ฉบับที่ 125 มีนาคม ปี2556

มองกลาง มองทาง

ผลการปฏิบัติธรรม

เรื่อง : ธัมมวิชโช

 

 

มองกลาง มองทาง

 

        “เราสามารถทำ สมาธิได้ตลอดเวลา เพราะว่าธรรมะนั้น มีอยู่แล้วในตัวเรา เราสามารถเข้าถึงได้ ในทุกอิริยาบถ และมีความสุข กับธรรมะภายใน ได้ในทุกหนทุกแห่ง”

          บ่อยครั้งที่นักปฏิบัติธรรมมักจะให้ ข้อจำกัดของการทำสมาธิว่า จะต้องมีโอกาสไปนั่งในสถานที่สงบเงียบ ธรรมชาติร่มรื่น หรือนั่งในห้องแอร์เย็น ๆ แต่จริง ๆ แล้ว สิ่งเหล่านั้นไม่ใช่ข้อจำกัดของการทำสมาธิเลย เพราะแท้ที่จริงแล้ว เราสามารถทำสมาธิได้ตลอดเวลา เพราะว่าธรรมะนั้นมีอยู่แล้วใน ตัวเรา เราสามารถเข้าถึงได้ในทุกอิริยาบถ และมีความสุขกับธรรมะภายในได้ในทุกหนทุกแห่ง ดังเช่นเรื่องราวของพระภิกษุ ที่ท่านได้เดินธุดงค์บนเส้นทางมหาปูชนียาจารย์ในรอบที่ผ่านมา แม้ท่านจะอยู่ในอิริยาบถเดิน แต่ทุกย่างก้าวท่านสามารถ ยังจิตให้ละเอียดลุ่มลึกเข้าไปสู่ธรรมะภายในตัวได้

 

 

พระภูรัช ทนฺตวํโส

          “อาตมาเรียนจบวิศวะเครื่องกลที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ขณะที่เรียนอยู่ปี ๓ ก่อนที่จะเข้าวัดพระธรรมกาย ก็มีแต่เพื่อนทักท้วงสารพัดเลยว่า อย่าเข้าวัดนี้ ระวังจะโดนล้างสมอง แต่เนื่องจากเราเป็นหัวโจกของกลุ่ม จึงแสดงสปิริตตอบเพื่อนกลับไปว่า ‘ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวจะเข้ามาดูเองว่าเป็นอย่างที่เขาว่าไหม แล้วจะมาบอก’

           “จากนั้นก็ไปวัดตามคำชักชวนของโยมอาโกว มาเจาะลึกข้อมูลทุกอย่างที่เป็นข่าว แต่พอเจาะไปเจาะมา ก็มีคำพูดผุดขึ้นในใจเรื่อย ๆ ว่า วัดโดนใส่ร้าย ไม่เห็นเหมือนข่าวเลย ตรงกันข้ามกลับรู้สึกว่า วัดนี้ดีแบบจัดเต็ม เป็นวัดพุทธในอุดมคติที่ไม่เคยพบเคยเห็นมาก่อน ดีถึงขนาดสร้างแรงบันดาลใจให้อาตมาอยากบวชขึ้นมาอย่างจับใจ โดยคิดว่าถ้าเรียนจบวิศวะแล้ว จะต้องมาบวชที่นี่เท่านั้น

           “พอเรียนจบจริง ๆ ที่บ้านก็อยากให้ช่วยกิจการที่บ้าน แต่เนื่องจากอยากบวชให้โยมพ่อโยมแม่ก่อน ก็เลยบอกโยมแม่ว่า ‘แม่เป็นคนที่ผมรักมากที่สุด ห่วงที่สุด แต่ความรักของผมก็ไม่ได้เป็นหลักประกันว่า ชาติหน้าจะทำให้เรามาเป็นแม่ลูกกันอีกหรือเปล่า แต่ชาตินี้เมื่อผมเกิดมาเป็นลูกแม่แล้ว ก็ขอมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้แม่ ซึ่งก็คือบุญจากการบวชพระ เพราะเท่ากับแม่ได้ถวายผมให้เป็นลูกพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะบุญนี้จะช่วยให้ชีวิตแม่ในภพชาติหน้าสุขสบาย ไม่ต้องเหนื่อยและลำบากเหมือนชาตินี้’

