อานุภาพ “สัมมา อะระหัง”
เรื่อง : พระบริบูรณ์ ธมฺมวิชฺโช
จะเกิดอะไรก็ช่าง
ท่อง “สัมมา อะระหัง” อย่างเดียว
เราชาวพุทธพึงเชื่อมั่นในการภาวนา เพราะการภาวนามิใช่การร้องขอหรือการสวดอ้อนวอน แต่การภาวนา คือ การชำระจิตใจของเราให้สะอาด บริสุทธิ์ ด้วยคำภาวนา และหากเราได้ศึกษาเรื่องราวของพระของขวัญวัดปากน้ำ รุ่น ๑-๒-๓ ที่มีความศักดิ์สิทธิ์เป็นอัศจรรย์ ดังพระธรรม-เทศนาของพระมงคลเทพมุนีที่ได้บรรยายความศักดิ์สิทธิ์ไว้ว่า “...ถ้าแม้ว่าเราได้พระของขวัญนี้ เป็นกรรมสิทธิ์ของเราแล้วละก็ ติดอยู่กับตัวเสมอ ๆ บำบัดโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ ได้ โรคภัยไข้เจ็บมีในตัวหายหมด ถ้าเด็กเล็กละก็อ้วนท้วนทีเดียว ตกน้ำก็ไม่ตาย เรือล่มก็ไม่ตาย รถชนรถทับ ไม่เป็นอันตรายทั้งนั้น ถ้าลองสงครามเกิดขึ้น ไม่ต้องอพยพหลบหลีก เมื่ออยู่อย่างไรก็อยู่อย่างนั้น ตามหน้าที่ ทำมาหากินอย่างไรก็ทำมาหากินอย่างนั้นตามหน้าที่ ถ้าเข้าสมรภูมิไปรบกับเขา ก็ไม่ต้องหวั่นหวาด มีพระของขวัญแล้ว อาวุธยุทธภัณฑ์ทำอันตรายไม่ได้ ให้รักษาไว้ให้ดีนะ เป็นของสำคัญเหมือนแก้วสารพัดนึก พระพุทธเจ้าท่านรับสั่งเมื่อทำสำเร็จในวันแรก เวลาได้อรุณออกพรรษา ทรงรับสั่งว่า ตั้งแต่มีธาตุมีธรรมมา ของศักดิ์สิทธิ์ขนาดนี้เพิ่งเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในโลก...”
วิธีการอาราธนาพระของขวัญ ก่อนที่จะอธิษฐานสิ่งต่าง ๆ พระเดชพระคุณหลวงปู่ท่านได้เมตตาสอนโดยให้กำกับคำภาวนาว่า “สัมมา อะระหัง ๆ ๆ” ควบคู่กันเสมอ เช่น “...ถ้าว่าทำนาทำไร่ ทำสวน ทำการงานด้วยปลีแข้งของตน ด้วยกำลังอวัยวะร่างกายของตน ขอพระองค์ได้ ทรงโปรด การงานของข้าพระพุทธเจ้าเป็นดังนี้ ขอให้ทำง่ายทำดายทำสะดวก ได้ผลเกินควร เกินค่า นิ่งอยู่กลางองค์พระของขวัญนั้น ‘สัมมา อะระหัง ๆ ๆ’ ดังเข้าไปถึงพระนิพพาน ส่งผังได้ผลเกินควรเกินค่ามาเต็มตัวเรา ถ้าเราจะไปทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ ขออาราธนาพระองค์ได้ทรงโปรด ขอให้ไปดีมาดี สวัสดีมีชัย นิ่งอยู่กลางองค์พระ ‘สัมมา อะระหัง ๆ ๆ’ ดังเข้าไปถึงพระนิพพาน ส่งผังไปดีมาดี สวัสดีมีชัย มาเต็มตัวเรา...”
แม้บางท่านอาจจะไม่มีพระของขวัญ แต่ทุกท่านล้วนมีพระธรรมกายอยู่ ณ ศูนย์กลางกายกันทุกคน เป็นพระของขวัญที่สถิตอยู่คู่ลมหายใจนับแต่เกิดมา ดังนั้นการภาวนา “สัมมา อะระหัง” โดยให้เสียงคำภาวนาดังออกมาจากศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ก็มีความศักดิ์สิทธิ์ดังเข้าไปถึง พระนิพพาน ส่งผังศักดิ์สิทธิ์ รอดตาย หายป่วย ร่ำรวยเป็นอัศจรรย์ได้เช่นเดียวกัน ดังประสบการณ์จริงของนักปฏิบัติธรรมที่ได้พบกับตัวเองมาแล้ว...
