พี่ครับ !
.....…เรามักจะเปลี่ยนงาน เปลี่ยนเพื่อนบ่อยๆ แต่ไม่เคยเปลี่ยนตัวเองตราบกระทั่งมีใครสักคนมาสะกิดถึงจะนึกออกได้บ้างมีเพื่อนสองคนรู้จักกันตั้งแต่เป็นวัยรุ่น จนป่านนี้ล่วงเลยไปสามสิบกว่าแล้ว ยังคบหาถามไถ่กันเช่นเคย เราสามคนเป็นเพื่อนสนิทกันมาก เฮไหนเฮนั่น แต่อัธยาศัยคงต่างกัน เพื่อนสองคนแต่งงานมีบุตรอย่างน้อยฝ่ายละสองคนแล้ว ส่วนเรายังรักชีวิตโสด อยากบำเพ็ญประโยชน์ให้กับชาวโลกอยู่
.....วันหนึ่งเจอกัน เพื่อนชายทั้งสองต่างบ่นถึงปัญหาชีวิตครอบครัวให้ฟัง ระหว่างที่เพื่อนพรรณนาถึงชีวิตเศร้าปนรันทดอยู่นั้น ใจกลับนึกถึงคำสอนของพระพุทธองค์ที่ตรัสถึงชีวิตการครองเรือนว่า เป็นทางมาแห่งธุลี มีความยุ่งยากใจมาก ต่างฝ่ายอยากได้คนในอุดมคติมาเติมเต็มส่วนที่ขาด แต่เมื่อเจอคนที่ขาดเหมือนกัน ผลที่ได้คือขาดเป็นสองเท่า ความจริงคือมนุษย์เรามีเรื่องที่ต้องดูแลตัวเองอย่างน้อย ๒ เรื่อง เรื่องแรก ภาษาพระเรียกว่า การบริหารขันธ์ หรือการดูแลรักษาร่างกายที่เสื่อมลงทุกวันๆ ให้คงสภาพดีอยู่เสมอ
.....เรื่องที่สองคือ ดูแลเรื่องใจเราเอง จิตใจที่สับสัน วิ่งวนรอบโลกในเรื่องราวต่างๆมีอารมณ์ไม่น่าพอใจหมั่นแวะเวียนเข้ามา มีเรื่องให้ขัดใจตัวเองได้ตลอดวัน ลำพังวันหนึ่งๆคิดแต่ในเรื่องตัวเองก็หมดเวลาแล้ว จึงเป็นเหตุผลสำคัญว่า ไม่มีใครในโลกที่จะเอาใจใครได้ตลอดเวลาอย่างแท้จริง เพราะต่างฝ่ายต่างมีภาระแห่งตนที่ต้องลำบากดูแลอยู่แล้ว จึงเป็นปัญหาของการอยู่ร่วมกันของคนที่ยังไม่สมบูรณ์ ลองถามตัวเราว่าแท้ที่จริงแล้วเราเกิดมาเพื่อจะอยู่ร่วมกัน หรือเกิดมาเพื่อจะทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด คนที่รู้จักหน้าที่ที่แท้จริง จึงจะสามารถมองเห็นเป้าหมายชีวิตได้ แต่เมื่อการณ์เป็นเช่นนี้ หนทางเดียวที่จะทำให้คนไม่สมบูรณ์เหมือนกันอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข คือ การเป็นกัลยาณมิตรซึ่งกันและกันเท่านั้น ไม่มีหนทางอื่นเลย ไม่ได้ด้วยการจ้องจับผิด หรือการคาดหวังใดๆ
.....ในขณะที่คิดไปเพื่อนทั้งสองคนยังคงพร่ำพูดเรื่องของตนอยู่ ส่วนใหญ่จะตำหนิภรรยาที่ไม่ได้อย่างใจ ครั้นจะยกธรรมะมาเล่าให้ฟังไม่รู้จะเข้าใจหรือเปล่า เลยอ่อนใจ ฟังเงียบๆดีกว่า เพื่อนเล่าเรื่องสะกิดใจเรื่องหนึ่งให้ฟังว่า ระหว่างนั่งรถแท็กซี่มากันสองคนต่างนินทาคนทางบ้านอย่างออกรส เพื่อนคนแรกบ่นว่า" แฟนข้านะแย่จริงๆเลยเอ็ง เธอไม่เคยจำได้เลยว่าต้องวางมีดไว้ข้างไหนเวลาจัดโต๊ะกินข้าว " " แฟนข้านะ ใช้กระดาษเช็ดปาก ไม่ใช้ผ้าเช็ดปากเวลาจัดโต๊ะ " เพื่อนคนที่สองบ่นบ้าง " พี่ครับ " คนขับแท็กซี่พูดขึ้น " ผมขับรถแล้วหันหลังให้พี่นี่ พี่คงไม่ว่าอะไรนะครับ "
.....…….!!!!!!!!!………
อุบลเขียว