           “เมื่อพูดอย่างนี้ โยมแม่ก็เสียงสั่นเครือเหมือนจะร้องไห้ แล้วก็ปลื้มที่ลูกชายจะบวชให้ จากนั้นอาตมาก็ขอท่านบวชที่วัดพระธรรมกาย และอาตมา ก็ไปบวชทันทีหลังเรียนจบในเดือนมีนาคม ปี พ.ศ. ๒๕๕๔ ที่ผ่านมา และพอบวชมาเรื่อย ๆ ก็ได้มาเดินธุดงค์บนกลีบดาวรวยครั้งแรกของโลก ตอนแรกก็ยังไม่มั่นใจว่าจะสามารถเดินได้ตลอดทางไหม เพราะส่วนใหญ่ที่บ้านเลี้ยงดูมาแบบไม่ค่อยให้พบกับ ความลำบาก แต่เมื่อได้มาเดินธุดงค์แล้ว ก็ได้ทำตามที่หลวงพ่อให้วิธีการเอาไว้ คือ มองกลาง มองทาง โดยตรึกองค์พระ จากนั้นก็ย่อขยายองค์พระให้คลุมตัวเองแบบซูมเข้า ซูมออกไปเรื่อย ๆ และบางครั้งก็เข้ากลางองค์พระในองค์พระไปเรื่อย ๆ จนองค์พระผุดขึ้นนับไม่ถ้วน ทำอย่างนี้จนใจหยุดนิ่งแน่นติดอยู่ที่ศูนย์กลางกาย เหมือนเป็นอันหนึ่ง อันเดียวกันอย่างบอกไม่ถูก จนตอนหลังแค่เอาใจแตะที่ศูนย์กลางกายเพียงเบา ๆ องค์พระก็ผุดพรั่งพรู ขึ้นมาเอง และสามารถเข้ากลางองค์พระในองค์พระได้แบบเป็นอัตโนมัติไปเรื่อย ๆ และบางทีก็นึกอาราธนาหลวงปู่ หลวงพ่อ คุณยาย มาซ้อนที่ศูนย์กลางกาย เพื่อนึกขอบารมีท่านช่วยคุมบุญให้เดินได้ตลอดรอดฝั่ง เพราะบางครั้งขณะที่อาตมาเดิน ๆ อยู่ เท้าก็เหมือนยกขึ้นไม่ไหวอีกแล้ว แต่พอเอาใจจรดนิ่งที่กลางท้องของหลวงปู่ ขอบารมีให้ท่านช่วย อยู่ ๆ ก็เหมือนมีอะไรมารองใต้เท้าจนเกิดแรงดันให้ไปต่อได้...”

 

 

พระวรรณเฉลิม อตฺถโกวิโท

           “ก่อนที่อาตมาจะมาบวชก็มีปัญหา ชีวิตก็ประสบปัญหาหลายอย่าง พ่อกับแม่เสียชีวิตตอนที่อาตมาเป็นทหารที่ลพบุรี ตอนนั้นตั้งใจว่าจะบวชให้แม่ เพราะแม่ป่วย ท่าทางจะไม่รอดแล้ว เพราะท่านนอนนิ่งไปเลย แต่ก็เกิดปาฏิหาริย์ คืออาตมาไปบนไว้ว่า ถ้าแม่ฟื้นและกลับมาเดินได้ จะบวชให้ ตอนนั้นอาตมายังเป็นทหารอยู่ อาตมาจึงขออนุญาตไปบวชให้แม่ แล้วก็ได้รับอนุญาตให้บวชได้

           “ตอนนั้นทางบ้านเตรียมจัดงานบวชให้แล้ว แต่เรื่องราวกลับแปรผันไป เพราะว่าเมื่ออาตมาเดินทางจะไปบวช โยมพ่อซึ่งขับรถมารับก็ประสบอุบัติเหตุรถพลิกคว่ำ พ่อเสียชีวิต อาตมาก็นั่งอยู่บนรถคันเดียวกับพ่อ แต่ตัวอาตมาไม่เป็นไร งานบวชก็เลยกลายเป็นงานศพแทน

