....ช่วงจังหวะหนึ่งของชีวิตที่รู้สึกว่า ความเครียดเข้ามากอดรัดไว้ทั้งร่างกายและจิตใจ หนักอึ้ง อึงอลไปหมด ฟ้าไม่สวย ต้นไม้ดอกไม้สีหม่นหมอง ไม่มองหน้าพระจันทร์ ไม่เคยฝันถึงทะเล ชีวิตช่วงนั้นอยู่กิน หลับนอนอยู่กับตัวเลข เพื่อเป้ายอดขายที่จะพาให้ดิฉันก้าวไปสู่ตำแหน่งที่หมายมั่นเกือบบ่ายสองโมงแล้ว ดิฉันยังไม่ได้ทานอาหารกลางวัน ความหิวทำให้ต้องวางมือจากงานตรงหน้า เดินออกไปหาข้าวทาน ลัดเลาะเข้าไปในซอยย่านสี่พระยา ถึงบ้านเก่าหลังใหญ่ที่เปิดเป็นร้านอาหาร ชื่อร้าน ร่มไผ่ ร่มรื่นสมชื่อ ต้นไม้ใหญ่ยืนต้นให้ร่มเงาน่าสบาย ลมเย็นพัดมา เสียงใบไผ่หลู่ลมทำให้บรรยากาศดีเหลือเกิน
.....ดิฉันสั่งอาหารแล้วเลือกที่นั่งใต้ต้นไม้ ธรรมชาติกลางป่าคอนกรีตเช่นนี้ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย ขณะกำลังปล่อยอารมณ์เพลินอยู่นั้น ดิฉันเหลือบไปเห็นสิ่งที่ไม่น่าเป็นไปได้ แต่ก็กำลังปรากฏอยู่ตรงหน้า คิดว่าถ้าไม่ได้เห็นกับตา มีใครมาเล่าให้ฟังก็ต้องบอกว่าเชื่อยากดิฉันเห็นแมวตัวลาย สีน้ำตาลสลับดำ กำลังคุดคู้เอาขาหน้าสองขา ปิดหัว ปิดหูไว้ ป้องกันการเจ็บตัวจากสัตว์ตัวเล็กสองตัวที่รุมทำร้ายมันอยู่ คุณเดาไม่ออกใช่ไหมคะ? ว่าตัวอะไรที่กำลังทำร้ายเจ้าแมวลายอยู่ เจ้าเกเรสองตัวนั่น คือ นกกระจอก แค่ชื่อมันก็กระจอกมากแล้ว ดิฉันไม่เข้าใจเลยว่าทำไม เจ้าแมวตัวนั้นถึงไปปล่อยให้มันทำร้าย จิกตีอยู่ได้ โดยไม่คิดจะต่อสู้
อย่าว่าแต่จะสู้เลย ความจริงเจ้านกน้อยมันน่าจะถูกจับกินเสียด้วยซ้ำ การกระทำของมันออกจะเกินเลยไปหน่อย ที่บังอาจไปจิกตีแมว ส่วนเจ้าแมวลายก็เสียชาติแมวเสียจริงๆ ปล่อยให้เขาจิกตีอยู่ได้โดยไม่คิดจะต่อสู้
แรกเห็นดิฉันรู้สึกตกใจ แต่ดูไป ดูไป แล้วก็นึกขำจนกลั้นหัวเราะไม่อยู่ หันไปถามเจ้าของร้านว่าทำไมเป็นอย่างนี้ เจ้าของร้านบอกว่า ไม่รู้เหมือนกัน มันมาจิกตีแมวอย่างนี้ทุกวัน เจ้าแมวก็ได้แต่เอาขาหน้าปิดหัว ก้มหน้าคุดคู้อยู่อย่างนี้เอง เคยไปช่วยไล่นกกระจอกให้ พักเดียวมันก็กลับมาจิกตีแมวอีกพอนกกระจอกเกเรจิกตีจนหนำใจแล้ว ก็บินจากไป เจ้าแมวลายค่อยๆ ยันตัวลุกขึ้นอย่างอ่อนล้า ค่อยๆ ก้าวย่างอย่างกระปรกกระเปลี้ยไปแอบนอนอยู่ใต้เก้าอี้ แววตาเลื่อนลอย ไร้จุดหมาย
.....ดิฉันมองดูเจ้าแมวเซี่องตัวนี้แล้วคิดถึงตัวเอง ซึ่งคงก็ไม่ต่างอะไรกับมัน ดิฉันปล่อยให้ตัวเลขสมมุติ ที่นับกันจริงๆแล้วก็มีไม่เกินเลข ๑ ถึง ๐ เอามาเป็นเหมือนแส้คอยโบยตีอยู่ทุกวี่วัน ริ้วรอยบาดแผลที่เกิดขึ้นคือความเครียดที่ฝังลึกลงในจิตใจ จนสะท้อนออกมาถึงร่างกายก่อนที่จะดิฉันถามเจ้าแมวลายว่า ทำไม? ปล่อยให้เขาจิกตีอยู่ได้ ไม่รู้จักใช้กรงเล็บตบให้บ้าง ดิฉันควรหาคำตอบให้กับตัวเองก่อนว่า ทำอย่างไรจึงจะปลดความเครียดจากตัวเลขสมมุตินั้นได้เสียที
ภัทรา ประภาสชล