ข้อคิดธรรมะจาก... พี่โน้ต(อุดม แต้พานิช)
ผมรู้สึกเสมอเลยครับว่า ชีวิตมนุษย์ทุกคนบนโลกใบนี้ เกิดมาทั้งทีเหมือนมีคนคอยกลั่นแกล้ง สอดแทรกเอาปัญหามาให้อยู่ตลอดเวลา เกิดมาก็มีติดตัวมาทันที เหมือนเป็นของแถม หลายคนก็มีตั้งแต่ยังไม่เกิดด้วยซ้ำ
เหมือนมีตัวอะไรสักตัวหนึ่ง กลัวว่าจะเกิดสันติสุขกับชาวโลก เขาจึงคอยจัดปัญหามาให้ จัดให้ครับ มาเรื่องเล็กบ้าง ใหญ่บ้าง แต่ไม่ขาดส่ง เศรษฐกิจ ปากท้อง ปัญหาจากรัก โลภ โกรธ หลง เกิด แก่ เจ็บ ตาย ฯลฯ สลับหน้ากันมาให้บริการ บางจังหวะไปตรงกับช่วงโปรโมชั่น มากันพร้อมหน้าทั้งโขยง ทำเอาชีวิตอับปางไปก็เยอะ
มนุษย์ทั้งหลายบนโลก ไม่ว่าผิวพรรณเชื้อชาติ ภาษา ต่างกันแค่ไหน กลับต้องมาว่ายชนกันอยู่ในอ่างแห่งปัญหานี้อย่างเมามึน
คนรักกันอยู่ดีๆ ก็ไม่รักษารักไว้ให้ดี เห็นเป็นรักเก่าอยากมีรักใหม่ วิ่งไขว่คว้า หาสิ่งที่คิดว่าสดชื่นกว่าอยู่ร่ำไป สุดท้ายของเก่าก็รักษาไว้ไม่ได้ ของใหม่ก็เป็นเพียงภาพลวงตา เหมือนหมามองเห็นชิ้นเนื้อในน้ำ
มีชื่อเสียงก็ไม่พอใจ อยากประสบความสำเร็จยิ่งๆขึ้นไป ไขว่คว้าหาการยอมรับไม่สิ้นสุด ใครโกง ใครหักหลัง ใครมาทำให้เจ็บ ก็เก็บความโกรธแค้นไว้ในใจ นับเดือน นับปี ก็มีจิตใจที่ขุ่นมัวทุกครั้งที่ได้เห็นที่ได้ยินเรื่องเกี่ยวกับเขา
โลภอยากได้ อยากมีของที่ไม่เคยได้ ไม่เคยมี ใช้จ่ายเงินไปกับขยะต่างๆที่ทันสมัยแต่ไม่เหมาะกับตนเองและทุกวันนี้มันก็กองเป็นอนุสรณ์แห่งความโง่อยู่ในห้องเก็บของ
ปัญหามา ปัญญามี พอปัญหามาแต่ละที ปัญญาที่มีอยู่ก็อพยพหนีไปเสียซะเฉยๆ ทิ้งไว้แต่ปัญหาล้วนๆ น่าแปลกใจไหมครับที่ปัญหาของคนเราคล้ายๆกัน ถ้าเป็นหนังก็พล็อตเดิม แต่เปลี่ยนผู้แสดง เครื่องแต่งกาย สถานที่แค่นั้น
ตราบเท่าที่โลกยังได้รับความร้อนจากแสงอาทิตย์ ความทุกข์เหมือนแสงแดดที่แผดเผา และเราก็ไม่สามารถอยู่ในร่มเงาได้ตลอดเวลา บางวันแดดเบา บางวันแดดแรง ยามที่กิเลสดึงเราไปอยู่กลางแจ้ง ผมว่าเราพึงมีครีมกันแดดที่ดีที่สุดในโลกอย่างธรรมะ ไว้คอยปกป้องจากรังสี รัก โลภ โกรธ หลง ฯลฯ
ส่วนจะปกป้องได้ขนาดไหนก็ต้องขึ้นอยู่กับการใช้ของแต่ละคน ใช้ธรรมะน้อยทุกข์มาก ใช้ธรรมะมากทุกข์น้อย ข้างกล่องเขาเขียนไว้อย่างนั้น
จากหนังสือ เข็มทิศชีวิต ฐิตินาถ ณ พัทลุง / จัดพิมพ์โดยห้างหุ้นส่วนจำกัด อาศรมสารนาถ สำนักพิมพ์วงกลม กรุงเทพมหานคร 1987