           “ตอนนั้นใจหายมาก สะเทือนใจอย่างหนัก สงสารแม่ก็สงสาร เพราะท่านป่วยมาหลายปี ถ้าแม่รู้ว่าพ่อเสียชีวิตแล้ว แม่คงจะทรุด และพอแม่รู้ว่า พ่อเสียแล้ว แม่ก็ร้องไห้ อาการก็ทรุดลง จากที่เดินได้แล้วก็ทรุดลงมา ตอนมีงานเผาศพพ่อ อาตมาต้องไปดูแลแม่ที่โรงพยาบาลตลอด ให้พี่สาวจัดการเรื่องงานศพ อยู่ได้ไม่นานแม่ก็อาการหนักมาก ต้องนำส่งโรงพยาบาลที่จังหวัดอุดรธานี หลังจากพ่อเสียไป ๕ เดือน แม่ก็เสียชีวิต หลังจากพ่อกับแม่เสียแล้ว อาตมาได้ไปทำงานพักหนึ่ง ช่วงนั้นติดเพื่อนมาก กินเหล้า สูบบุหรี่ ติดทั้งยาทั้งเหล้า กลัดกลุ้มมาก ว่าชีวิตนี้ไม่เหลืออะไรแล้ว อย่างไรก็กินให้มันตายไปเลย เสพยาให้มันตายไปเลย เพราะเสียใจมากไม่มีทางออก แต่พอได้มาบวชในโครงการอุปสมบทหมู่ ๑๐๐,๐๐๐ รูป เข้าพรรษา เมื่อ พ.ศ. ๒๕๕๕ ที่ศูนย์กุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี ปรากฏว่าทุกวันนี้มันสว่างแล้วในตัว

           “ช่วงที่เข้ามาบวชแรก ๆ ที่ศูนย์อบรม พระอาจารย์ท่านเคร่งครัดมากเรื่องการนั่งสมาธิ และเรื่องห้ามสูบบุหรี่ เนื่องจากก่อนบวชอาตมาสูบบุหรี่จัดมาก พระอาจารย์ท่านก็ขอว่า หลวงปู่ หลวงพ่อ คุณยาย ไม่ชอบให้สูบบุหรี่ ถ้าจะบวชอยู่ในสายนี้ต้องสละทิ้งเลย อาตมาก็รับปากพระอาจารย์ว่าจะไม่สูบ ก็เอาบุหรี่ทิ้งเลย หักดิบ การหักดิบก็ยาก มันทรมานมาก ๆ อยู่ประมาณ ๒ อาทิตย์ แล้วหลังจากนั้นก็ค่อย ๆ ดีขึ้น แต่ต้องนั่งสมาธิเยอะ ๆ ตอนแรกก็คิดอยากสึก เพราะว่ามันทรมาน อยากจะสึกออกไปใช้ชีวิตข้างนอกเหมือนเดิม แต่ก็ยังนั่งสมาธิไปเรื่อย ๆ พอนั่งไปแล้วก็เพลิน นั่งฟังเสียงหลวงพ่อไป ใจก็สบายมาก นิ่งไปเรื่อย ๆ ไม่เหนื่อย ไม่ปวด แวบเดียวแสงสว่างในตัวขยายขึ้น แล้วก็เห็นเป็นดวงแก้วผุดซ้อน และเห็นพระธรรมกายมาประทับอยู่ในตัวอาตมาเลย สักครู่เดียวองค์พระก็ขยายขึ้นองค์ใหญ่มาก ไม่นานอาตมาก็ถูกดูดลงในท่อเหมือนท่อแก้ว ดูดเข้าไปอีกข้างใน เข้าไปเห็นเกตุบัวตูมสวยมาก สักพักเดียวมีองค์พระผุดขึ้นมา เป็น องค์พระธรรมกายใสเป็นสีทอง สวยมาก และมีแสงสว่างยิ่งกว่าดวงอาทิตย์ อาตมามีความสุขมาก

           “ต่อมาพระอาจารย์ในศูนย์ก็บอกว่าถ้าไปเดินธุดงค์จะได้บุญเยอะ เพราะเดินในเส้นทางหลวงปู่ จะได้บุญเยอะ อาตมาก็เลยรับปากพระอาจารย์ว่าจะไปอบรมต่อ จากนั้นก็เลยไปที่วัดพระธรรมกาย ได้มาปฏิบัติธรรมกับหลวงพ่อ ได้ใช้ชีวิตในหมู่คณะ รู้เลยว่าเป็นแบบไหน ถ้าไม่มีความอดทนจริง ๆ ก็อยู่ไม่ได้ ทำให้ได้อะไรหลายอย่าง ทำให้จิตใจเข้มแข็งขึ้น จากที่เคยเป็นคนใจร้อน ตอนนี้เป็นน้ำแข็งไปเลย เย็นมาก

           “ช่วงเดินธุดงค์ ก็ตรึกธรรมะตลอด ทุกย่างก้าวก่อนที่จะออกเดิน พอเดินวันแรกก็เหยียบโดน ไม้เสียบลูกชิ้น เหยียบแล้วดึงออกเลย แล้วก็เดินต่อ ตอนนั้นปวดเหลือเกิน ตั้งจิตอธิษฐานว่า ถ้าลูกมีบุญ มีสายบุญต่อหลวงปู่ หลวงพ่อ คุณยาย จริง ๆ ขอให้แผลของลูกไม่ปวด ให้หายเจ็บ หายแสบ อย่าให้เลือดออก ตอนนั้นเลือดก็ไม่ออก แต่มันแสบ พอเดินไปแป๊บเดียว ตรึกธรรมะไป อาการปวดก็หายไปเลย อาตมาเดินจนลืมปวด ลืมเจ็บ และอาตมาก็อุทิศบุญให้พ่อกับแม่ตลอด กลั่นท่านมาไว้ที่ศูนย์กลางกาย และเคยอธิษฐานกับหลวงปู่ว่า ถ้าแม่ได้รับบุญ ขอให้ผมฝันเห็นแม่ คืนนั้นอาตมาก็ฝันว่าได้ไปหาแม่อย่างอัศจรรย์ อาตมาอยากให้พ่อกับแม่ได้บุญเยอะ ๆ”

 

 

          จากเรื่องราวผลการปฏิบัติธรรมของพระธุดงค์ ๒ รูป ที่ผ่านมา เป็นเครื่องยืนยันอย่างชัดเจนว่า เราสามารถที่จะเข้าถึงธรรมะ และเข้าถึงความละเอียดของธรรมปฏิบัติได้แม้ในขณะที่กำลังก้าวเดิน ดังนั้นธรรมะอยู่ที่เรา อยู่ในตัวเรา ถ้าเราสามารถบอกกับตัวเองได้อย่างแท้จริงว่า.. ฉันรักธรรมะ รักการปฏิบัติธรรมจริง ๆ เราก็จะไม่มีข้อแม้ในการปฏิบัต-ธรรม และจะตั้งหน้าตั้งตามองกลางของกลาง คือ เอาใจมาจรดที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ให้ได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะมืดตื้อมืดมิด จะหนาวร้อนอบอ้าว บรรยากาศภายนอกจะอึกทึกวุ่นวายก็ไม่ใช่ปัญหา ดังนั้น วันนี้เราต้องถามตัวเองให้ได้ว่า เรารักธรรมะจริงไหม รักที่จะเข้าถึงความสุขภายในจริงหรือเปล่า ถ้ารักจริงก็ต้องเลิกสร้างเงื่อนไขให้กับตัวเอง แล้วนำใจมาจรด มาหยุด มานิ่ง อยู่ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ให้ได้ตลอดเวลา ถ้าใจหยุดนิ่งอย่างไร้เงื่อนไข ใจจะละเอียดสว่างใสอย่างไร้ประมาณ

 

“..วันนี้เราต้องถาม ตัวเองให้ได้ว่า เรารักธรรมะจริงไหม
รักที่จะเข้าถึงความสุข ภายในจริงหรือเปล่า
ถ้ารักจริงก็ต้อง เลิกสร้างเงื่อนไข ให้กับตัวเอง..

บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

* * อยู่ในบุญ แนะนำ/เกี่ยวข้อง * *

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล