คุณธรรมข้อที่ ๔ อดทน ใจสู้
เรื่องที่ ๑
เศรษฐีขี้เบื่อท้าพนันลูกจ้าง
เรื่องนี้เกิดขึ้นที่ประเทศในทวีปแอฟริกา....ชายคนหนึ่งทำงานเป็นคนใช้ในบ้านเศรษฐี เศรษฐีคนนี้เป็นคนขี้เบื่อเพราะมีทุกสิ่งทุกอย่างที่ต้องการก็เลยเบื่ออยู่ตลอดเวลาต้องคิดหาอะไรแปลกๆ ใหม่ๆ จึงจะได้ไม่เบื่อมาก ห่างออกจากเมืองที่เศรษฐีคนนี้อยู่ มีเทือกเขา และภูเขาสูงมากเป็นพันเมตร วันหนึ่งเขาก็พูดกับคนใช้ของเขา
“ฉันสงสัยว่า มนุษย์เราสามารถที่จะยืนบนยอดเขานั้นตลอดคืน เปลือยกาย ไม่มีเสื้อผ้า ไม่กินอาหาร ไม่ดื่มน้ำ ไม่มีไฟ ไม่จุดไฟ จะเป็นไปได้ไหม?”
ที่เขาคิดแปลกๆ อย่างนี้ เพราะรวยมากเลยไม่รู้จะคิดอะไร ทีนี้ตามประสาคนใช้ก็เลยพูดได้แต่ “ครับ...ครับ...ครับ...” ไม่ค่อยได้ตั้งใจฟังเท่าไหร่ เศรษฐีจึงพูดต่อ
“เอาอย่างนี้ดีไหม พนันกัน ฉันพนันว่าเธอทำไม่ได้”
“ผม...ผมไม่มีอะไรจะพนันครับ เจ้านายครับ...” คนใช้รีบบอกย้ำ
“เธอไม่ต้องมีอะไรก็ได้ เอาอย่างนี้แล้วกัน ถ้าเธอสามารถยืนเปลือยกายบนยอดเขาตลอดคืนไม่กินอะไร ไม่ดื่มอะไร ไม่มีไฟให้ผิง ฉันจะยกที่ดินให้สัก ๑๐ ไร่ วัว ๓-๔ ตัว เอาไหม?”
คราวนี้คนใช้ก็ไม่มีทางหลีกเลี่ยง จึงตอบ “เอาครับ แล้วแต่เจ้านาย”
เศรษฐีอยากหาเรื่องแก้เบื่อ ก็เลยตอบตกลง
พอตกลงกับเจ้านายแล้วกลับไปคิด “โอ้... แย่แล้ว....เราจะทำอย่างไรดี... ต้องหนาวตายแน่ๆ...” พอดีเขารู้จักกับหลวงพ่อรูปหนึ่งซึ่งอยู่บนภูเขาอีกลูกปืนเทือกเขาเดียวกัน เขาจึงไปหาหลวงพ่อ และเล่าให้ฟังว่าได้ตกลงกับเจ้านายไว้ว่าอย่างไร
หลวงพ่อรู้ว่าบนยอดเขานั้นสูงนับพันเมตรตอนกลางคืนลมแรงมากและอันตราย
ด้วยความเมตตาหลวงพ่อจึงบอกว่า
“ไม่ต้องกลัวหรอก ต้องทำได้ หลวงพ่อจะขึ้นอยู่บนยอดเขาลูกนี้และจุดไฟ ซึ่งจากยอดเขาที่เธออยู่จะมองเห็นไฟ ให้เธอยืนเพ่งที่ไฟของหลวงพ่อนะ แล้วให้ระลึกอยู่ตลอดเวลาว่า หลวงพ่อผู้มีเมตตาต่อเรากำลังนั่งดูแลไฟให้ความอบอุ่นแก่เธออยู่”
คนใช้ตอบรับด้วยความดีใจ “ตกลงครับ !!”
พอตอนกลางคืนก็ขึ้นเขา โดยมีลูกน้องของเศรษฐีอีก ๓-๔ คนไปด้วย เพื่อเป็นพยาน
พอไปถึงบนยอดเขา ก็ถอดเสื้อผ้า ลมพัด ฮู...ฮู...ฮู... หนาว !! เขาเพ่งมองไปที่ยอดเขาลูกที่หลวงพ่ออยู่ตามที่หลวงพ่อแนะนำ ยืนเพ่งด้วยความตั้งใจ พอมองเห็นไฟก็รู้สึกอบอุ่นใจ สบายใจ
“โอ้ ! หลวงพ่อท่านเมตตาเรามาก หลวงพ่อท่านยังอุตส่าห์นั่งบนยอดเขา ดูแลไฟตลอดคืนเป็นเพื่อนเรา...” เขาก็ได้กำลังใจจากหลวงพ่อมาก
เขาเพ่งที่ไฟแล้วก็พยายามนึกถึงความร้อนของไฟ นึกถึงความเมตตาของหลวงพ่อผู้จุดไฟด้วยความรู้สึกอบอุ่นใจ ถึงกายจะทรมาน หนาวมากจนเกือบไม่ไหว แต่ในที่สุดเขาก็สามารถอยู่ได้ตลอดคืน
“โอ้โห ! ชนะแล้ว ! เรารวยแล้ว !” เขาคิดและบอกกับตัวเอง
เขาใส่เสื้อผ้าเดินลงไปหาเศรษฐี เศรษฐีไม่เชื่อว่าจะทำได้ เป็นไปได้อย่างไร?
คนใช้ก็ยืนยันว่า “ผมทำได้จริงๆ ครับ! ไม่เชื่อ เจ้านายก็ถามคนอื่นที่ไปเฝ้าดู”
ลูกน้องคนอื่นๆ ก็เป็นพยานว่าเป็นเรื่องจริง
พอคนใช้เห็นเศรษฐีประหลาดใจ เขาจึงอธิบายด้วยความภาคภูมิใจ
“หลวงพ่อของผมไปอยู่บนยอดเขาอีกลูกหนึ่ง แล้วจุดไฟตลอดคืน ผมเพ่งมองไปที่ไฟ ทำให้รู้สึกอุ่นพอที่จะเอาตัวรอดได้ตลอดคืนครับ”
พอเศรษฐีได้ยินว่ามีการจุดไฟอยู่บนยอดเขาอีกลูก จึงถือโอกาสบอกว่าทำผิดสัญญา
“ฉันบอกว่าไม่ให้มีไฟ เธอมีไฟตลอดคืน ไม่ให้ !! ที่ดินก็ไม่ให้ วัวก็ไม่ให้ !!”
คนใช้เสียใจมาก อดทน ใจสู้ ถึงขนาดนี้กลับไม่ได้อะไรเลย จึงตั้งใจจะไปฟ้องศาลปรากฏว่าผู้พิพากษาเป็นเพื่อนของเศรษฐี จึงตัดสินว่า
“ไม่ได้หรอก อย่างนี้ถือว่ามีไฟ ตกลงกันว่าจะไม่มีไฟ มองอยู่ที่ไฟ เพ่งอยู่ที่ไฟ แสดงว่ามีไฟ ตามตัวหนังสือของกฎหมาย”
คนใช้เลยหมดหวัง จึงไปปรับทุกข์กับหลวงพ่อ
หลวงพ่อบอกว่า “ไม่เป็นไร หลวงพ่อมีลูกศิษย์คนหนึ่งเป็นเศรษฐีเหมือนกัน กลุ่มเดียวกับพวกนี้ เดี๋ยวจะเรียกมาปรึกษากัน”
หลวงพ่อเล่าให้ลูกศิษย์คนนี้ฟัง ลูกศิษย์คนนี้มีปัญญาและมีคุณธรรม เขารับจะไปจัดการให้ เขาลงไปในเมืองแล้วประกาศว่า พรุ่งนี้จะมีงานเลี้ยงฉลองที่บ้าน ทุกคนที่ได้รับเชิญก็ตื่นเต้น เพราะรู้ว่าปาร์ตี้ของเศรษฐีคนนี้สนุกมาก อาหารก็อร่อย ทุกคนอยากไปเศรษฐีขี้เบื่อและเพื่อนผู้พิพากษาก็ได้บัตรเชิญ ทุกคนรีบไปกันตั้งแต่หัวค่ำ นั่งคุยกัน รอกันอยู่ในห้องรับแขก
กลิ่นอาหารก็โชยมา...โชยมา เป็นระยะๆ ด้วยความหอมของอาหารและด้วยความหิวของแขกที่มางาน ทุกคนก็จินตนาการต่างๆ นานา ว่าสงสัยจะมีอาหารอย่างโน้นอาหารอย่างนี้ มีความสุขกับกลิ่นอาหาร พอนานๆเข้า เอ ! ไม่เห็นเขาเอาอาหารมาสักที
“เอ๊ะ ! ทำไม? เจ้าของบ้านอยู่ที่ไหน?” นั่งทนอยู่นานท้องก็ร้อง จ๊อก...จ๊อก...จ๊อก !! เพราะว่ากลางวันไม่กล้าทานอะไรมาก เกรงว่าตอนกลางคืนจะทานไม่ได้เต็มที่ โอย ! ทุกข์จริงหนอ !!
สุดท้ายเศรษฐีเจ้าของบ้านก็เดินยิ้มเข้ามา ทุกคนเลยถามเกือบจะพร้อมกันว่า
“อาหารอยู่ที่ไหน? พวกเรามานั่งคอยจนหิวจะแย่แล้วนะ”
เจ้าของบ้านบอกว่า “อ้าว ! พวกท่านได้กลิ่นอาหารไปตั้งนานแล้วไม่ใช่หรือ?”
“กลิ่นจะไม่มีความหมายอะไรเล่า มันยังหิวอยู่ กลิ่นไม่ใช่อาหารนี่”
“อ้าว ! ก็เหมือนกับลูกน้องของเศรษฐีเพื่อนเราไม่ใช่หรือ อยู่บนยอดเขาหนาวๆ ยืนเพ่งมองไฟจากยอดเขาอีกลูกหนึ่ง ไม่ได้ความอบอุ่นแม้แต่นิดเดียว แต่ถูกตัดสินว่ามีไฟผิดสัญญา”
เศรษฐีขี้เบื่อฟังแล้วก็อาย หน้าแดง ผู้พิพากษาเพื่อนของเขาก็อาย หน้าแดง จากนั้นลูกศิษย์ผู้มีปัญญาของหลวงพ่อก็ขอโทษแขกที่ให้รอนาน และได้สั่งอาหารมาเลี้ยงแขก
หลังจากนั้น เศรษฐีขี้เบื่อก็เรียกคนใช้มา ตกลงยกที่ดินและวัวให้ตามที่เคยพูดไว้