ฉบับที่ 45 กรกฏาคม ปี 2549

นิธิวดี ตันติพจน์ กับการประคองชีวิตผ่านวัย party girl

 

         อะไรจะเกิดขึ้น หากเด็กวัยรุ่นคนหนึ่งต้องเติบโตขึ้นท่ามกลางสิ่งยั่วยุ ที่ได้กลายเป็นเทรนด์ของสังคมลองมาค้นหาคำตอบ จากทัศนคติที่มีพลัง ของเธอผู้นี้

 

                                          

        ปุ้ย.. นิธิวดี ตันติพจน์ ผู้หญิง looking good ภายใต้บุคลิกอันสง่างาม สงบนิ่ง อีกทั้งยังรวยและฉลาด เธอคือบุตรสาวในตระกูลคหบดีผู้มั่งคั่ง ที่คุณพ่อทำธุรกิจนำเข้า และจัดจำหน่ายเครื่องมือวิทยาศาสตร์ และเครื่องมือทางการแพทย์ แต่เธอเลือกเติมเต็มชีวิตที่เพียบพร้อม ได้ต่างจากวัยรุ่นทั่วไป จนเธอกลายเป็นอุดมคติ ของพ่อแม่ผู้ปกครองหลายๆ คน ที่อยากให้ลูกหลานทำได้อย่างเธอ...

     " ปุ้ย เกิดในครอบครัวที่มีการปลูกฝังเรื่องการทำบุญมาตั้งแต่เล็ก แม้ปุ้ยเองจะเรียนอยู่โรงเรียนคริสต์ คุณครูก็สอนให้ออมเงิน เพื่อให้เด็กนักเรียนทุกคน ได้ทำบุญกันทุกวันจันทร์ อีกทั้งโดยส่วนตัวยังชอบอ่านหนังสือธรรมะ ชอบชั่วโมงจริยธรรม สนใจการนั่งสมาธิตั้งแต่เด็กๆ ครั้นเมื่อพี่สาวและเพื่อนพี่สาว ได้พาปุ้ยมาวัดพระธรรมกายตอนปุ้ยอยู่ ม.๔ จึงเป็นจุดเริ่มที่ทำให้ปุ้ย ได้เข้าวัดศึกษาธรรมะอย่างจริงจัง และต่อเนื่องมาโดยตลอด

   เธอได้จัดสรรตัวเองไปสู่ดินแดนแห่งการศึกษาธรรมะ จนกระทั่งนำความสำเร็จเบื้องต้นมาสู่ชีวิต "ปุ้ยมาวัดไปด้วย เรียนไปด้วย และก็ตั้งใจเรียนจนกระทั่ง เอนทรานซ์เข้าคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี ภาคภาษาอังกฤษ ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้ โดยไม่ทำให้คุณพ่อคุณแม่ผิดหวัง ซึ่งเทคนิคการเรียน ปุ้ยก็ไม่ได้เคร่งเครียดอะไรมากมาย แต่เป็นเพราะการที่ปุ้ยเป็นเด็กที่ฝึกสมาธิ จึงทำให้ได้เปรียบในเรื่องการเรียนกว่า คนทั่วไป ซึ่งเทอมแรกก็ทำเกรดได้ถึง ๓.๕ และหลังจากนั้นก็พัฒนาขึ้น จนสามารถคว้าเกียรตินิยมอันดับ ๑ ได้สำเร็จ"

       ความสำเร็จเล็กๆ ที่เป็นจุดเริ่มต้นของการมีชีวิตที่ยิ่งใหญ่ในอนาคต ทำให้มีพ่อแม่หรือผู้ปกครองของเด็กหลายคน อยากทราบว่า มีอะไรที่มากไปกว่านี้ไหม ที่จะทำให้ลูกเป็นคนดีและเรียนเก่งด้วย

 


 

