ค่อยเป็น ค่อยไป
คุณจะไม่มีวันชนะในโลกของความเป็นจริงได้ ตราบใดที่คุณยังพ่ายแพ้ในโลกของจิตใจ สงครามที่ยิ่งใหญ่ที่สุด คือสงครามที่เกิดขึ้นในใจของคุณเอง
จริงอยู่ การตั้งใจจะเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างแล้วหวังว่าจะทำให้สำเร็จในทันที เป็นการตั้งความหวังที่ดี อย่างไรก็ตาม หลายครั้งคนเราเปลี่ยนแปลงตัวเองไม่สำเร็จก็เพราะตั้งความหวังไว้สูงเกินไป มากเกินไป หรือนานเกินไปนั่นเอง
การเปลี่ยนแปลงวันละนิดละหน่อย และการเปลี่ยนการตัดสินใจทีละครั้ง คือกุญแจไปสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืนที่แท้จริง
ยกตัวอย่างเช่น หากคุณอยากผอม ก็ไม่ต้องถึงกับอดข้าว แต่ให้กินข้าวน้อยลงวันละครึ่งทัพพี หากคุณอยากตื่นเช้า ก็ไม่ต้องคิดว่าจะตื่นตี 5 ทุกวัน แค่บอกว่าพรุ่งนี้จะลองตื่นให้เร็วขึ้นอีกครึ่งชั่วโมงก็พอ หรือหากคุณอยากเป็นคนที่เครียดและกังวลน้อยลง ก็ไม่ต้องไปบังคับตัวเองให้หายเครียดหรือหายกังวลทันที เพราะมันเป็นไปไม่ได้ แต่ให้บอกตัวเองว่า ทุกครั้งที่เครียด จะตั้งใจขอบคุณสิ่งดีๆ ในชีวิตที่คนอื่นไม่มี 1 อย่าง แล้วยิ้มกับมัน ทำอย่างนั้นไปเรื่อยๆ สมองก็จะมีความสุขเร็วขึ้นทุกครั้ง จนในที่สุดมันก็ชินไปเอง
ผลที่แตกต่างจากเดิมต้องเริ่มต้นที่เหตุซึ่งไม่เหมือนเก่า ลงมือเปลี่ยนสิ่งที่คุณทำในชีวิตประจำวันทีละน้อย แล้วสิ่งเหล่านั้นจะกลับมากเปลี่ยนชะตาชีวิตของคุณ ที่มาของทุกความสำเร็จและความสุข ซ่อนอยู่ในกิจวัตรประจำวัน ส่วนที่มาของความล้มเหลวและความทุกข์ ก็เช่นเดียวกัน
การเลิกหรือเปลี่ยนนิสัยของคนเราต้องค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป แต่ที่สำคัญคือ ขอให้เราอย่ายอมแพ้ไปเสียก่อน
บอกตัวเองว่า "ขอแค่ครั้งเดียว" จากนั้นพอห้ามใจได้ครั้งหนึ่งแล้ว ความภูมิใจที่ได้มาจะเป็นพลังส่งให้เราสำเร็จในครั้งต่อไป จำไว้ว่าหลายครั้งตอนติดนิสัยแย่ๆ เราเริ่มติดก็เพราะ "ขอแค่ครั้งเดียว" ฉะนั้น ตอนเลิกก็ต้องเริ่มจาก "ขอแค่ครั้งเดียว" เช่นกัน และเราควรอยู่กับปัจจุบัน อย่าไปคิดว่าฉันจะทำยังไงถ้าขาดนิสัยหรือสิ่งเสพติดนี้ไปอีก 3 เดือน ขาดให้ได้วันนี้ก่อน แล้วพรุ่งนี้ค่อยมาว่ากันใหม่ (แล้วรับรองว่ามันจะง่ายขึ้นเอง เพราะเราย่อมเก่งขึ้นทุกครั้งที่ทำสำเร็จ)
หากเราต้องการให้เส้นประสาทที่เกี่ยวข้องกับการมีพฤติกรรมใดแข็งแรง เราก็ต้องใช้มันบ่อยๆ อย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง ไม่ใช้ว่าใช้มันครั้งเดียวแล้ว มันจะเชื่อมต่อกันอย่างแข็งแรงได้ทันที
ในทางกลับกัน หากเราต้องการให้เส้นประสาทที่เกี่ยวข้องกับนิสัยไม่ดีที่เราอยากเลิกค่อยๆ เหี่ยว ฝ่อ และตาย เราก็ต้องเลิกมันเป็นเวลานานพอสมควร มันจึงจะเริ่มเสื่อมสภาพและถูกกำจัดออกไปจากสมองและชีวิตของเรา
ร่างกายไม่ได้แข็งแรงจากการออกกำลังกายเพียงครั้งเดียว จิตใจก็ไม่ได้แข็งแกร่งจากการหักห้ามใจเพียง 1 ครั้ง
จิตที่ไม่เคยถูกฝึก จะตอบรับต่อความเจ็บปวด เหมือนมีดที่กรีดลงบนผิวเนื้อ
จิตที่เพิ่งเริ่มฝึก จะตอบรับต่อความเจ็บปวด เหมือนมีดที่กรีดลงบนผืนทราย
จิตที่ฝึกดีแล้ว จะตอบรับต่อความเจ็บปวด เหมือนมีดที่กรีดลงบนสายน้ำ
จิตที่ฝึกจนสมบูรณ์แบบ จะตอบรับต่อความเจ็บปวด เหมือนมีดที่กรีดไปในอากาศ
จากหนังสือ กรรมตามสมอง