พระบรมโพธิสัตว์ทรงจุติ
กว่าพระบรมโพธิสัตว์ จะทรงบำเพ็ญบารมีเต็มเปี่ยมบริบูรณ์ทั้ง 30 ทัศ ต้องใช้เวลายาวนานถึง 20 อสงไขยกับแสนมหากัป ชาติสุดท้ายมาเสวยชาติเป็นพระเวสสันดรบำเพ็ญบารมีทานบริจาคพระราชโอรส ธิดา คือ กัณหา ชาลี และพระมเหสี พระนางมัทรี เป็นทาน เพราะทรงมุ่งหวังพระโพธิญาณ ตัดใจบริจาคบุคคลที่รักสุดชีวิตได้ เมื่อพระเวสสันดรสิ้นพระชนม์ ก็ไปบังเกิดเป็นท้าวสันตดุสิตเทวราช เสวยทิพยสมบัติยาวนานบนสวรรค์ชั้นดุสิต กระทั่งเทพเทวดาทั้งหลายมากราบทูลอาราชธนาให้เสด็จมาตรัสรู้ธรรม เป็น " พระสัมมาสัมพุทธเจ้า "
แม้ว่าอายุอันเป็นทรัพย์ในสรวงสวรรค์ของพระบรมโพธสัตว์ยังเหลืออีกยาวนาน แต่พระองค์ทรงมองเห็นว่าในมนุษย์โลกเป็นกาลเวลาอันสมควร ที่พระองค์จะจุติลงไปบังเกิด เพื่อโปรดสัตว์โลกให้พ้นกรรมตามที่ทรงตั้งความปรารถนาไว้ ตั้งแต่ชาติแรกที่เรือแตก แล้วทรงแบกมารดาไว้บนหลัง ขณะว่ายน้ำอยู่กลางมหาสมุทร พระองค์มีมหากรุณาเกิดขึ้นในใจว่าหากรอดชีวิตครั้งนี้ไปได้ จะหาหนทางช่วยเพื่อนมนุษย์ให้พ้นจากภัยในวัฎฎสงสาร จิตที่คิดจะช่วยผู้อื่นให้พ้นทุกข์เป็นกุศลใหญ่ ทำให้พระโพธิสัตว์รอดพ้นจากภัยพิบัติได้เป็นอัศจรรย์ นับแต่ชาตินั้นมา ทรงสั่งสมบุญบารมีด้วยจิตที่มุ่งหวังพระโพธิญาณ ตรัสรู้ธรรมเท่านั้น
ก่อนที่พระบรมโพธิสัตว์ จะจุติจากสวรรค์ชั้นดุสิตมาบังเกิดเป็นมนุษย์
พระองค์ทรงพิจารณาเลือกความเหมาะสมอยู่ 4 ประการ คือ
> หนึ่ง เลือกยุคกาลเวลาที่มนุษย์มีอายุยืนไม่เกินแสนปีและไม่ต่ำกว่า 100 ปี ซึ่งยุคนี้อายุมนุษย์เฉลี่ยอยู่ที่ 100 ปี
> สอง เลือกชาติตระกูล ยุคไหนมนุษย์ยกย่องตระกูลพราหมณ์เป็นใหญ่ พระบรมโพธิสัตว์ก็ทรงเลือกบังเกิดในตระกูลพราหมณ์ แต่มนุษย์ยุคนี้ยกย่องกษัติย์เป็นใหญ่ พระองค์จึงทรงเลือกมาเกิดในตระกูลกษัติย์
> สาม เลือกพุทธมารดา คือบุคคลที่สั่งสมบุญบารมีร่วมกับพระองค์มา แล้วตั้งความปรารถนาไว้เพื่อเป็นพุทธมารดาเหมือนพระนางผุสดี พระมารดาของพระเวสสันดร สร้างบารมีมานับแสนชาติ แล้วตั้งความปรารถนาไว้ว่าจะเป็นพุทธมารดา ชาติปัจจุบันคือพระนางสิริมหายา
> สี่ เลือกพุทธบิดา บุคคลที่สั่งสมบุญบารมีแล้วตั้งความปรารถนาเอาไว้ จะเป็นพุทธบิดาเมื่อกาลเวลา บุคคลในเมืองมนุษย์พร้อมแล้ว พระบรมโพธิสัตว์จึงจุติจากสวรรค์ชั้นดุสิต มาปฎิสนธิในพระครรภ์ของพระนางสิริมหามายา พระอัครมเหสีของพระเจ้าสุทโธทนะแห่งเมืองกบิลพัสด์ พระนางสิริมหามายา ทรงครรภ์ครบถ้วนทศมาส 10 เดือนเต็ม แล้วมีพระประสูติกาลพระราชโอรสพระนามว่า เจ้าชายสิทธัตถะ
พราหมณ์ผู้รู้ลักษณะมหาบุรุษในสมัยนั้นได้ทำนายเป็นสองคติคือ หากเจ้าชายสิทธิตถะอยู่ครองราชสมบัติจะได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ์ปกครองทวีปทั้ง 4 แต่ถ้าเสด็จออกบวชจะได้เป็นพระบรมศาสดาเอกของโลก มีเพียงพราหมณ์โกณทัญญะ คนเดียวเท่านั้น ที่ทำนายว่าเจ้าชายสิทธัตถะจะออกผนวชตรัสรู้ธรรมเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแน่นอน
บทสารคดี รัตนวนาลี
19/6/57