เรื่องที่ ๒
เด็กหนุ่มมีสติ ชนะโจร
เด็กหนุ่มคนหนึ่ง อยู่ในต่างจังหวัด ยากจนมาก ไม่มีงานทำ เนื่องจากเป็นเด็กมีปัญญา ใฝ่รู้ จึงแสวงหาหนทางไปทำงานต่างประเทศ เขาประสบความสำเร็จ เป็นคนขยัน ได้เงินก้อนใหญ่ ก็เลยคิดจะกลับบ้านไปตั้งตัว
ระหว่างเดินทางกลับบ้าน ไปเจอโจรผู้ร้ายขู่จะยิง เขาก็เลยจำยอมยกเงินให้โจร ทีนี้เขาก็นั่งเศร้า คิดหาวิธีการเอาเงินคืนอย่างไรดี เขาตั้งสติและหาทางเจรจากับโจร
เขาบอกว่า “พี่ครับ ผมทำงานตั้งหลายปีเหนื่อยยากมากกว่าจะได้เงินมา และได้บอกทางบ้านไปแล้วด้วยว่ามีเงินจะมาให้ พี่จะเอาไปก็ไม่เป็นไร แต่ว่าแหม ถ้าผมกลับบ้านแล้วคงไม่มีใครจะเชื่อว่าผมไปทำงานกลับมารวย เขาคงคิดว่าโกหก”
“พี่ช่วยผมนิดหนึ่งได้ไหม เพื่อรักษาหน้าผม ขอให้ยิงปืนใส่กระเป๋าเงินสัก ๒ ลูก เพื่อเป็นหลักฐานว่าผมถูกจี้ปล้นจริง”
โจรได้เงินมาก ใจดีแล้ว ก็เห็นใจ ตกลงยิงตามคำขอ ปัง ! ปัง !
“ขอบคุณ ขอบคุณมาก” เขานั่งคิดอยู่อีกพักหนึ่ง และพูดต่อ
“ผมไม่อยากจะรบกวนมากนะ แต่ถ้าขอที่หมวกผมอีกสัก ๒ ลูก มันจะดูดี คนก็จะเห็นใจมาก ขออีกสัก ๒ ลูก ยิงใส่หมวกให้ด้วยครับ”
“ได้ ได้” ปัง ! ปัง !
“แหม ขอบคุณมากๆ ครับ พี่ใจดีมาก คือ ผมไม่ขออะไรมากแล้ว อีกนิดหนึ่งนะ เสื้อกันหนาวผมด้วยได้ไหม อีกสัก ๒ ลูกนะ”
“เอา เอา” ปัง ! ปัง !
ลูกกระสุนหมด 5 ลูก ปืนหมดกระสุนแล้ว เขารีบวิ่งจับโจรผู้ร้าย เข้าไปต่อสู้จนชนะ สามารถเอาเงินคืนมาได้ กลับบ้านรวยเหมือนเดิม !
เด็กหนุ่มเขาสมาธิดี ไม่ตกใจ ไม่เสียใจ ไม่ทุกข์มาก ควบคุมสติ สงบอารมณ์ได้ ความคิดแก้ปัญหาก็เกิดขึ้น เขารู้ว่าปืนมีกระสุนแค่ 5 ลูก ทำอย่างไรจะให้เขายิงปืนโดยไม่ยิงตัวเรา เขาคิดหาอุบายได้ภายในไม่กี่วินาที และก็ได้ผล
เป็นนิทานเก่าแก่ จะเห็นว่าคนที่สงบอารมณ์ได้ สามารถจะคิดเรื่องอะไรหรือแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดีกว่าคนที่เจ้าอารมณ์
สำหรับบางคน ในกรณีนี้อาจยอมแพ้ ไม่คิดหาทางแก้ไข ตีโพยตีพาย หมดกำลังใจ มัวโอดครวญ เกิดมามีกรรมอะไรหนอ? เหนื่อยมาแทบแย่ ยังต้องมาหมดตัว กลุ้มใจจริงๆ มัวแต่กลุ้ม ไม่ได้แก้ปัญหา