ฉบับที่ 110 ธันวาคม ปี2554

สร้างมหาทานบารมี ดำเนินรอยตามพระบรมโพธิสัตว์

ตักบาตรพระล้านรูป

เรื่อง : อุบลเขียว

 



 

สร้างมหาทานบารมี

ดำเนินรอยตามพระบรมโพธิสัตว์
_________________________

ตักบาตรพระ ๑ ล้านรูป ๗๗ จังหวัดทุกวัดทั่วไทย

          แสงแดดอ่อนทอดลำแสงลงสู่ท้องทะเลและเกาะแก่งต่าง ๆ สะท้อนพื้นผิวน้ำเป็นประกายระยิบระยับ เหมือนกลุ่มเพชรพลอยลอยบนริ้วคลื่น เช่นเดียวกับท้องฟ้าเหนือน่านน้ำทะเลที่ก่อเฉดสีหลากหลายงดงามแปลกตา มองเห็นท้องทะเลกว้างขวางสุดสายตาในยามนี้ ทำให้นึกถึงการสร้างบารมีของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อย่าว่าแต่สละทรัพย์เลย แม้แต่สละอวัยวะไปจนถึงสละชีวิตก็ยอม หากจะนับปริมาณสายโลหิตที่เสียสละออกเป็นทานนั้น มากกว่าจำนวนน้ำทะเลในมหาสมุทรทั้ง ๔ รวมกัน ดวงตาที่ควักออกไปมีมากกว่าดวงดาวบนท้องฟ้า ทุกสิ่งทุกอย่างที่ท่านสละออกไป ก็เพื่อสร้างแบบอย่างที่ดีให้แก่ชาวโลกและชักชวนมหาชน ให้สั่งสมกุศลกรรม เฉกเช่นโครงการตักบาตรพระ ๑ ล้านรูป ๗๗ จังหวัดทุกวัดทั่วไทยในยามนี้ ที่เหล่า นักสร้างบารมีต่างตั้งใจบำเพ็ญมหาทานบารมีกันอย่างสุดความสามารถ ย่อมได้ชื่อว่า ดำเนินรอยตามอย่าง พระบรมโพธิสัตว์ที่ท่านสร้างบารมีตั้งแต่เริ่มต้นจนกระทั่งบรรลุมรรคผลนิพพาน

 



 


 

          เมื่อวันที่ ๙ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ มีพิธีตักบาตรพระ ๑,๐๐๐ รูป ณ บริเวณตลาดช่องสะงำ ตำบลไพรพัฒนา อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยได้รับความเมตตาจากพระราชธรรมสารสุธี รองเจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ ไปเป็นประธานสงฆ์ ได้รับเกียรติจากนายพรศักดิ์ เจริญประเสริฐ รัฐมนตรี ช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธาน ฝ่ายฆราวาส และนายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เป็นผู้แทนกล่าวให้ การต้อนรับ

          การตักบาตรครั้งนี้ นับเป็นโอกาสอันดีที่พี่น้องชาวกัมพูชาและชาวไทยได้มาทำบุญใหญ่ร่วมกัน ซึ่งเป็น การช่วยเชื่อมมิตรภาพและกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนไทยกัมพูชา และช่วยสืบสานประเพณีตักบาตรของทั้ง ๒ ประเทศให้เข้มแข็ง รวมทั้งช่วยสนับสนุนพระภิกษุ สามเณร ให้สามารถบำเพ็ญสมณธรรม ได้สะดวกขึ้น ทั้งนี้ อาหารที่ได้จากการตักบาตรส่วนหนึ่งจะนำไปช่วยเหลือพระภิกษุ ๒๘๖ วัด ในพื้นที่ ๔ จังหวัดภาคใต้ และบางส่วนนำไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย

 



 


 

          เมื่อวันที่ ๑๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ มีพิธีตักบาตรพระ ๑,๑๗๗ รูป ณ บริเวณถนนริมเขื่อนแม่น้ำโขง หน้าสำนักงานเทศบาลตำบลบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ เนื่องในเทศกาลออกพรรษา โดยได้รับความเมตตาจากพระครูอุทัยวรคุณ เจ้าคณะอำเภอบึงกาฬ เป็นประธานสงฆ์ และได้รับเกียรติ จากนายสมพงษ์ อรุณโรจน์ปัญญา ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ เป็นประธานฝ่ายฆราวาส และ นายศุภชัย เหลืองแสงทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ เป็นผู้แทนนำสาธุชนกล่าวคำแสดงตนเป็นพุทธมามกะ เพื่อแสดงถึงความเป็นชาวพุทธอย่างแท้จริง

          การตักบาตรพระจำนวนพันกว่ารูปครั้งนี้ เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของจังหวัดบึงกาฬ เป็นการรวมพลังทำความดีครั้งใหญ่ของพุทธศาสนิกชนในจังหวัดบึงกาฬเนื่องในเทศกาลออกพรรษา และเป็นการเฉลิมฉลองที่จังหวัดบึงกาฬได้รับการแต่งตั้งให้เป็นจังหวัดที่ ๗๗ ของประเทศไทย

          ข้าวสารอาหารแห้งที่ได้จากการตักบาตรนำไปช่วยเหลือพุทธบุตร ๒๘๖ วัด ใน ๔ จังหวัดภาคใต้ และผู้ประสบภัยน้ำท่วมในจังหวัดต่าง ๆ อีกด้วย

