เรื่องจากปก
เรื่อง : ร.ลิ่วเฉลิมวงศ์
ลอยกระทงอย่างไร...
ให้สิ่งที่อธิษฐานสมปรารถนา ?
ในยุคสมัยนี้ หลายคนคิดว่า การลอยกระทงเป็นประเพณีที่จัดขึ้นเพื่อความบันเทิงหรือเป็นงานรื่นเริงประจำปีแค่นั้น แต่แท้จริงแล้ว...การลอยกระทงมีตำนานความเชื่อมากมาย ซึ่งถ้านับเฉพาะความเชื่อในทางพระพุทธศาสนา การลอยกระทงนั้น ก็เป็นไปเพื่อการบูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้าหรือบูชาพระรัตนตรัยเท่านั้น เพราะชาวพุทธเชื่อว่า การลอยกระทงเกิดขึ้นจาก การลอยเพื่อต้อนรับพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในครั้งที่พระพุทธองค์เสด็จกลับจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ หลังเสร็จจากการจำพรรษาโปรดพระพุทธมารดา ซึ่งขณะที่พระองค์เสด็จลงมา ทั้งเหล่าทวยเทพเทวดาและมนุษย์ทั้งหลายได้ทำการสักการบูชาพระพุทธองค์ด้วยทิพยบุปผา มาลัย ลอยกระทงดอกไม้ เพื่อน้อมบูชาด้วยจิตเลื่อมใส
นอกเหนือจากนี้ ยังพบข้อมูลอีกว่า การลอยกระทงได้เกิดขึ้นอีกในครั้งที่พระพุทธองค์เสด็จไปยังฝั่งแม่น้ำนัมมทา เพื่อลงไปเทศน์โปรด พญานาคนัมมทา และเหล่าบริวารยังนาคพิภพ ซึ่งก่อนพระพุทธองค์จะเสด็จกลับ พญานาคทูลอ้อนวอนให้พระพุทธองค์ประทานสิ่งที่เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจไว้ให้
ด้วยเหตุนี้ ทำให้พระพุทธองค์ทรงอธิษฐานจิตแล้วประทับรอยพระบาทไว้ ณ ริมฝั่งแม่น้ำนัมมทา ให้ตั้งอยู่นานตลอดหนึ่งกัป
นับจากนั้น ทั้งเหล่านาค ครุฑ และมหาชนทั้งหลาย เมื่อเห็นรอยพระพุทธบาทที่ลุ่มน้ำนัมมทา ต่างเกิดจิตเลื่อมใส พากันมาสักการบูชาด้วยประทีปบ้าง ด้วยมาลัยดอกไม้บ้าง ด้วยการลอยกระทงดอกไม้บ้าง
ที่สำคัญ ยังพบข้อมูลอีกว่า การลอยกระทงยังเป็นการลอยเพื่อบูชาสักการะพระมหาจุฬามณีบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์อีกด้วย
แต่ที่น่าสนใจมากไปกว่านั้น ได้พบข้อมูลเพิ่มว่า การลอยกระทงยังใช้ในการสักการบูชาพระสงฆ์ได้อีกด้วย เพราะในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช ได้มีการลอยกระทงบูชาพระอุปคุต พระอรหันต์ผู้จำพรรษาอยู่ในสะดือทะเล
ฉะนั้น ในวันลอยกระทงที่จะถึงนี้ ซึ่งปีนี้ตรงกับ วันจันทร์ที่ ๑๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๒ในฐานะที่เราเป็นพุทธศาสนิกชน ก็ควรชำระกาย วาจา ใจ ให้สะอาดบริสุทธิ์ โดยนึกถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้า นึกถึงคุณของพระรัตนตรัย แล้วมาลอยกระทงเพื่อบูชาพระพุทธองค์ด้วยจิตที่เลื่อมใสกัน
๕ เคล็ดลับการลอยกระทงให้สิ่งที่อธิษฐานสมปรารถนา
๑) ตื่นเช้าขึ้นมาให้อาราธนาศีล ๕ หรือศีล ๘ และรักษาศีล เพื่อให้เราเป็นผู้มีความบริสุทธิ์ในการรองรับบุญใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้น
๒) เตรียมกระทงสวย ๆ ซึ่งจะซื้อหรือทำเองก็ได้ แต่ถ้าทำเอง ก็ต้องทำด้วยความละเอียดประณีต ทำด้วยจิตเลื่อมใส มีปีติ เบิกบาน ทำด้วยความตั้งใจที่จะน้อมนำกระทงนี้บูชาพระรัตนตรัยซึ่งเป็นที่พึ่งที่ระลึกอันสูงสุด
๓) ก่อนจะลอยให้เราทำใจใส ๆ วางใจเบา ๆ ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ จุดธูปเทียนในกระทง แล้วยกกระทงขึ้นจบ น้อมระลึกนึกถึงคุณอันไม่มีประมาณขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ และน้อมนึกถึงคุณของพระสงฆ์ที่เราเคารพศรัทธา เช่น พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) จากนั้นก็น้อมนึกบูชาท่านด้วยกระทงนี้ แล้วลอยกระทงลงในน้ำ
๔) จากนั้นก็ให้เราตั้งจิตอธิษฐานในสิ่งที่เราปรารถนา เช่น ด้วยบุญจากการบูชาสักการะในครั้งนี้ ข้าพเจ้าขอตั้งจิตอธิษฐานว่า ให้หมดกิเลสอาสวะได้โดยง่ายมีดวงตาเห็นธรรม ให้แข็งแรง ร่ำรวย มีชีวิตที่เจริญรุ่งเรือง และสมปรารถนาในสิ่งที่ตั้งใจไว้ชอบแล้วในทุกประการเทอญ ฯลฯ
๕) ก่อนนอนคืนนั้น ให้เราตามตรึกระลึกนึกถึงบุญที่ได้ลอยกระทงบูชาพระรัตนตรัยและอุทิศส่วนกุศล แผ่เมตตาให้แก่บรรพบุรุษ บุพการี ญาติผู้ล่วงลับไปแล้ว ฯลฯ
หากเราได้ทำตาม ๕ ขั้นตอนนี้ ก็เท่ากับเราได้เตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อมในเรื่องของการทำบุญครบทั้ง ๓ วาระ คือ ก่อนทำ ขณะทำ และหลังทำ ซึ่งถ้าทำได้อย่างนี้บุญของเราจะไม่ตกไม่หล่น เกิดอานิสงส์แห่งการบูชาด้วยจิตเลื่อมใสอย่างเต็มที่ และจะดลบันดาลให้คำอธิษฐานของเราสำเร็จเป็นอัศจรรย์ได้โดยง่ายโดยเร็วพลันนั่นเอง...