...พระพุทธเจ้าของเรา
ท่านได้เคยตรัสเล่าเอาไว้
ว่าท่านทำความเพียรอย่างนี้
บางครั้งก็เห็นแสงสว่าง บางครั้งก็ไม่เห็น
...แต่ท่านก็ไม่ลดละความเพียร
บางครั้งเห็นตลอดกลางวัน แต่กลางคืนไม่เห็น
บางครั้งเห็นตลอดทั้งคืนแต่กลางวันไม่เห็น
...ท่านก็ฝึกฝนต่อไปเรื่อยๆ บางครั้งก็เห็นทั้งกลางวัน
และก็เห็นทั้งกลางคืน บางครั้งเห็นชั่วแวบเดียว
บางครั้งก็เห็นได้นาน
...ท่านก็หมั่นฝึกฝนอบรมจิตใจของท่านไปเรื่อยๆ
โดยมีมรรค ผล นิพพาน เป็นแก่นสารเป็นเป้าหมาย
หวังที่จะพ้นทุกข์ให้เข้าถึงสุขอันเป็นอมตะให้ได้
ท่านจึงให้ความสำคัญต่อการฝึกฝน อบรมใจอย่างนี้
...ยิ่งเรามีภาระน้อย เครื่องกังวลน้อย
ใจก็จะยิ่งหยุดนิ่งได้ง่าย
...ถ้าทั้งวันทั้งคืนมีอารมณ์ดี อารมณ์สบายตลอดเวลา
ก็จะทำให้ง่ายต่อการฝึกใจให้มันหยุด ให้มันนิ่งได้
...อารมณ์ดี อารมณ์สบายเป็นสิ่งที่สำคัญมาก
สำหรับผู้ที่มีมรรคผลนิพพานเป็นแก่นสาร
หวังจะทำพระนิพพานให้แจ้ง
...แล้วก็ต้องหมั่นสอนตัวเองให้ได้ทุกวัน
ให้ได้ทั้งวัน สิ่งอะไรที่เป็นบาปอกุศล
เราก็เพียรละ ลด ละ เลิก สิ่งอะไรที่เป็นกุศล
ก็เพียรทำให้มันเจริญ
...นึกถึงบุญ นึกถึงความดี ความบริสุทธิ์ของเรา
แล้วก็ทำใจนี่ให้มันใสๆ ให้ใสละเอียด
นึกบ่อยๆ ความใสจะมา มาเอง
...แล้วก็จะเพิ่มพูนความใสทวีขึ้นไปเรื่อยๆ
ใจก็จะยิ่งมีปีติ มีความสุข จะเป็นหนึ่ง
เป็นเอกัคคตา มีอารมณ์เป็นหนึ่ง
เป็นกลางๆ บริสุทธิ์ แล้วก็มีความสุขเกิดขึ้น
#...คุณครูไม่ใหญ่...#
6 มี.ค.2545