เรื่องที่ ๒
ทายาทสืบราชสมบัติ
ฮ่องเต้พระองค์หนึ่งมีแต่พระธิดา ไม่มีโอรส จึงต้องหาคนมาเพื่อสืบทอดราชสมบัติ และปกครองประเทศต่อไป ท่านจึงคิดหาอุบายโดยเรียกคนหนุ่มผู้มีความสามารถเข้าไปในวังหลายสิบคน และแจกเมล็ดพันธุ์พืชคนละเมล็ด ท่านสั่งคนหนุ่มเหล่านี้เอาไปปลูก ปีหน้าครบ ๑ ปีให้เอามาดูว่าปลูกได้อะไรบ้างขนาดเท่าใดบ้าง
ทุกคนก็นำเมล็ดไปที่บ้าน บ้างก็กลัวคนอื่นจะขโมยเมล็ดไป บ้างก็กลัวคนอื่นจะทำลายจึงปลูกกันอย่างระมัดระวัง
มีชายหนุ่มคนหนึ่งเขาปลูกแล้วมันไม่ขึ้น ทำอย่างไรก็ไม่มีต้นอะไรขึ้นมาสักที ทั้งๆ ที่เขาหาดินที่ดีที่สุด รดน้ำเป็นประจำแล้วก็ตาม เขารู้สึกน้อยใจ จึงแอบถามคนอื่นว่า ปลูกเป็นอย่างไรบ้างบางคนบอกว่าได้ ๑ ฟุตแล้ว บางคนบอกว่าได้ ๒ ฟุตแล้ว เป็นต้นไม้ที่สวยงามมาก มีแต่ชายคนนี้เท่านั้นที่ปลูกไม่ได้อะไรเลย
เวลาผ่านไป ๑ ปี ถึงเวลาที่ทุกคนจะต้องเข้าไปในวัง ชายคนนี้รู้สึกอายมากที่ไม่มีอะไรขึ้นมาเลย ก็ฟังว่าคนนั้นคนนี้มีแต่ต้นไม้งามๆ ทั้งนั้น จะทำอย่างไรดี จะไม่เข้าวังก็เกรงจะเป็นเรื่อง อาจจะถูกลงโทษ ก็เลยต้องเข้าไปในวัง เอาแต่กระถางพร้อมเมล็ดไปอย่างเดียว ไม่มีอะไรงอกให้เห็น
เขายืนอยู่ในแถวเดียวกับชายหนุ่มคนอื่นที่ถือต้นไม้ล้วนแต่สมบูรณ์สวยงาม
ฮ่องเต้เดินผ่านชายหนุ่ม และต้นไม้หลายต่อหลายต้น ท่านมองที่ชายคนนี้ ชี้ว่าคนนี้แหละที่จะให้เป็นทายาทเพื่อเป็นจักรพรรดิต่อไป เพราะอะไร เพราะเมล็ดที่แจกไปนั้นเป็นหมันทุกเม็ดมีคนนี้คนเดียวที่ซื่อสัตย์ ไม่เอาต้นไม้อย่างอื่นมาหลอกว่าเป็นเมล็ดที่รับมาจากฮ่องเต้ ฮ่องเต้ฉลาดต้องการคนซื่อสัตย์ ต้องมีอุบาย ฉะนั้นต้องมีอุบายกลั่นกรองคน
สมัยก่อนให้ความสำคัญกับความซื่อสัตย์ ไม่ใช่ถือว่าทุจริตแต่ไม่มีใครจับได้เก่งกว่าซื่อสัตย์ คือ ไม่ใช่จะดูว่าใครปลูกต้นไม้ที่งามที่สุด ก็เรียกว่าเก่งที่สุด