        "ปุ้ยเชื่อว่า พ่อแม่ทุกคนมีความรู้สึก ที่เหมือนกันอย่างหนึ่งคือ ต้องการให้ลูกตั้งใจเรียน และเติบโตขึ้นเป็นคนดีของสังคม แต่การจะเป็นอย่างนี้ได้ พ่อแม่มีส่วนสำคัญอย่างมากในการปลูกฝัง และสั่งสอนให้ลูกมีจุดยืนในเชิงศีลธรรมที่ชัดเจน เพื่อให้ลูกมีหลักในการดำเนินชีวิตที่ถูกต้อง เช่น การพามาวัดวันอาทิตย์ เพื่อเข้ามาศึกษาธรรมะ จากแหล่งธรรมะที่ทำให้ลูกไม่เบื่อ และมีเพื่อนวัยเดียวกัน เพื่อให้สภาพแวดล้อมหล่อหลอมค่านิยมเชิงศีลธรรมที่ถูกต้องให้แก่เขา เหมือนอย่างลูกของพี่สาวปุ้ยเอง ก็พาเข้าวัดกันตั้งแต่อยู่ในท้องอย่างต่อเนื่อง พอคลอดออกมาได้ ๑ เดือนก็ได้ทำบุญใหญ่ที่วัด และตลอดเวลาที่เลี้ยงเค้า เราจะพยายามพูดเรื่องบุญ เรื่องศีลธรรมให้เค้าฟัง แม้ก่อนนอนก็ยังกล่อมให้หลับโดยการใช้เสียงสวดมนต์ แม้ดูเผินๆ เหมือนเด็กจะยังไม่เข้าใจภาษาที่เราพูดก็จริง แต่ภาษาใจจากพ่อแม่ ลูกย่อมสัมผัสและรับรู้ได้ ซึ่งการทำอย่างนี้ เป็นการทำให้เค้าคุ้นเคยกับ ความดีตั้งแต่ตัวน้อยๆ เพื่อโตขึ้นจะได้เป็นภูมิต้านทานกับกระแสสังคมและค่านิยมของวัยรุ่นที่ผิดๆ เมื่อพูดถึงตรงนี้ ปุ้ยรู้สึกโชคดีมากๆ ที่ได้เข้าวัดตั้งแต่อายุ ๑๖ ปี ได้เข้ามาในช่วงวัยรุ่น ซึ่งเป็นวัยหัวเลี้ยวหัวต่อที่เสี่ยงต่อการเสียคนมากที่สุด เพราะเด็กในวัยนี้มักจะเชื่อและติดเพื่อนมากที่สุด เป็นวัยที่จะชี้ถึงชะตาชีวิตเลยก็ว่าได้ ว่าต่อไปในอนาคตเราจะดี หรือไม่ดี..!!


 

 

    และที่สำคัญคำสอนของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ เป็นเสมือนหลักในการดำเนินชีวิตให้กับปุ้ย ทำให้ปุ้ยได้เข้าใจในเรื่องกฎแห่งกรรม เปรียบเหมือนปุ้ย ได้ถูกฉีดวัคซีนป้องกันความชั่วไว้แล้ว ดังนั้น เมื่อเจอค่านิยมผิดๆ ปุ้ยจะสามารถตัดสินใจได้ว่า สิ่งนี้ดีหรือไม่ดี ควรทำหรือไม่ และต้องคบเพื่อนอย่างไร ด้วยหลักคำสอนของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ นี้เอง ที่ทำให้ปุ้ยสามารถสนุกสนานเฮฮาปาร์ตี้กับเพื่อนๆ ได้โดยที่ไม่เสีย สังคม และเพื่อนๆ ก็ยอมรับ แต่ในขณะเดียวกัน ปุ้ยก็มีจุดยืนที่เข้มแข็ง ที่จะต้องรักษาศีล ๕ ให้บริสุทธิ์... "

     หลังจากที่เธอเรียนจบ ก็ตั้งใจจะเรียนต่อปริญญาโทสาขาบริหาร แต่การต่อปริญญาโทในสาขานี้ ต้องใช้ประสบการณ์ ในการทำงานก่อนสัก ๒-๓ ปี

