รัตนชาติและพระรัตนตรัย
รัตนะ แปลว่า แก้ว เป็นวัตถุที่นำมาซึ่งความปลื้มปีติยินดีแก่ผู้ได้พบเห็น หรือผู้เป็นเจ้าของ หมายถึงสิ่งที่ประเสริฐก็ได้ เพราะบรรดาสิ่งที่มีค่าซึ่งเกิดขึ้นเองในโลก รัตนชาติเป็นเลิศที่สุดในจำนวนของสิ่งมีค่าทั้งหมด
รัตนชาติ เป็นสิ่งที่หมายปองของมนุษยชาติ แม้นาค ยักษ์ ครุฑ คนธรรพ์ หรือเหล่ากายทิพย์ทั้งหลายก็ปรารถนา แต่การจะได้มานั้นต้องแล้วแต่กำลังบุญบารมี เป็นสิ่งที่ครอบครองได้โดยยาก แต่สิ่งใดที่ได้มาโดยยากนี้ หากได้มาแล้ว ย่อมนำความปลื้มปีติยินดีแก่ผู้เป็นเจ้าของ ฉะนั้น ท่านถึงเรียกว่า รัตนชาติ
ในโลกนี้มีรัตนชาติมากมายซึ่งเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เกิดในเกาะแก่งบ้าง ในทะเลหรือมหาสมุทรบ้าง ซึ่งมีอยู่ทั่วไปในโลก ในพระไตรปิฎกกล่าวถึงรัตนชาติเอาไว้ ๗ ชนิด คือเงิน ทอง เพชร แก้วประพาฬ แก้วมณี แก้วไพฑูรย์ และแก้วมุกดา
ส่วนรัตนชาติอีกอย่างหนึ่ง ที่คนไทยเรียกว่า นพรัตน์ หมายถึงรัตนชาติ ๙ ประการ มีเพชร ไพลิน ไพฑูรย์ เพทาย โกเมน ทับทิม มรกต บุษราคัม และมุกดา สิ่งเหล่านี้เป็นสัญลักษณ์ของสิริมงคล ส่วนใหญ่แล้วจะมีผู้รักษาอยู่ เพราะผู้รักษาจะต้องคุ้มครองดูแลเอาไว้ให้ผู้มีบุญได้ใช้ ใครได้เป็นเจ้าของแล้วนับว่าเป็นผู้มีโชคมีลาภ
เพราะรัตนชาติเหล่านี้ บางอย่างมีอานุภาพดึงดูดสมบัติมาได้ ดึงดูดเงินทองลาภยศมาให้เจ้าของได้อย่างอัศจรรย์ ผู้ที่อยู่ในวงการอัญมณีหากได้ปฏิบัติธรรม และค้าขายด้วยความสุจริตด้วยแล้ว เงินทองจะไหลมาเทมาไม่ขาดสาย เป็นมหาเศรษฐีผู้มั่งคั่งในปัจจุบันชาตินี้
อย่างไรก็ตาม แม้ว่ารัตนชาติที่หลวงพ่อได้กล่าวมาข้างต้นนั้น จะเป็นสิ่งที่มีคุณค่าและมูลค่ามากมายก็ตาม แต่ก็เป็นเพียงทรัพย์ภายนอกที่เอาติตตัวไปไม่ได้ ใช้ได้เฉพาะในชาตินี้เท่านั้น ยังเป็นของไม่เที่ยง พระบรมศาสดาทรงให้เราแสวงหาอริยทรัพย์ภายใน ซึ่งเป็นรัตนะที่ยิ่งไปกว่ารัตนชาติทั้งหมด มีอยู่แล้วในตัวของพวกเราทั้งหลาย
ในบทสวดพระปริตรได้กล่าวเอาไว้ว่า ยงฺกิญฺจิ รตนํ โลเก วิชฺชติ วิวิธํ ปุถุ รตนํ พุทฺธสมํ นตฺถิ ซึ่งแปลว่า รัตนะใดๆ ในโลก ทั้งที่อยู่ในสวรรค์ รัตนะนั้นทั้งหมดจะเสมอด้วยพุทธรัตนะ เสมอด้วยธรรมรัตนะ และเสมอด้วยสังฆรัตนะนั้น ไม่มีเลย
พระรัตนตรัย คือ แก้ว ๓ ประการ ได้แก่ พุทธรัตนะ เป็นองค์พระธรรมกายแก้วใสบริสุทธิ์ นั่งขัดสมาธิเกตุดอกบัวตูมสว่างไสวไม่มีประมาณ สิงสถิตอยู่ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ของพวกเราทุกคน ธรรมรัตนะ ก็คือ ดวงธรรมที่มีลักษณะกลมใสสว่าง ที่อยู่ในกลางพุทธรัตนะ สังฆรัตนะ คือธรรมกายละเอียดที่มีความละเอียดประณีตหนักยิ่งขึ้นไปอีก ทรงรักษาธรรมรัตนะเอาไว้
รัตนะทั้ง ๓ นี้เป็นสิ่งที่ทรงคุณค่าที่สุดมิอาจจะประมาณค่าได้เลย ผู้ที่สามารถฝึกฝนใจให้หยุดนิ่งจนเข้าถึงพระรัตนตรัยภายในได้ ความสุขความปลื้มใจที่เคยได้รับจากการมีรัตนชาตินั้น เทียบไม่ได้แม้เพียงเศษเสี้ยวของความสุขที่เกิดจากการเข้าถึงพระรัตนตรัยภายใน เพราะเป็นเอกันตบรมสุข สุขอย่างยิ่งที่ไม่มีทุกข์เจือปนเลย
พอเข้าถึงรัตนะภายในได้ ทุกข์ทั้งหลายที่มีอยู่ก็ดับไป ทุกข์โศกโรคภัยมลายหายสูญหมด ความโศกเศร้า ซึม เซ็ง เครียด เบื่อ กลุ้ม หายไปหมด มีแต่ความสุขล้วนๆ ความสุขจากการได้รัตนชาติมาครอบครอง ยังเป็นสามิสสุข คือสุขที่ยังปนทุกข์ ทุกข์ที่ต้องตามดูแลรักษา ยังมีความเป็นห่วงเป็นกังวล ทั้งห่วงและก็หวง กลัวโจรภัยมาปล้นบ้าง กังวลสารพัด หาความปลอดภัยจากรัตนชาติเหล่านั้นยังไม่ได้
แต่พระรัตนตรัยอันประเสริฐนี้ ใครๆ ก็ไม่สามารถจะมาปล้นเอาไปได้ เพราะเป็นสิ่งที่ติดอยู่กับตัว ติดอยู่ในใจของเราไปตลอด จะเป็นที่พึ่งที่ระลึกของเราชั่วนิรันดร์กาล เพราะฉะนั้น ให้หมั่นฝึกฝนใจ ให้หยุดให้นิ่ง ให้เข้าถึงพระรัตนตรัยภายในกันให้ได้ทุกๆ คน
บทคัดย่อ เรื่อง รัตนชาติและพระรัตนตรัย จากหนังสือ ธรรมะเพื่อประชาชน ฉบับพระรัตนตรัย (โดย LP.Ping)
พระธรรมเทศนาโดย: พระเทพญาณมหามุนี
นามเดิม พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (ไชยบูลย์ ธมฺมชโย)