คุณธรรมข้อที่ ๓ ไม่เบียดเบียน
เรื่องที่ ๑
พระยอมเจ็บ ช่วยชีวิตนกกลืนแหวนทอง
มีพระเถระรูปหนึ่งรับนิมนต์ไปฉันอาหารในบ้านเศรษฐี เศรษฐีคนนี้เป็นคนยินดีในวัตถุมาก หลงใหลในความร่ำรวยของตนเองมากพอสมควร
เศรษฐีมีแหวนทองวงหนึ่ง ด้วยความประมาท เขาวางไว้ในห้องที่พระกำลังฉัน แล้วเขาก็ออกไปทำธุระหน้าบ้าน
ขณะที่พระกำลังฉันอยู่นั้น นกกระสาตัวหนึ่งคงเป็นนกที่คุ้นเคยกับบ้านเศรษฐี อยู่แถวๆ นั้น เข้ามาในบ้านเศรษฐี เห็นแหวนทอง ไม่รู้ว่าอะไร นึกว่าเป็นอาหารหรือเปล่า แต่ก็กลืนกินเข้าไปเลย
พระเถระกำลังฉัน ท่านเห็นอยู่ แต่ท่านก็ไม่ได้ว่าอะไร
พอเจ้าของบ้านกลับมาในห้อง นึกจะไปเอาแหวนที่วางทิ้งไว้ มองไม่เห็นแหวน หายไปเสียแล้ว ไม่มีใครเข้าใครออกห้องนั้น มีแต่พระเถระ เศรษฐีก็สงสัยว่าพระหยิบไป
พระเถระก็ปฏิเสธ แต่ไม่บอกว่านกกระสากลืนลงไป เพราะรู้ว่าเจ้าของบ้านคนนี้หวงสมบัติและใจค่อนข้างไม่มีเมตตา ถ้าขืนรู้ว่านกกระสากลืนลงไป ก็คงจะฆ่านกเพื่อเอาแหวนคืน
เมื่อพระเถระไม่ยอมรับว่าเอาไป และไม่ยอมบอกว่าใครเอาไป เศรษฐีจึงจับพระเถระเอาไว้ ตีและทรมาน จะบังคับให้บอกว่าเอาแหวนไว้ตรงไหน พระเถระก็เงียบ ถูกเขาทรมานแต่ก็ไม่พูด ยอมเจ็บด้วยความอดทน โดยคิดว่าตัวท่านเองทุกข์ทรมานดีกว่าคนนี้จะไปฆ่านกตัวนั้นเพื่อเอาแหวนคืน
ขณะที่เขาทรมานพระเถระอยู่ นกตัวเดิมก็บินผ่านเข้ามาอีก บินเข้ามาในห้อง มันคงจะเชื่องนกก็เดินวนเวียนอยู่แถวนั้น แต่เนื่องจากคนนี้กำลังอารมณ์ไม่ดี อารมณ์ร้ายมาก เห็นนกเข้ามาในบ้านเดินเกะกะ เขาเตะนกด้วยอารมณ์โกรธที่ค้างอยู่ ทีเดียวนกตายเลย พอนกตายแล้ว พระเถระจึงบอกว่า แหวนคงจะอยู่ในท้องของนกตัวนั้น เขาก็ผ่าท้องนกออกมา ก็เจอแหวนทองของเขา
เขาก็แสดงความเสียใจมาก ตัวเองทำบาปกรรม รีบขอขมาพระที่ล่วงเกินท่าน พระท่านก็ไม่ถือสา ท่านให้อภัย
นี่เป็นเรื่องที่เล่าในตำรา แต่ในตำราก็บอกด้วยว่าถึงแม้ว่ากราบขอขมา และพระท่านยกโทษให้ แต่ว่าตายแล้วคนนั้นก็ต้องตกนรก
นี่เป็นตัวอย่างของผู้มีจิตใจสูง ถือว่าตัวเองเดือดร้อนทุกข์ลำบากก็ยอมทน คิดว่าคุ้มค่านี่ถ้ายอมทำเพื่อคนที่รักหรือเพื่อนก็อย่างหนึ่ง แต่ท่านก็ยอมทุกข์ยากลำบาก แม้เพื่อช่วยชีวิตของนกกระสาตัวหนึ่ง ไม่อยากให้นกถูกคนพาลเบียดเบียน
เพราะฉะนั้น จะเห็นว่าความคิดของเราหลายอย่างก็จะเปลี่ยนไปเปลี่ยนไปด้วยศรัทธาเปลี่ยนไปด้วยการคิดพิจารณาด้วยปัญญา เมื่อเราเห็นความน่าเกลียดของบาปอกุศลได้ชัดขึ้น เราก็จะเห็นความงดงามของความดี