ทบทวนบุญ
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
"การบวชเป็นพระภิกษุสงฆ์" มิใช่เพียงเป็น การรักษาประเพณีวัฒนธรรมของลูกผู้ชาย ที่จะต้องยึดถือปฏิบัติสืบทอดกันมาแต่อดีตเท่านั้น แต่เมื่อพิจารณาคุณค่าจากการบวช ก็จะพบว่ามีมากมายเกินพรรณา ซึ่งผู้ที่บวชเองก็ย่อมประจักษ์ด้วยตนเอง ว่าได้ประโยชน์แก่ชีวิตทั้งในปัจจุบัน พร้อมทั้งมีหลักประกันในอนาคตของการเดินทางในวัฏสงสารข้ามภพข้ามชาติ และยังได้ศึกษาเรียนรู้ถึงเป้าหมาย สูงสุดเพื่อความหลุดพ้นจากกองทุกข์ ส่วนครอบครัว ใดที่มีกุลบุตรได้ออกบวช แม้จะเป็นเพียงระยะเวลา อันสั้น ต่างก็ปีติและหวังว่า เมื่อลาสิกขาแล้ว ครอบครัวจะได้สมาชิกที่ผ่านการอบรมหล่อหลอมด้วยหลักแห่งศีลธรรม เช่น ลูกจะได้บิดาที่เข้าใจโลก และชีวิตที่ลึกซึ้งมากขึ้น ภรรยาได้สามีที่สุขุมนุ่มนวล มีอารมณ์สงบเยือกเย็น ชุมชนได้สมาชิกที่รู้จักตนเอง และเข้าใจคนอื่น ประเทศชาติได้ประชากรที่ได้รับการ พัฒนาทางจิตใจ และในที่สุดสังคมโลกก็จะกลายเป็น สังคมที่เคลื่อนไปสู่ความสงบพบสันติสุขอันไพบูลย์ที่แท้จริงได้ เพราะคุณค่าการบวชมีมากมายกว่าพรรณานี้เอง มูลนิธิธรรมกายและวัดพระธรรมกาย จึงได้จัดการบวชในรูปแบบต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง
ซึ่งในปีนี้ได้จัดให้มีโครงการบรรพชาอุปสมบท หมู่ภาคฤดูร้อนแก่นักเรียน นิสิตนักศึกษา ตลอดจน บุคคลทั่วไปหลายโครงการด้วยกัน ดังนี้
|
โครงการอุปสมบทหมู่ภาคฤดูร้อน ๑๐๐,๐๐๐ รูป
ทุกหมู่บ้านทั่วไทย
เป็นโครงการที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ ๑๓ มีนาคม ถึง ๓๐ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๕ ณ วัดที่เป็นศูนย์อบรมประจำอำเภอทั่วประเทศ โดยได้มีการเชิญชวน ชายไทยตั้งแต่อายุ ๒๐-๖๐ ปี ให้มาบรรพชาอุปสมบท เพื่อฝึกฝนอบรมตนเองในภาคฤดูร้อน เพราะมีหลาย ท่านไม่สามารถจัดสรรเวลามาบวชในช่วงเข้าพรรษา ได้ ดังนั้น ช่วงภาคฤดูร้อนจึงเป็นช่วงที่ถือเป็นโอกาสทองโอกาสธรรมที่มีชายไทยผู้มีบุญสมัคร เข้ามาบวชอย่างล้นหลาม สำหรับการบวชโครงการนี้ แบ่งออกเป็น ๒ ช่วง คือ เมื่อรายงานตัวเข้าอบรมตามศูนย์อบรมต่าง ๆ ทั่วประเทศแล้ว วันที่ ๓๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ ได้เข้าพิธีบรรพชา (บวชเป็นสามเณร) พร้อมกัน ณ วัดพระธรรมกาย จากนั้นเป็นช่วงที่สองที่สามเณรเหล่านี้จะกลับไปเข้าพิธีอุปสมบท (บวชเป็นพระภิกษุ) ณ วัดในท้องถิ่น อันเป็นที่ตั้งของศูนย์อบรมต่าง ๆ ทั่วประเทศนั่นเอง ซึ่งการบวชครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงพลังศรัทธาของ ลูกผู้ชายจนปรากฏเป็นภาพกุลบุตรเข้าพิธีบรรพชาที่วัดพระธรรมกายจำนวนมากในลานธรรม
โครงการอุปสมบทหมู่
ธรรมทายาทชาย อุดมศึกษา
โครงการนี้ เป็นโครงการบวชในภาคฤดูร้อน ณ วัดพระธรรมกายเช่นเดียวกัน โดยเน้นผู้สมัคร ที่ยังเป็นนิสิตนักศึกษา สำหรับโครงการนี้ถือเป็นโครงการหลักดั้งเดิมที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีต่อเนื่อง มาตั้งแต่ปีพุทธศักราช ๒๕๑๕ ซึ่งปัจจุบันเป็นรุ่นที่ ๔๐ และโครงการนี้ถือเป็นโครงการสำคัญที่สร้างให้มี ธรรมทายาทผู้เป็นกำลังสำคัญของพระพุทธศาสนามากมาย ที่ยังไม่ลาสิกขาก็ทำหน้าที่เป็นกำลังสำคัญ ในการเผยแผ่และการทำกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา ส่วนผู้ที่ลาสิกขาไปแล้ว ก็ไปเป็นกำลังสำคัญในสถาบันการศึกษาของตน เช่น เป็นผู้นำหรือสมาชิก ในชมรมพุทธศาสตร์ ชมรมฝึกสมาธิ ชมรมวัฒนธรรมไทย เป็นต้น ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่า ผู้ที่เข้า มาร่วมในโครงการนี้ ได้มีการพัฒนาตนเองทั้งด้าน พฤติกรรม แนวคิด ทัศนคติ และมีผลการเรียนที่ดีขึ้น ดังนั้น นิสิตนักศึกษาผู้ที่ไม่ติดข้องเรื่องจะเรียนต่อ หรือเรียนจบแล้วกำลังจะเข้าทำงาน เป็นต้น จึงถือโอกาสนี้สมัครเข้ามาบวช เป็นพระธรรมทายาทในโครงการนี้ ส่วนผู้ปกครองเองก็มักจะสนับสนุน ให้กุลบุตรเข้ามาบวชในโครงการนี้ตั้งแต่ยังอยู่ในวัยเรียน เพราะหากเข้าสู่ช่วงเวลาที่ทำงานแล้ว มักยากที่จะจัดสรรเวลามาบวชได้ โอกาสที่จะพัฒนาตนเองด้วย พุทธวิธีจึงยากที่จะเกิดขึ้น
โครงการอุปสมบทหมู่
ครูผู้นำฟื้นฟูศีลธรรมโลก
ตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมา โครงการบวชแต่ละโครงการมีคุณครูสมัครเข้ามาบวชเป็นจำนวน มาก แต่ในปีนี้ มีโครงการบวชสำหรับครูโดยเฉพาะ ซึ่งความสำเร็จของโครงการนี้เกิดขึ้นได้ด้วยความ มุ่งมั่นตั้งใจของครูแต่ละท่าน บวกกับความชาญฉลาด ของผู้บริหารทุกระดับของกระทรวงศึกษาธิการ ที่ เปิดโอกาสให้คุณครูทั้งหลายเข้ามาบวช ซึ่งถือเป็นยุทธศาสตร์อันยอดเยี่ยมในการพัฒนาบุคลากรของ กระทรวงศึกษาธิการด้วยพุทธวิธี ที่นอกจากจะประหยัดและได้ผลเลิศแล้ว
ยังบังเกิดบุญกุศลมากมายมหาศาลอันจักประมาณมิได้ ทั้งแก่ผู้บวชและผู้ให้การสนับสนุน และที่สำคัญคุณครูเหล่านี้หลังจากลาสิกขาไปแล้ว จะเป็นต้นบุญต้นแบบของ นักเรียนและผู้คนทั้งหลาย เวลาจะพูดจะนำใครทำ ความดีก็น่าเชื่อถือ เพราะเคยบวชเรียนมาแล้ว ถ้าไม่เคยผ่านการบวชมาเลย ความน่าเชื่อถือย่อมจะลดลง สมกับที่มีคำกล่าวว่า "พูดอะไรก็ไร้ค่า ถ้าไม่ทำ" ดังนั้น คุณครูผู้ผ่านโครงการนี้มาแล้ว จึงสมควรที่ได้รับการยกย่องว่า เป็นคุณครูผู้นำฟื้นฟูศีลธรรมโลกอย่างแท้จริง