     "ทันทีที่เรียนจบปุ้ยก็เริ่มทำงานที่บริษัทหลักทรัพย์ภัทร จำกัด (มหาชน) ซึ่งปุ้ยโชคดีมาก เพราะถึงแม้งานที่ทำจะหนัก แต่ก็สนุกและให้ โอกาสปุ้ยได้เรียนรู้เยอะมาก นอกจากนี้ ยังได้ผลตอบแทน ทั้งใน รูปเงินเดือนและโบนัสที่ค่อนข้างสูง และยังได้สิทธิซื้อหุ้นพนักงาน ในราคาต่ำ ซึ่งเมื่อบริษัทฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ปุ้ยก็สามารถขายหุ้นพนักงานที่ได้มาในราคาที่สูงกว่าต้นทุนมาก..."

      การทำงานของเธอก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว แตกต่างจากเพื่อน ที่จบมารุ่นเดียวกันมาก มีเงินเดือน โบนัส และได้หุ้นที่มีมูลค่ามาก จนไม่ขอบอกตัวเลข ณ ที่นี้ จนหลายคนต้องพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เป็นเพราะผลบุญที่เธอรักการทำทานตั้งแต่เด็กๆ จนกระทั่งถึงปัจจุบัน

      ปุ้ยเริ่มจากการทำบุญสร้างพระธรรมกายประจำตัว ตั้งแต่อยู่ ม. ๔ โดยใช้เงินเก็บของตัวเอง และทำมาตลอด ทำทุกบุญอย่างเต็มกำลัง เพราะปุ้ยอยากช่วยพระเดชพระคุณหลวงพ่อสร้างวัดให้เสร็จ เร็วๆ เพราะโดยส่วนตัว ปุ้ยคิดว่า สิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตของปุ้ย คือ การได้เกิดมาพบพระพุทธศาสนา ได้เข้าวัด ได้พบพระเดชพระคุณหลวงพ่อ และได้นำคำสอนของท่านไปใช้ ปุ้ยจึงอยากให้ทุกๆ คนได้พบสิ่งดีๆ เช่นนี้เหมือนกับปุ้ย

     ...ทุกๆ โครงการของวัด เช่น โครงการอบรมธรรมทายาท โครงการปฏิบัติธรรม และโครงการเทเหล้า-เผาบุหรี่ เป็นตัวอย่างของสิ่งที่ทางวัดจัดขึ้น เพื่อมุ่งหวังจะอบรม และแก้ไขปัญหาศีลธรรมของสังคม ซึ่งถ้าวัดพระธรรมกายสร้างเสร็จ ก็จะมีสถานที่รองรับ คนเป็นล้าน และปุ้ยเชื่อว่าจะมีคนดีเกิดขึ้นในสังคมอีกนับไม่ถ้วน ซึ่งปุ้ยเองภูมิใจมากที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งในการทำความสำเร็จให้เกิดขึ้น โดยทำอย่างเต็มที่ด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเองเสมอมา..."

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

        ทุกวันนี้ เมื่อตื่นนอนขึ้นมาเธอก็นั่งสมาธิ ในระหว่างวันก็ฟัง CD คำสอนของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ เพื่อรักษาใจให้ผ่องใส ตลอดเวลา รักษาศีล ๕ เป็นปกติ และรักษาศีล ๘ ทุกวันพระ ดูรายการธรรมะที่ถ่ายทอดทางจานดาวเทียม ที่เรียกกันว่า จานดาวธรรม ทุกวัน และกำลังเตรียมตัวบินไปเรียนต่อที่ UCLA Anderson School of Management ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อคว้าปริญญากลับมาอีกใบ ซึ่งเราก็ขอเป็นกำลังใจให้เธอก้าวสู่ความสำเร็จในขั้น ต่อๆ ไป ...     

 

บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

* * อยู่ในบุญ แนะนำ/เกี่ยวข้อง * *

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล