...วันไหนที่เรานั่งแล้วไม่เห็น
...อย่าได้ท้อใจ อย่าได้น้อยใจ
โทษตัวเองว่าบุญบารมีวาสนาของเรา
คงจะมีน้อย คงทำมาไม่มากถึงยังไม่ได้เห็น
เหมือนอย่างที่คนอื่นเขาเห็น
...หรือบางทีเรานึกน้อยใจว่า
เราเข้าวัดมาก่อน มาตั้งนาน
ได้ทำหน้าที่เป็นกัลยาณมิตรนำหมู่ญาติสนิทมิตรสหาย
ผู้มีบุญเขามาปฏิบัติ แต่เขามาภายหลัง
เขาวางใจได้ถูกส่วน เขาได้รู้ได้เห็นด้วยตัวของเขาเอง
แต่เรากลับไม่เห็น
...ก็อย่าไปมัวเสียเวลาโทษตัวเอง
น้อยใจในโชคชะตาวาสนาบารมี
อย่าไปเสียเวลาคิดอย่างนั้นนะลูกนะ
...ถ้าบุญเราน้อย เราจะไม่ได้เกิด
ในร่มเงาพระพุทธศาสนา
จะไม่ได้เกิดในยุคที่ธรรมกายเกิดขึ้น
จะไม่ได้ยินคำว่าธรรมกาย จะไม่ได้เข้ามาใกล้
อยู่ในหมู่ของธรรมกาย จะไม่มีศรัทธา
จะไม่มีโอกาสปฏิบัติ
...เพราะฉะนั้นบุญของเรานี่มันมีมากพอ
เหลือเฟือที่จะเข้าถึง ขอเพียงแต่ทำให้มันถูกวิธี
แล้วก็มีความเพียร อย่าไปกลุ้มอกกลุ้มใจ
จนกระทั่งทำให้เกิดความท้อแท้ ท้อถอย
แล้วก็เลิกปฏิบัติไปในที่สุด
#...คุณครูไม่ใหญ่...#
6 มี.ค.2545