 



 


 

          เมื่อวันที่ ๑๖ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ มีพิธีตักบาตรพระ ๑,๐๐๑ รูป ณ วัดศิริสุทโธ ตำบลบ้านม่วง อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี โดยได้รับ ความเมตตาจากพระโสภณพุทธิธาดา รองเจ้าคณะ จังหวัดอุดรธานี เป็นประธานสงฆ์ ได้รับเกียรติจากนายขจิตร ชัยนิคม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุดรธานี เป็นประธานฝ่ายฆราวาส

          พิธีตักบาตรครั้งนี้มีบุคคลสำคัญทั้งภาครัฐและเอกชนไปร่วมงานเป็นจำนวนมาก และได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เช่น คณะสงฆ์ในจังหวัดอุดรธานี, พระธรรมทายาทรุ่นเข้าพรรษาในจังหวัดอุดรธานี, จังหวัดอุดรธานี, อำเภอบ้านดุง, เทศบาลเมืองบ้านดุง, องค์กรพระพุทธศาสนา, สำนักงานวัฒนธรรมอำเภอบ้านดุง, องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านม่วง, ตำรวจภูธรบ้านดุง, ชมรมเสียงสตรี, ร้านสามพี่น้องการพิมพ์, ร้านนพสปอร์ต, ร้านบ้านดุงศึกษา, เอไอเอสาขาบ้านดุง, เนเจอร์กิฟ, ไอดีไครเวอร์, เทสโก้โลตัส, ห้างหุ้นส่วนจำกัดคู่บุญทรานสปอร์ต, มูลนิธิธรรมกาย, วัดพระธรรมกาย พร้อมทั้งพี่น้องประชาชนในอำเภอบ้านดุงและอำเภอใกล้เคียง

 



 


 

          เมื่อวันที่ ๒๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ มีพิธีตักบาตรพระ ๑๐,๐๐๐ รูป บริเวณถนนหน้าตลาดสันป่าฝ้ายถึงนิคมอุตสาหกรรมลำพูน อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน โดยมีพระราชปัญญาโมลี เจ้าคณะจังหวัดลำพูน เมตตาเป็นประธานสงฆ์ และได้รับ เกียรติจากนายภุชงค์ โพธิกุฎสัย รักษาการผู้ว่าราชการ จังหวัดลำพูน เป็นประธานฝ่ายฆราวาส และนายทรงชัย วงศ์สวัสดิ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ลำพูน เป็นผู้กล่าวให้การต้อนรับพุทธศาสนิกชน โดยมีนายสมเกียรติ ศรลัมพ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้แทนกล่าวขอบคุณ

          การตักบาตรครั้งนี้ เป็นการตักบาตรพระระดับหมื่นรูปครั้งที่ ๓ ของจังหวัดลำพูน โดยมีบุคคลสำคัญทั้งจากภาครัฐและเอกชน พร้อมพุทธศาสนิกชน ทุกเพศทุกวัยเป็นจำนวนมากเข้าร่วมตักบาตรกับพระภิกษุ สามเณร ที่เมตตาเดินทางมาจาก ๘ จังหวัดในภาคเหนือ

          การร่วมใจจัดงานตักบาตรของทุกฝ่าย มีผลให้สังคมเกิดการตื่นตัวในการทำความดี และหันมาให้ความสำคัญกับการฟื้นฟูศีลธรรมอันดีงามที่เคยมีมาตั้งแต่ครั้งบรรพบุรุษให้เกิดความเข้มแข็งสืบไป

 



 


 

          เมื่อวันที่ ๑๒ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๔ มีพิธีตักบาตรพระ ตุ้มโฮม (รวมพลัง) ไทย-ลาว ๒,๕๕๙ รูป ณ ด่านพรมแดนช่องเม็ก อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี โดยได้รับความเมตตาจากพระครูสุวัฒน์ธรรมพิบูลย์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอ สิรินธร เจ้าอาวาสวัดเจริญทัศน์ จังหวัดอุบลราชธานี เป็นประธานสงฆ์ พร้อมด้วยนายสุรพล สายพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เป็นประธานฝ่ายฆราวาส และนายธรธรรณ์ ชินโกมุท นายอำเภอสิรินธร เป็นผู้แทนกล่าวรายงาน

          การตักบาตรในครั้งนี้ เป็นหนึ่งในโครงการตักบาตรพระ ๑ ล้านรูป ๗๗ จังหวัดทุกวัดทั่วไทย โดยดำริของพระราชภาวนาวิสุทธิ์ (หลวงพ่อธัมมชโย) มีวัตถุประสงค์เพื่อน้อมถวายเป็นพุทธบูชา ฟื้นฟูศีลธรรม โลก รักษาวัฒนธรรมชาวพุทธให้เข้มแข็ง สืบทอดอายุพระพุทธศาสนา และช่วยเหลือพุทธบุตร ๒๘๖ วัด ๔ จังหวัดภาคใต้

          ที่สำคัญงานบุญพิธีในครั้งนี้ ยังเป็นการเชื่อมสัมพันธไมตรีระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวอีกด้วย ซึ่งจะเป็นผลให้ประเพณีตักบาตรของทั้งสองประเทศมีความแข็งแกร่ง ยิ่ง ๆ ขึ้นไป

บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล