ฉบับที่ ๒๖ ประจำเดือนธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๗

ธุดงค์ปีใหม่ เปิดงบบุญใหม่สู่ชีวิต เรียบเรียงจากพระธรรมเทศนา พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (หลวงพ่อธัมมชโย)

 

            ปีนี้เราจะปิดงบบุญชีวิตประจำปีพุทธศักราช ๒๕๔๗ ในวันที่ ๓๑ ธันวาคม ซึ่งจะอยู่ในช่วงของการอยู่ธุดงค์ปีใหม่ โดยจะมาลงทะเบียนในวันพฤหัสบดีที่ ๓๐ ธันวาคม ถ้าใครทำได้ครบก็จะปลื้มอกปลื้มใจว่า ชีวิตที่ผ่านมาเพิ่งจะมีปีนี้แหละที่เราได้สร้างบารมีครบทุกวัน ไม่ได้ขาดเลยแม้แต่วันเดียว ซึ่งเป็นสิ่งที่เป็นไปได้เฉพาะผู้รู้ ผู้มีบุญเท่านั้น ที่ได้มาศึกษาคำสอน ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วเข้าใจเรื่องวัตถุประสงค์ของการมาเกิด ก็ทำให้ถูกวัตถุประสงค์ตามคำสอน

              หากใครไม่ได้อยู่ในบุญเขตนี้ หรือไม่ได้อยู่ในร่มเงาคำสอน ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว แม้จะรวยก็รวยฟรี จะมีกี่แสนล้าน ถ้าไม่ได้ทำบุญทุกวัน รวยไปก็อย่างนั้นๆ จะมีอำนาจวาสนาก็มีไปอย่างนั้นๆ เพราะเราอยู่ในโลกนี้ไม่นาน ไม่ช้าก็ตายแล้ว เมื่อตายแล้วชีวิตในปรโลกเขาดูกันที่บุญและบาป เขาไม่ได้ดูว่าใครหล่อ ใครรวย ใครสวย ใครจน ใครเก่งหรือไม่เก่ง เพราะฉะนั้นเราจะต้องจับหลักตรงนี้ให้ได้

            หลักของชีวิตมีอยู่ว่า ก่อนตายที่จะไปสู่สุคติโลกสวรรค์ หรืออบายในนรกต่างๆ เหล่านั้น เขาวัดกันที่บุญกับบาป ใสกับหมอง เขาดูกันที่ตรงนี้ ไม่ได้ดูที่เรื่องอื่น ดังนั้นเรามีบุญมากที่ได้ไปเกิดในบุญเขตของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อยู่ในคำสอนของท่าน ซึ่งเป็นผู้รู้แจ้ง เห็นแจ้งแทงตลอดในธรรมทั้งปวง แล้วเราก็ได้ทำตามนั้นได้สั่งสมบุญกันมาตลอดทั้งปี และจะได้มาปิดงบบุญประจำปีในวันที่ ๓๑ ธันวาคม วันที่ ๑ มกราคม เป็นวันเริ่มต้นเปิดงบบุญใหม่ของปี ๒๕๔๘

             สำหรับนักเรียนใหม่ที่เพิ่งได้ศึกษาเรียนรู้เรื่องราวความจริงของชีวิตโดยผ่านจานดาวธรรม ก็ไม่เป็นไรนะลูกนะ เวลาเหลือเท่าไรเราก็เอาเท่านั้นทำกันไป และไปตั้งต้นใหม่วันเสาร์ที่ ๑ มกราคม เริ่มสั่งสมบุญ ทั้งทาน ศีล ภาวนา เป็นต้น สั่งสมบุญให้ครบถ้วนบริบูรณ์ เพื่อจะได้มีอุปกรณ์ในการสร้างบารมีให้ครบถ้วน

             ทานส่งผลให้มีทรัพย์สมบัติ ศีลทำให้มีรูปสมบัติ ภาวนาทำให้มีคุณสมบัติ รูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ และคุณสมบัตินี่แหละเป็นอุปกรณ์ในการสร้างบารมีอย่างสำคัญ ต้องมีสมบัติทั้งสามอย่างนี้เป็นพื้นฐานที่จะไปสร้างบารมีอีก ๑๐ อย่าง มีทานบารมี ศีลบารมี เนกขัมมะ ปัญญา วิริยะ ขันติ สัจจะ อธิษฐาน เมตตา และอุเบกขาบารม

             เราต้องมีสมบัติทั้ง ๓ อย่าง คือ รูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ และคุณสมบัติ เป็นฐานที่จะไปสร้างบารมีอย่างอื่นให้ครบถ้วนบริบูรณ์ ถ้าไม่มี ๓ อย่างนี้แล้วละก็ การสร้างบารมีมันลำบาก มีอุปสรรคมาก หล่อแต่จน แล้วก็ไม่ฉลาด อย่างนี้มันสร้างบารมีลำบาก เพราะว่าแค่คิดก็คิดไม่ออกว่าเกิดมาทำไม มีวัตถุประสงค์ของชีวิตอย่างไร ทรัพย์ก็ไม่มี หรือมีทรัพย์แต่ขาดปัญญา มีก็กอดทรัพย์ไว้จนตายอย่างนั้น ก็ไม่มีประโยชน์ หรือมีดวงปัญญาอยากจะสั่งสมบุญกลับไม่มีทรัพย์เสียอีก เพราะฉะนั้นอย่างน้อยต้องมี ๓ อย่าง             