สุขภาพดี มีทรัพย์
คุณอัจจิมา ทีฆวาทิน
เจ้าของสถาบันดนตรีโดเรมี กรุงเทพมหานคร
เมื่อหลาย ๆ เดือนที่ผ่านมา ดิฉันมีปัญหาเรื่องสุขภาพ เนื่องจากไปผ่าตัดรังไข่แล้วก็หมดฮอร์โมน จึงต้องทานฮอร์โมน ปรากฏว่ามีผลข้างเคียงทำให้ตัวบวม หน้าบวม น้ำหนักขึ้น คลื่นไส้ เวียนหัว อาเจียน ไปไหน ไม่ได้เลย อ่อนเพลียมาก ต้องนอนอยู่บ้านอย่างเดียว พยายามจะทำสมาธิ แต่ ปรากฏว่า ทุกขเวทนาเกิดกับตัวเอง ทำสมาธิไม่ได้เลย พยายามใช้เทคนิคหลาย ๆ วิธีก็ทำไม่ได้ จนวันหนึ่งคิดว่าปล่อยไว้แบบนี้ไม่ได้แล้ว ก็เลยพยายามพาสังขาร ตัวเองไปวัด เพราะว่านั่งสมาธิที่บ้านไม่ได้ พยายามไปวัด ไปนั่งสมาธิที่ห้องปัญญา ซึ่งก็นั่งได้บ้าง ไม่ได้บ้าง และตั้งปณิธานกับตัวเองไว้ว่า เราจะพยายามไปให้ได้ ทุกวัน ไปทำทาน ไปรักษาศีล ไปนั่งสมาธิให้ได้ทุกวัน
ยิ่งนานไปสุขภาพสังขารร่างกายของเราก็ย่ำแย่ลงเรื่อย ๆ เรายังมีหน้าที่ต้องดูแลแม่อีกด้วย ทำให้ร่างกายทรุดโทรมจนทนไม่ไหว ก็เลยไปวัด และได้เจอเพื่อน เพื่อนแนะนำให้ไปสวดบทธัมมจักกัปปวัตนสูตร ดิฉันก็เลยมีความคิดว่า บุญอะไรที่สามารถทำได้ตอนนี้ก็ควรทำ และมีความรู้สึกในใจลึก ๆ ว่า ขอให้บุญช่วย บุญอะไรก็ได้ขอให้ช่วยให้พ้นจากทุกขเวทนาเสียที จากนั้นก็ทำตามคำแนะนำของเพื่อน จึงได้สวดธัมมจักฯ
แล้วในวันนั้นก็ได้พบหลวงพี่ปรเมษฐ์ ท่านเอาวิดีโอมาเปิดให้ดู เป็นวิดีโอที่เล่าเรื่องราวของคนที่เป็นมะเร็ง ปอดฉีก ต้องนอนโรงพยาบาล พี่คนที่ป่วยเล่าให้ฟังว่า ก่อนป่วยเขาเคยนั่งสมาธิได้ดี แต่พอมาเจ็บป่วยเขาก็ไม่สามารถที่จะตรึกองค์พระ ตรึกดวงแก้ว หรือทำใจใส ๆ อย่างที่เคยทำได้ แต่พอพระอาจารย์แนะนำให้ท่อง “สัมมา อะระหัง” ๕๐๐ ครั้ง เขาก็เล่าให้ฟังว่า พอครั้งที่ ๑๐๘ ใจก็หลุดเข้าไปเลย แล้วสภาวะทางใจของเขาดีขึ้นมาก ความเจ็บปวดก็หายไป จึงทำให้ดิฉันกลับมา ทบทวนตัวเองกับเหตุการณ์ของผู้ป่วยว่า ขนาดเขาเป็นมะเร็ง ปอดฉีก แย่กว่าเราหลายเท่า เขายังหายเลย เราเป็นแค่นี้เอง ทำให้มีกำลังใจภาวนา “สัมมา อะระหัง”
แต่ก่อนเราก็เคยท่อง แต่ไม่เห็นความสำคัญ ท่องไปไม่ถึง ๑๐ ครั้ง มีความรู้สึกว่าไม่มีอะไร ท่องไปก็ธรรมดา แต่พอวันนั้นท่อง ๑๐๐ ครั้ง พอครั้งที่ ๑๐๐ ขึ้นไป เริ่มมีความรู้สึกแล้วว่า สภาวะใจดีขึ้นเรื่อย ๆ ความเจ็บปวดลดน้อยลง พอท่องได้ ๒๐๐ กว่าครั้ง ความเจ็บปวดหายไปเลย สิ่งที่มาแทนที่คือตัวเบา โล่ง และใจ สบายมาก
ดิฉันดีใจมาก ไม่น่าเชื่อว่า “สัมมา อะระหัง” จะช่วยเราได้ขนาดนี้ อีกวันหนึ่งก็เลยไปห้องปัญญา แล้วก็ไปนั่งสมาธิท่อง “สัมมา อะระหัง” ท่องเพียงไม่กี่ครั้ง สภาวะที่ใจเราได้ในตอนนั้นก็เข้ามาเลย คือนิ่ง สงบ ในวันนั้นนั่งได้ยาว ๒-๓ ชั่วโมง มีความสุขมาก ๆ สบายใจมาก ๆ สภาวะใจเดิม ๆ ที่เคยนั่งได้ดีก็หวนกลับคืนมา
