรีอินทรีย์มี เทริดนนทรีพุทราเพลา
ทรวงไทรทรัพย์แทรกวัด โทรมนัสฉะเชิงเทรา
ตัว ทร เหล่านี้เรา ออกสำเนียงเป็นเสียง ซ ฯ
(หมายเหตุ คำว่า โทรมนัส ปัจจุบันใช้ว่า โทมนัส)
คำควบกล้ำนี้หากออกเสียงไม่ถูกต้องหรือออกเสียงไม่ชัดเจน จะทำให้ขาดห้วนและเสียหาย คืออ่านคำควบกล้ำแท้เป็นควบกล้ำไม่แท้เช่นนี้ย่อมไม่ถูกต้อง ไม่ไพเราะ และสะดุดหู เช่นคำว่า
ปรับปรุง อ่านว่า ปับปุง
เปลี่ยนแปลง อ่านว่า เปี่ยนแปง
กรวดทราย อ่านว่า กวดซาย
เกรงใจ อ่านว่า เกงใจ
น้ำกรด อ่านว่า น้ำกด, น้ำกลด
ปักกลด อ่านว่า ปักกด
ปรากฏ อ่านว่า ปากด
(๔) อ่านออกเสียงสั้นยาวให้ถูกต้อง คำในทุกภาษาย่อมมีเสียงสั้นบ้างเสียงยาวบ้างเมื่อออกเสียงถูกต้อง คือคำเสียงสั้นก็ออกเสียงสั้น คำเสียงยาวก็ออกเสียงยาว ย่อมทำให้เข้าใจได้ แต่ถ้าออกเสียงไม่ถูกต้องย่อมทำให้ความหมายผิดเพี้ยนไปได้ โดยเฉพาะในภาษาไทยมีคำลักษณะนี้มาก ถ้าออกเสียงไม่ถูกต้องเช่นคำเสียงสั้นแต่ลากเสียงให้ยาว คำเสียงยาวแต่ออกเสียงสั้น เหมือนอย่างคนต่างชาติพูดภาษาไทย ความหมายจะเปลี่ยนไปทันที เช่นคำว่า
ลักขโมย ออกเสียงว่า ลากขโมย
เธอดึงได้ ออกเสียงว่า เธอดึงด้าย
กินข้าวไป ออกเสียงว่า กินเข้าไป
ว่ายนํ้า ออกเสียงว่า ไหว้น้ำ
ประสาทตา ออกเสียงว่า ปราสาทตา
คำเหล่านี้เมื่อเห็นรูปอักษรย่อมรู้ความหมายได้ แต่ถ้าเพียงได้ยินแต่เสียงที่ผิดเพี้ยนไปก็ทำให้เข้าใจผิดได้เหมือนกัน