             การจะถึงพร้อมด้วยสมบัติทั้งสามได้นั้น เราจะต้องสั่งสมบุญทุกวันทั้งปี และมาปิดงบบุญในวันสิ้นปีของทุกๆ ปี เราเริ่มต้นมาปีนี้พุทธศักราช ๒๕๔๗ นี้แล้ว เพราะฉะนั้นเราก็จะมาอยู่ธุดงค์ปีใหม่ ในบริเวณที่จะสร้างมหารัตนวิหารคด ไปเจริญสมาธิภาวนา กันตรงนั้น กลั่นใจให้ใสๆ จะได้เป็นที่รองรับมหารัตนวิหารคด ซึ่งจะเป็นที่ชุมนุมของพุทธบุตรผู้เป็นเนื้อนาบุญ อายุของพระศาสนา และก็ผู้มีบุญทั้งหลาย ทั้งอุบาสก อุบาสิกา สาธุชน ให้มาสั่งสมบุญบารมีกันเป็นจำนวนเรือนหลายแสน ถ้ารวมทั้งหมดทั้งลานธรรมก็จุได้จำนวนล้านเศษ

             เราโชคดี อยู่ในยุคของการสถาปนา คือ เป็นยุคที่เป็น ทางมาแห่งบุญอย่างเต็มที่ แม้จะลำบากแค่ไหนก็ตามมันก็เป็นทางมาแห่งบุญ ถ้าเราไม่เหน็ดเหนื่อยแล้วเราจะได้บุญมาได้อย่างไร บุญที่จะหล่นทับไม่มีหรอก จะมีได้ต้องสร้าง

            ตอนนี้เราอยู่ในยุคสถาปนามหารัตนวิหารคด ยุคหลังๆ ก็จะอยู่ในยุคของการอนุโมทนา แค่มาพลอยชื่นชมยินดี ก็ได้บุญแค่นิดๆ แต่เรารุ่นสถาปนาเราได้บุญเต็มที่ เพราะฉะนั้นให้ดีอกดีใจกัน
ดังนั้น เหลือเวลาอีกไม่กี่วันจะถึงวันปิดงบบุญ เพราะฉะนั้นตอนนี้ใครมีเครื่องกังวลอะไรต่างๆ ก็ไปปลดเครื่องกังวลกันให้เรียบร้อย พอถึงตอนนั้นใจเราเกลี้ยงแล้ว ก็มาเอาบุญใหญ่ เป็นบุคคลในประวัติศาสตร์ของการสร้างมหารัตนวิหารคด

             ภาพที่เราทำทุกภาพจะถูกบันทึกไว้ในศูนย์กลางกายของเรา จะไปฉายให้เราเห็นเวลาที่เราระลึกชาติได้ เวลาใจเราใสนิ่งดีแล้ว จะเห็นภาพการสร้างบารมีของเรา เราจะเห็นด้วยตัวของเราเองเมื่อเราเข้าถึงธรรมแล้ว ได้บรรลุบุพเพนิวาสานุสติญาณ ความรู้ที่เป็นเหตุ ให้เราระลึกชาติหนหลังได้ เราจะเห็นภาพเป็นเรื่องเป็นราวไปเลยว่า ตอนนั้นเราทำอย่างเต็มทีหรือเต็มที่ เต็มกำลังหรือว่าตามกำลัง ทำเป็นทีๆ หรือว่าถี่ๆ ทำทุกทีหรือว่าบางที แล้วระหว่างมาทำ เราสดชื่นเบิกบานแค่ไหน ก่อนทำใจใส หรือว่าหงุดหงิดก่อนแล้วจึงค่อยมาทำบุญ เวลานั่งสมาธิอยู่ในกลด นั่งหลับตาพริ้ม หรือว่านั่งยิ้มอย่างไร จะเห็นภาพเป็นเรื่องเป็นราวปรากฏด้วยตาของเราเอง และในสายตาของ ท่านผู้รู้ทั้งหลาย มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นประมุข เป็นต้น

               เพราะฉะนั้น เราต้องทำหล่อทำสวยเสมอในการสร้างบารมี และต้องทำเต็มกำลังด้วย เพื่อที่ว่า เมื่อเราเห็นด้วยตัวของเราเอง วันนั้น จะได้ปลื้มปีติยินดี และก็เวลาไปเล่าสู่กันฟังก็จะได้นำภาพดีๆ นี้ไปบอกกล่าวด้วยความชื่นอกชื่นใจ ใครฟังก็จะได้มีกำลังใจในการสร้างบารมีตามเราไปด้วย

 

บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

* * อยู่ในบุญ แนะนำ/เกี่ยวข้อง * *

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล