.....เมื่ออรุณเบิกฟ้า ทอประกายแสงเงินแสงทองส่องผืนหล้า ทั่วพิภพเหมือนตื่นจากหลับใหล เหล่าฝูงวิหคเริงร่าโผผินบินจากรัง พฤกษชาติพลันพลิกฟื้นคืนใบอีกครั้งเพื่อรอรับหยาดน้ำฟ้าครารุ่งอรุณ อากาศยามเช้าชุ่มเย็น เบาสบาย ต้อนรับวันใหม่ด้วยความสดใสเบิกบาน
.....มองไกลออกไปสุดสายตา ย้อนเวลาในอดีตจวบจนปัจจุบัน เมื่อเราเติบโตขึ้น บางสิ่งบางอย่างขาดหายไปจากใจ เนื่องจากการเรียนรู้ แข่งขัน การดิ้นรนต่อสู้ ซึ่งสิ่งที่ขาดหายไปนั้น มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อการแสวงหาความสุขภายใน ซึ่งเป็นความสุขที่แท้จริงของมนุษย์ทุกคน สิ่งนั้นคือ ความสุนทรีย์
.....มารู้จักสุนทรีย์ศาสตร์กันเถอะ...
.....สุนทรีย์ศาสตร์ เป็นเรื่องที่ว่าด้วย วิธีการที่จะทำให้เรามีความสุขได้ ทุกที่ ทุกเวลา เป็นการฝึกมองโลกในแง่ดี ทำให้สามารถดึงเอาความงามรอบตัวมาทำให้ตนเองชื่นใจได้ ฝึกให้เราเข้าใจกับสิ่งรอบตัว ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์ สิ่งแวดล้อม หรือความจริงของโลกและชีวิต
.....วิชานี้ เป็นวิชาสำหรับผู้นำโดยเฉพาะ ไม่ใช่ผู้ตาม ในสำนักตักศิลา ศูนย์รวมการศึกษาที่ใหญ่ที่สุดในยุคโบราณ วิชานี้เป็นหมวดหนึ่งที่จะสอนคนให้เป็นพระเจ้าแผ่นดิน ผู้นำจำเป็นต้องมีสุนทรีย์อยู่ในหัวใจ เพราะผู้นำต้องรู้จักคน ต้องเข้าใจว่าแต่ละคนเหมาะสมกับงานลักษณะอย่างไร
.....สุนทรีย์ศาสตร์ซ่อนอยู่ที่ไหน ? ซ่อนอยู่ในชีวิตประจำวัน ในธรรมชาติ เสียงเพลง ในอารมณ์ ได้จากการแสวงหาจากสิ่งรอบตัว สุนทรีย์ศาสตร์มีความสำคัญอย่างมากต่อการทำสมาธิ เพราะอารมณ์เป็นเครื่องห่อหุ้มใจ อารมณ์ไม่ใช่ใจ จะเห็นว่าเวลาหงุดหงิดจะทำสมาธิไม่ได้เลย เพราะโดนอารมณ์ไม่ดีบดบัง จึงเข้าไปไม่ถึงใจ หากอารมณ์ดีจึงจะเข้าไปถึงใจได้ง่าย และสิ่งนี้คือเทคนิคในการนำสุนทรีย์ศาสตร์มาใช้กับการทำสมาธิ
.....ในยามที่เรามีอารมณ์สบาย ลองทำตัวและใจให้กลมกลืนกับธรรมชาติ แว่วเสียงน้ำ แว่วเสียงลม แม้แต่ในความเงียบ...ก็ยังมีเสียงแห่งธรรมชาติ เสียงที่ไม่เคยหลับใหล จงเป็นดั่งลม ลมที่พัดไปได้ทุกหนทุกแห่ง คือ ผ่านใบไม้ ก็ไม่แสบ ไม่ร้อน ผ่านความชุ่มชื้น ก็สบาย ผ่านดงระกำก็ไม่เจ็บปวด พัดไปที่ไหนมีแต่คนต้อนรับ เป็นลมพริ้วๆ เย็นๆ ไม่ใช่ลมพายุ
.....การมีอารมณ์ดีอยู่เสมอนั้น จะต้องได้จากเทคนิคการแสวงหาความดีจากสิ่งรอบตัว รู้จักเปลี่ยนร้ายให้กลายเป็นดี เป็นทุกข์ให้เป็นสุข เพียงนึกถึงความดีที่มีอยู่ประจำโลก เมื่ออรุณเบิกฟ้า...สุนทรีย์ศาสตร์ได้เบิกใจพวกเรา ให้ดื่มด่ำกับอมตรสแห่งธรรมภายใน
อุบลเขียว