สำหรับโครงการนี้ มีการอบรมระหว่างวันที่ ๑-๓๐ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๕ ส่วนอีกโครงการหนึ่งที่จัดขึ้นสำหรับคุณครูผู้หญิง คือ โครงการบวชอุบาสิกาแก้วครูผู้นำฟื้นฟูศีลธรรมโลก ก็จัดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกัน ณ ศูนย์ฝึกอบรมธรรมทายาทฯ (เขาแก้วเสด็จ จังหวัดปราจีนบุรี) และที่วัดพระ-ธรรมกาย
โครงการมัชฌิธรรมทายาท ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
โครงการนี้ เป็นโครงการบรรพชาของเยาวชน ชายที่อยู่ในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ซึ่งเปิดรับสมัครนักเรียนมัธยมจากทั่วประเทศเข้าอบรม ณ วัดพระธรรมกาย และศูนย์ฝึกอบรมธรรมทายาทฯ (เขาแก้วเสด็จ) ซึ่งโครงการนี้ถือเป็นโครงการสำคัญ ที่จะเป็นการเตรียมตัวและเตรียมพร้อมของเยาวชน คนรุ่นใหม่ที่กำลังจะก้าวไปสู่ชีวิตของความเป็นนิสิต นักศึกษา ซึ่งหลายคนจะต้องห่างจากอ้อมอกของบิดามารดา ไปเผชิญโลกภายนอกด้วยตนเอง เยาวชน หลายคนหากไม่ได้ฉีดวัคซีนแห่งศีลธรรมเข้าสู่จิตใจ ตนเองแล้ว อาจไม่สามารถครองตนในสภาพแวดล้อม ที่ชักนำไปสู่ความเสื่อมได้ ซึ่งจะก่อให้เกิดน้ำตาแห่ง ความเสียใจแก่บิดามารดา แทนที่จะเป็นน้ำตาแห่งความปลื้มปีติที่ได้เห็นผ้าเหลืองของลูกชายที่อยู่ในเพศสมณะก็ได้ ดังนั้นวัยรุ่นที่เริ่มมีการเปลี่ยนแปลง ทั้งสภาพจิตใจ ร่างกาย และสภาพแวดล้อม จึงสมควรที่จะต้องตระเตรียมจิตใจให้มีความตั้งมั่น สงบ มีสติ และมีวินิจฉัยที่สามารถแยกแยะได้ว่าอะไรถูกอะไรผิด อะไรสมควรอะไรไม่สมควร โดยอาศัย ธรรมะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ได้จากการบวช
โครงการยุวธรรมทายาท รุ่นที่ ๒๔
โครงการนี้ เป็นโครงการสำหรับเยาวชนตั้งแต่วัยประถมศึกษาถึงมัธยมศึกษาตอนต้น ซึ่งเนื้อหาหลักสูตรอบรมตลอดจนกิจกรรมประกอบหลักสูตรนี้ ได้ผ่านการพัฒนาปรับปรุงให้เหมาะสมมาจนปัจจุบันเป็นปีที่ ๒๔ แล้ว จึงถือว่าเป็นโครงการที่มีคุณภาพ ทั้งด้วยบุคลากร เช่น พระอาจารย์ เจ้าหน้าที่พี่เลี้ยง เป็นต้น ล้วนแต่มีความชำนาญและมีจิตใจที่เสียสละทุ่มเทให้กับการอบรม และพร้อมที่จะแนะนำสิ่งที่ดีที่สุดให้กับเยาวชนเหล่านี้ โดยหวังให้เยาวชนเหล่านี้เป็นทายาทแห่งธรรมตั้งแต่วัยเยาว์ เพราะเยาวชนในวัยนี้เป็นกลุ่มเสี่ยงอย่างยิ่ง ในสภาพสังคมที่เป็นสังคมบริโภคนิยมในปัจจุบัน ที่ยั่วยุให้เกิดความต้องการอยากได้นั่นได้นี่ จนเด็กยากที่จะแยกแยะว่าอะไรคือ สิ่งที่จำเป็น (need) หรืออะไรคือ สิ่งที่ต้องการ (want) ดังนั้น ผู้ปกครองที่มองการณ์ไกล จึงนิยมส่งลูกหลานของตนเองเข้ารับการอบรมในโครงการนี้ เพื่อให้เด็กได้เห็นแบบอย่างที่ดีตั้งแต่เยาว์วัย ซึ่งปีนี้ โครงการนี้ จัดขึ้น ณ ศูนย์ฝึกอบรมธรรมทายาทฯ (เขาแก้วเสด็จ) อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี
ชีวิตที่สูงส่ง คือชีวิตของนักบวช ที่ได้ครองผ้ากาสาวพัสตร์
โครงการสามเณรเตรียมพุทธศาสตร์
โครงการนี้ เป็นโครงการรับกุลบุตรมาบรรพชา เป็นสามเณร จะได้ใกล้ชิดพระพุทธศาสนาตั้งแต่วัยเยาว์ และจะได้ศึกษาเล่าเรียนในหลักสูตรพุทธ-ศาสตรบัณฑิต เมื่อเรียนจบแล้วก็จะเป็นบัณฑิต นักปราชญ์ในทางพระพุทธศาสนาต่อไปในอนาคต
ในช่วงเวลาที่ผ่านมา เยาวชนที่เข้ามาสู่โครงการ นี้ได้ฝึกฝนอบรมตนเองทั้งด้านปริยัติ ปฏิบัติ จนก่อให้ เกิดปฏิเวธ นั่นคือ เป็นผู้รู้ในความจริงของชีวิต ไม่ต้องไปใช้ชีวิตที่เสี่ยงต่อการลองผิดลองถูกในทางโลก ไม่ต้องไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่อาจจะนำพาไปสู่สิ่งที่มิใช่สาระหรือแก่นแท้ของชีวิต ซึ่งพระเทพญาณมหามุนี (หลวงพ่อธัมมชโย) ได้ชื่นชมเยาวชนที่เข้ามาบวช เป็นสามเณรในโครงการนี้ว่า เป็น ผู้ได้โอกาส มิใช่ด้อยโอกาส เพราะไม่ต้องเสี่ยงไปทำบาปกรรมในเพศภาวะอื่นตั้งแต่เยาว์วัย ซึ่งโครงการนี้จัดขึ้นโดย โรงเรียนเตรียมพุทธศาสตร์ วัดพระธรรมกาย
โครงการสามเณรหน่อแก้วเปรียญธรรม
หลายสิบปีที่ผ่านมา วัดพระธรรมกายจัดว่าเป็น สำนักเรียนพระปริยัติธรรมสำนักหนึ่งที่มีผลงาน การเรียนการสอนภาษาที่อยู่ในเกณฑ์ดี มีผู้สอบได้เปรียญธรรมมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย และ มีการพัฒนาและสร้างบุคลากรด้านนี้ได้เป็นจำนวนมาก
เยาวชนที่ยังอยู่ในวัยเรียนที่มีความสนใจจะศึกษาหาความรู้ในด้านนี้ สามารถสมัครเข้ามาบวช เป็นสามเณรและศึกษาเล่าเรียนภาษาบาลี เพื่อจะ สืบทอดอายุพระพุทธศาสนา ธำรงไว้ซึ่งพระพุทธ-ธรรมคำสอนที่ได้มีการบันทึกไว้ด้วยภาษาบาลีให้ยั่งยืนยาวนานไปสู่อนาคตตลอดไป ที่ผ่านมาผู้สมัคร เข้าบวชเรียนในโครงการนี้ ได้รับความชื่นชมจากศรัทธาสาธุชน ตลอดจนพระมหาเถรานุเถระทั้งหลาย เป็นอย่างยิ่ง โครงการนี้จัดขึ้น ณ อาคารแก้วดวงบุญ วัดพระธรรมกาย
ทุกย่างก้าวของการฝึกฝนอบรมตนเองตามพุทธวิธีของเหล่าธรรมทายาท ล้วนเป็นสัญญาณบ่งชี้ ถึงความก้าวหน้าทางด้านจิตใจ ซึ่งเป็นกระบวนการ ที่จะนำพาตนเองและสังคมไปสู่ความก้าวหน้าอย่าง ยั่งยืน ดังนั้นโครงการบวชต่าง ๆ ที่กล่าวมา ทั้งใน ช่วงภาคฤดูร้อนหรือโครงการบวชเรียนระยะยาวก็ตาม ถือเป็นโครงการที่ช่วยพัฒนาคุณภาพมนุษย์ด้วยพุทธวิธี จนกระทั่งถึงการพัฒนาวิถีชีวิต จากบุคคลธรรมดาให้ก้าวสู่ความเป็นพระแท้ผู้เป็น เนื้อนาบุญของโลกอย่างแท้จริง