เรื่องที่ ๒ หลวงปู่ซือยุน เมตตาทหารทารุณ

วันที่ 06 กย. พ.ศ.2567

2567_09_06_b_01.jpg

 

 

เรื่องที่ ๒

หลวงปู่ซือยุน
เมตตาทหารทารุณ



              เมื่อประมาณ ๕๐ ปีที่แล้ว สังฆปรินายกของประเทศจีน หลวงปู่ชื่อยุน ท่านเป็นครูบาอาจารย์ที่ชาวจีนสมัยก่อนคอมมิวนิสต์ยึดอำนาจเคารพนับถือที่สุด หลวงปู่องค์นี้ท่านปฏิบัติเข้มข้นมาก ท่านทำอะไร ท่านจะให้เวลาทำนานๆ อย่างเช่น ท่านไปที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์แห่งหนึ่ง ปฏิบัติเวียนเทียน เวียนเทียนอยู่ ๗ ปี ! ไม่ใช่ ๗ วัน

                 อาตมาชอบมากที่ท่านบรรลุธรรมในขณะที่กำลังฉันน้ำชา เราฉันน้ำชาทุกวันก็ยังหวังว่าจะได้ตามท่านบ้าง บรรลุอรหันต์ขณะฉันน้ำชา !

 

2567_09_06_07.png



             ตอนที่คอมมิวนิสต์ยึดอำนาจ อายุท่านมากแล้ว ๙๐ กว่า เกือบ ๑๐๐ ปี ทีแรกพวกคอมมิวนิสต์ไม่กล้าทำอะไรท่าน เพราะว่ากลัวชาวบ้านจะโกรธ เขาก็ยังไม่ค่อยมั่นใจในอำนาจของตน อายุท่านก็เพิ่มขึ้นๆ รู้สึกจะเป็นช่วงปฏิวัติวัฒนธรรม ตอนนั้นท่านอยู่ในวัด ท่านอายุก็ ๑๐๐ กว่าปีแล้ว

                     พวกทหารหนุ่มไปกินเหล้าอยู่ในบ้าน แล้วก็ขึ้นรถไปที่วัด จากหลวงปู่ออกจากกุฏิ ทุบตีอย่างทารุณด้วยความคะนอง คิดว่าหลวงปู่คงตายแล้ว หัวเราะพอใจว่ากาฝากของสังคมตายไปอีกองค์หนึ่ง จากนั้นก็กลับไปกินเหล้าต่อ เหี้ยมที่สุด

               พระลูกศิษย์ลูกหาออกมารับร่างของหลวงปู่ น้ำตาไหล ครูบาอาจารย์ถูกทำร้ายอย่างนี้ทำไมเขาช่างโหดเหี้ยมเหลือเกิน หามท่านเข้าไปในกุฏิ ถวายการพยาบาล คิดว่าคงจะไม่รอดหรอกอายุร้อยกว่าปีแล้ว แต่คืนนั้นหลวงปู่ท่านไม่มรณภาพ

                    
พระท่านนั่งเฝ้าท่านทั้งวันทั้งคืน เข้าเวรกันเฝ้า ท่านก็ไม่ตาย พวกพระลูกศิษย์สังเกตว่าท่านใช้กำลังสมาธิรักษาโรค บางรูปเห็นพลังสมาธิของหลวงปู่ แล้วก็เกิดประทับใจเหมือนกัน โอ้ สมาธิของท่านดีเหลือเกิน ร่างกายบอบช้ำขนาดนี้ ท่านก็ยังรักษาได้

                   
แต่ก็มีพระบางรูปที่เกิดเสียศรัทธา เพราะเขาไปคิดสงสัยว่า เอ หลวงปู่นี่อายุร้อยกว่าปีแล้ว พวกเราทุกคนก็เชื่อว่าท่านเป็นพระอรหันต์ แล้วทำไมท่านหวงสังขารท่านเหลือเกิน ทำไมท่านไม่ปล่อย ถ้าเป็นผม ผมก็ปล่อยไปนานแล้ว พระบางองค์ก็คิดอย่างนั้น

                  
ตอนหลังเมื่อท่านฟื้น พอจะพูดกับลูกศิษย์ลูกหาได้ พระองค์หนึ่งบังอาจกว่าเพื่อนได้ถามหลวงปู่

                      “หลวงปู่ครับ หลวงปู่ยังหวงสังขารหรือครับ ยังไม่อยากตายหรือครับ?”

                       หลวงปู่ท่านตอบ ท่านยิ้ม ท่านตอบว่า

                 
“ไม่ใช่อย่างนั้น พวกทหารหนุ่มเหล่านั้น ถ้าเขาฆ่าผม สิ่งที่เขาทำจะเป็น "อนันตริยกรรม" พวกเขาต้องตกนรกอเวจี หลวงปู่คิดแล้วสงสารเขามาก เพราะว่าเขาถูกล้างสมอง เขาก็ยังอยู่ในวัยประมาท ถ้าเพียงแค่นี้เป็นเหตุให้ต้องตกนรกอเวจีเป็นกัปเป็นกัลป์ ผมก็จะสงสารเขามาก จึงต้องฝืนสังขาร ต้องฝืนให้หายจากเจ็บป่วยเสียก่อน เขาจึงจะพ้นกรรมหนัก ไม่แน่ บางทีต่อไปเขาอาจจะสำนึกบาป อาจจะกลับกลายเป็นคนดีก็ได้ ต้องให้โอกาสเขา ไม่ให้กรรมที่เขาทำ ซึ่งเป็นกรรมหนักอยู่แล้วกลายเป็นอนันตริยกรรม”

                     นี่เป็นเหตุผลที่หลวงปู่ใช้สมาธิ กำลังสมาธิรักษาสังขาร ไม่ใช่กลัวตาย ลูกศิษย์ลูกหาฟังประทับใจ ซาบซึ้งในเมตตาหลวงปู่ สาธุ กราบไหว้หลวงปู่

                 
นี่เป็นตัวอย่างของจิตใจของผู้ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ แม้จะถูกทำร้ายจนกระดูกหักขาหักแขนหักกระดูกซี่โครงหัก ก็ยังไม่มีความรู้สึกอาฆาตพยาบาทแม้แต่นิดเดียว กลับไปสงสารเขาเป็นห่วงเขา เพราะยังมีความหวังว่า ต่อไปเขารู้สึกตัว เขาอาจจะเป็นคนดีแล้วก็ไม่อยากให้ใครไม่ว่าใครว่าทำอะไร ไม่อยากให้เขาตกนรก

               
เรื่องนี้พวกเราต้องเอาเป็นคติธรรม เป็นสังฆานุสติ เมื่อใครล่วงเกินเรา ด่าไป ว่าไป ตำหนิเราในเรื่องที่เราไม่ได้ทำ ใช้ภาษารุนแรง กระโชกโฮกฮากอะไรก็แล้วแต่ เทียบกับเรื่องนี้แล้ว มันก็แค่นิดเดียวหรอก เรานึกถึงครูบาอาจารย์จึงมีประโยชน์อย่างนี้

 

 

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.020727384090424 Mins