ไม้เท้ายอดทอง
.....คำว่า มิตรแท้ ในชีวิตคนเรา จะพบได้ต่อเมื่อยามทุกข์ยาก...ช่วงเวลาแห่งความยากลำบาก ไม่ได้เป็นความโชคร้ายเสมอไปเมื่อสองวันก่อน แม่ป่วย นอนซมไม่สบายเพราะพิษไข้ ถึงลูกๆจะอ้อนวอนอย่างไรท่านยังยืนกรานว่าจะไม่ไปโรงพยาบาลอย่างเด็ดขาด แม่กินยาจีน นอนพักผ่อนอยู่กับบ้าน
.....เสียงบ่นของแม่...หายไป กลับมีเสียงของใครอีกคนมาแทน ...เสียงของพ่อ พ่อที่ปกติลูกทุกคนลงมติว่า ...ดุ และ เงียบขรึม ...พ่อบ่นทุกวันเรื่องแม่ไม่ยอมไปหาหมอ แต่คุณพ่อขี้บ่นคนนี้เอง ที่ไปปรึกษาเภสัชกรที่ร้านขายยา ซื้อหายาอมแก้เจ็บคอ ซื้อยาแก้ไอที่แม่ใช้ประจำมาวางไว้หัวเตียง
.....พ่ออยู่ทานข้าวที่บ้านเป็นเพื่อนแม่ทุกวัน แม่แตะกับข้าวได้คำเดียว ...เอาใจพ่อ แต่พ่อกลับว่า...วันนี้เชฟฝีมือตก ทำไม่อร่อย เลยไม่ถูกปากแม่
.....วันนี้แม่อาการดีขึ้น ลุกขึ้นเดินเหินได้นิดหน่อย บ่นอยากกินแครกเกอร์กับโคโครอน แต่.ขนมที่บ้านหมด รวมทั้งแครกเกอร์ยี่ห้อโปรดด้วย พ่อ...ผู้ที่แสดงออกตลอดเวลาว่า เกลียดการเดินซุปเปอร์มาร์เก็ตเป็นที่สุด บอกลูกๆว่าน้ำส้มของพ่อหมดพอดี ไปซื้อกันเถอะ พวกเราอมยิ้ม พอย่างเท้าเข้าห้างสรรพสินค้า คนจะซื้อส้มเดินหา...แครกเกอร์...เออ
.....พ่อเองมีโรคประจำตัว คือโรคหัวใจ ต้องเดินช้าๆไม่ให้หัวใจทำงานหนักเกินไป แต่ในซุปเปอร์มาเก็ตวันนี้ พ่อเดินออกช่องนี้เข้าช่องโน้น คล่องแคล่วว่องไว หยิบทุกขวดทุกกระป๋องมาอ่าน เพราะแม่กินได้แต่ข้าวต้ม ทั้งผักดอง ผักกระป๋องพร้อมเครื่องปรุงถูกพ่อกวาดมาหมด จริงๆพ่อไม่ต้องลำบากขนาดนั้นเลย สั่งลูกๆไปซื้อก็ได้ ง่ายกว่าเยอะ แต่พ่อก็เลือกที่จะทำเอง เพราะพ่อเลือกของเหล่านั้น...ด้วยความรัก
.....ฉันมองตามรถเข็นที่พ่อเข็นไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ท่านเดินลิ่วๆไม่มองใครเลย มองแผ่นหลังที่เริ่มคุ้มงอเพราะวัยชรา เส้นผมสีดอกเลาทั้งศรีษะ ตาของพ่อ...มีไว้มองผู้หญิงคนเดียวในชีวิต มองหาแต่สรรพสิ่งที่เหมาะกับแม่
.....ย่างก้าวเดินตามพ่อนั้น สัมผัสได้ถึงความรักความผูกพัน ของคนที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกันมาตลอดสี่สิบปี ความรักเหล่านั้นส่งผ่านมายังลูกๆทุกคน บอกตัวเองว่า ฉันคงไม่มองหามิตรแท้ แต่จะเป็นมิตรแท้ให้ได้อย่างพ่อ ไม่ทอดทิ้งใครในยามลำบากถึงบ้าน..พ่อส่งยาอม หยิบยาแก้เจ็บคอให้แม่ พร้อมบอกว่าคราวก่อนฉันเจ็บคอกินแล้วหาย นี่ยังเหลือ เอาไปกินสิ ทั้งๆที่ยาอมหลอดนั้น มันยังไม่ได้แกะ!!...
โถ! ๆๆ...คุณพ่อของโลก
จีระศุภวัฒน์