ตอนนี้ดิฉันมีธุรกิจเปิดสถาบันสอนดนตรี มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ธุรกิจติดลบ แต่หลังจากที่ท่อง “สัมมา อะระหัง” ไม่น่าเชื่อเลยว่า มีน้อง ๆ เข้ามาสมัครเรียนกันเยอะมาก และน้อง ๆ ที่เคยมาเรียนกับเราก็ต่อคอร์สขยายเวลาในการเรียนออกไปอีก จึงทำให้มีรายได้เข้ามามากมาย จนทำให้ธุรกิจที่ติดลบนั้นหายไป และยังมีรายได้เพิ่มเข้ามาอีก ตั้งแต่เปิดการเรียนการสอนมาไม่เคยมีรายได้เยอะมากมายขนาดนี้ อีกทั้งสุขภาพก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ เศรษฐกิจก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ คนรอบข้างและคุณพ่อ คุณแม่ก็มีความสุข คุณแม่ก็หายจากอาการป่วย สุขภาพดีขึ้น
ดังนั้น ก็อยากจะขอเชิญชวนทุก ๆ ท่านว่า จะเกิดอะไรกับเราก็ช่างมันให้หมด แล้วก็ท่อง “สัมมา อะระหัง” อย่างเดียวเลย อย่าเพิ่งท้อ ท่องให้ได้อย่างน้อยวันละ ๕๐๐ ครั้ง จะต้องมีอะไรเปลี่ยนแปลง จะต้องมีอะไรดี ๆ เกิดขึ้นกับตัวของคุณ สิ่งมหัศจรรย์จะเกิดขึ้นกับชีวิตของคุณอย่างแน่นอน
สุขด้วย “สัมมา อะระหัง”
คุณรุ่งอรุณ มณีวรรณ์
แม่ค้าหมูปิ้งตลาดเพิ่มทรัพย์ จังหวัดปทุมธานี
ตอนที่ชีวิตดิฉันกำลังวิกฤต ครอบครัวก็วิกฤต แฟนก็ย้ายไปอยู่ อีกบ้านหนึ่ง แล้วลูกดิฉันก็คิดจะฆ่าตัวตาย ชีวิตดิฉันในตอนนั้นเป็นทุกข์มาก แต่อยู่มาวันหนึ่งนั่งรถผ่านวัดพระธรรมกาย เพราะว่าจะไปขายของ ก็เลยมองไปที่พระมหาเจดีย์ แล้วก็อธิษฐานขอพรหลวงปู่ หลวงพ่อ คุณยายว่า ขอให้ลูกเจอทางออกที่ดี เจอทางสว่างที่ดี แล้วก็ถือโอกาสนั่งหลับตาภาวนา “สัมมา อะระหัง”
พอเจริญภาวนาไปเรื่อย ๆ ก็เห็นดวงแก้วที่ใส ๆ ดวงโต ๆ เท่ากับพระจันทร์ตกวูบเข้ามาอยู่ในใจ ถึงตอนนั้นมีความรู้สึกว่า ในใจโล่ง สว่าง มีความสุข จนทิ้งความทุกข์ ความกลุ้มใจทุกอย่างที่มีอยู่ไปหมด อยากจะบอกให้ทุก ๆ คนในโลกนี้ภาวนา “สัมมา อะระหัง” ขอให้ใจของเรามุ่งมั่น และตั้งใจจริง ๆ เราก็จะเจอทางออก ที่ดี เจอความสว่าง เจอความสุขที่แท้จริง
อยากจะเชิญชวนให้ทุกคนภาวนา “สัมมา อะระหัง” ไม่ว่าเราจะทำอะไรอยู่ก็สามารถภาวนา “สัมมา อะระหัง” ได้ บางวันดิฉันท่องได้ถึง ๘,๐๐๐ ครั้ง มากที่สุดก็ถึง ๑๐,๐๐๐ ครั้ง มีความรู้สึกปลื้มและดีใจมาก ดีใจที่สุดในโลก อยากจะบอกกับทุก ๆ คนว่า ให้ทำแบบนี้ ความสุขอยู่ที่ตัวของเรา เราสามารถที่จะคว้าเอาไว้ได้แค่ตรงนี้เอง มันไม่ได้ไกลไปจากมือของเรา พอเราสัมผัสได้แล้ว เราก็จะมองเห็นความสุขที่แท้จริง
ดังนั้น บทสรุปสั้น ๆ ง่าย ๆ ที่ผู้หวังความสุข ความสบาย ความร่ำรวย ความสมปรารถนา หรือความดีเลิศประเสริฐศรีใด ๆ สารพัดดี พึงรีบทำโดยด่วนเลยก็คือ จะเกิดอะไรกับเราก็ช่างมันให้หมด แล้วก็ท่อง “สัมมา อะระหัง” อย่างเดียวเลย โดยนึกถึงเสียงของหลวงปู่วัดปากน้ำตอกย้ำเป็นกำลังใจเข้าไปในกลางกาย “...สัมมา อะระหัง ๆ ๆ ดังเข้าไปถึงพระนิพพาน ส่งผังไปดีมาดี สวัสดีมีชัย มาเต็มตัวเรา...”