รู้คุณค่า... ถ้ามีจำกัด
.....การดำเนินชีวิตอยู่ไปวันๆ ถ้าไม่มีเหตุการณ์หรือภารกิจสำคัญอะไรมาเป็นตัวกำหนด ร้อยทั้งร้อยมักมองว่าเวลานั้นมีตั้งยี่สิบสี่ชั่วโมงต่อวัน แต่ถ้าหากเรามีเหตุจำเป็นหรือการงานอะไรต้องทำให้เสร็จ ชนิดทำแข่งกับเวลาเรามักจะโหยหาอ้อนวอนให้มันมีสักสามสิบหก สี่สิบแปด หรือหลายๆ ร้อยชั่วโมงต่อวัน
.....โดยเฉพาะห้วงเวลาชีวิตในบั้นปลายที่เรารู้ว่าอาจต้องอำลาโลกนี้ไปนิรันดร์ เรายิ่งต้องการให้เวลาที่เหลืออยู่นั้นมีคุณค่ามากที่สุด นักโทษแดนประหารหรือบุคคลที่เพิ่งผ่านช่วงวิกฤตแบบต้องเอาชีวิตเป็นเดิมพันนั้น เขาจะรู้ค่าของเวลามากที่สุด อย่างรุ่นพี่ของผมตอนที่เขาเดินทางไปทำมาหากินในประเทศย่านตะวันออกกลาง เกิดนึกสนุกไปวาดรูปล้อเลียนที่ผนังเข้าซึ่งชาวมุสลิมเขาถือว่าลบหลู่ดูถูกอย่างรุนแรง เป็นเรื่องราวใหญ่โตเลยคราวนี้
.....เมื่อถูกจับได้โทษของเขาถึงประหารชีวิตเลยทีเดียว อาจารย์เล่าให้ฟังว่าตอนแรกพี่เขาใช้วิชาหลบหลีกและก็ทำเกือบสำเร็จคือ หนีมาถึงสนามบินคือถ้าจะหนีไปก็คงรอดปลอดภัย ส่วนพวกพ้องอีกสามคนยังคงถูกจับรอประหารอยู่ และด้วยสปริตเขาตัดสินใจกลับไปร่วมหัวจมท้ายกับเพื่อนๆ เขาเดินกลับไปหาความตายอย่างองอาจ เรียกว่ากล้าทำผิดก็ต้องรับผิดว่าอย่างงั้น!
.....บทบาทชีวิตในช่วงนั้นจะตีโพยตีพายขอโทษขอโพยคงไม่สำเร็จ เพราะห้วงเวลาที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเขานั้นมันพลาดพลั้งไปเสียแล้ว รุ่นพี่ของผมเขาเป็นศิษย์มีครูเคยบวชเคยเรียนมา เห็นทีจะได้ใช้วิชาชีวิตเพื่อตัวเองก็คราวนี้ เขาใช้เวลาทุกวินาทีที่มีอย่างจำกัดนี้อย่างคุ้มค่า เขาเฝ้านั่งภาวนาแบบทิ้งชีวิต ในคุกนั้นการได้อยู่นิ่งๆ แล้วหยุดคิด หยุดความกลัวทั้งปวงจนกระทั่งได้รับความสุขจากการปฏิบัติ เป็นการรับรู้และเข้าใจว่าเขาควรจะทำ และต้องทำอะไรในห้วงเวลาสุดท้ายของชีวิต เวลานั้นหากปาฏิหารย์มีจริงเขาก็รอด แต่ถ้าไม่มีเขาก็อาจหาญพอที่จะเผชิญกับความตาย อย่าง ไม่กลัวเกรง
.....จากเหตุการณ์ครั้งนั้นเขาและเพื่อนอีกหนึ่งคนรอดมาได้จากการต่อรองและช่วยเหลือจากสถานฑูตฝ่ายไทย ส่วนอีกสองรายต้องรับโทษตามเดิม เขาทั้งสองคนที่รอดมานั้นยืนยันมั่นเหมาะว่าเป็นเพราะบุญกุศลจากการทำภาวนาในครั้งนั้น ถือเป็นการหยุดใจที่ได้ผลกว่าการทำภาวนาในครั้งไหนๆปาฏิหารย์ครั้งนี้จึงไม่ใช่ความบังเอิญ แต่เป็นการหยุดใจ หยุดกลัว ด้วยการเอาชีวิตเป็นเดิมพัน
.....หากเวลาที่เหลืออยู่ของเรากำลังจะหมดไป จะด้วยเหตุการณ์ข้างต้น หรือโรคภัยไข้เจ็บรุมเร้า หรือไม่ก็เป็นอุบัติเหตุร้ายแรง เราจะต้องรอเวลาและชีวิตนั้นให้เหลือน้อยเสียก่อนจึงจะรู้ค่ากระนั้นหรือ ?
จีระ ศุภวัฒน์