เรียบเรียงจากพระธรรมเทศนา พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (หลวงพ่อธัมมชโย)
การบวช นอกจากจะเป็นทางมาแห่งบุญและเป็นการสืบทอดอายุพระศาสนาแล้ว ยังเป็นกำลังใจ ให้กับพุทธบุตร ผู้ที่ตั้งใจบวชอุทิศชีวิต ให้กับพระพุทธศาสนาอีกด้วย ถ้าหากว่ามีการบวชกันทุกๆ วัด หลวงปู่ หลวงตา หลวงพ่อ หลวงลุง หลวงน้าทั้งหลาย ท่านก็จะหลับตาลาโลกอย่างสบายใจ เพราะว่ามีผู้ที่จะรับภารกิจ อันยิ่งใหญ่สืบทอดคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ให้เป็นประโยชน์ต่อตนเอง และต่อมวลมนุษยชาติแล้ว
เพราะฉะนั้น การบวชจึงเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง นอกจากจะเป็นส่วนหนึ่งในการให้กำลังใจแก่ พุทธบุตร ผู้ที่ตั้งใจบวชอุทิศชีวิตแล้ว ก็จะเป็นแรงบันดาลใจให้แก่พุทธบุตรวัดต่างๆ ทั่วสังฆมณฑล ซึ่งตอนนี้เริ่มเกิด ความรู้สึกที่ดี ที่มีเป้าหมาย เบี่ยงเบนก็เริ่มหันหัวกลับมาสู่ทิศทางที่ถูกต้อง คือบวชอย่างมีเป้าหมาย ตามแบบอย่าง พระสัมมาสัมพุทธเจ้า และพระอริยสาวกทั้งหลาย คือบวชเพื่อทำพระนิพพานให้แจ้ง อย่างน้อยก็แสวงบุญและสร้างบารมี บำเพ็ญเนกขัมมบารมี และบารมีอย่างอื่นๆ ให้ครบถ้วนบริบูรณ์ วัดที่ค่อยๆ ทยอยกันร้าง ก็จะค่อยๆ ทยอยกันรุ่ง และอีกหน่อยทุกๆ วัด ก็จะเต็มไปด้วยพุทธบุตรที่บวชอย่างมีเป้าหมาย ศาสนทายาทก็จะค่อยๆ ทยอยๆ มาบวช
จริงๆ แล้ว วัดร้างในปัจจุบันนี้ ไม่ควรจะปล่อยให้ร้าง มีบุคคลหลายประเภทที่สามารถมาบวชได้ เช่น นักศึกษาที่เพิ่งจบการศึกษา เป็นบัณฑิตใหม่แต่รองานปีหนึ่งเป็นแสนๆ คน สมมติหญิงครึ่งหนึ่ง ชายครึ่งหนึ่ง ก็แปลว่า รองาน ๕ หมื่นคนจากที่เป็นผู้ชายที่พร้อมบวชได้ เรามาเอาบุญก่อน เพราะเป็นโอกาสว่าง และไม่ต้องบวชยาว บวชแค่มีศรัทธา แต่อย่างน้อย ๑ เดือน และบวชกี่ครั้งก็ได้
เรายังอยู่ในวัยหนุ่ม ซึ่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเรียกว่า ทหรํ หรือภาษาที่เรียกง่ายๆ ว่าทหาร หมายถึง คนหนุ่ม เอาคนหนุ่มมาบวชเพื่อมาทำพระนิพพานให้แจ้ง เป็นการสืบทอดอายุพระศาสนา แล้วถ้าบวชช่วงสั้นๆ แค่เดือนเดียวอย่างนี้ จะทำให้เกิดความตั้งใจที่จะบวชอย่างสมบูรณ์
เพราะบัณฑิตไม่ใช่เพียงผู้มีปริญญาบัตร แต่ควรจะมีศีล สมาธิ ปัญญาด้วย ซึ่งจะหาได้จากการมาเป็นพุทธบุตร ศีล สมาธิ ปัญญา จึงจะสมบูรณ์ มาฝึกตัวของเราก่อน โดยมาศึกษา คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หรืออย่างน้อยได้มาปฏิบัติธรรม ให้ได้เห็นคุณค่าของพระศาสนา ในระดับหนึ่งก่อน แล้วก็เป็นการเตรียมตัว เตรียมใจสำหรับที่จะไปปฏิบัติภารกิจในทางโลก
และก่อนลาสิกขานึกอธิษฐานจิตว่า ข้าพเจ้ามีความจำเป็นจะต้องลาสิกขาไปทางโลก ก็ขอให้บุญที่ได้ตั้งใจบวชอย่างบริสุทธิ์บริบูรณ์ตลอดระยะเวลา ๑ เดือนนี้ ทำให้วัดที่เคยร้างกลับเป็นวัดรุ่ง ขอบุญนี้ดลบันดาลให้ข้าพเจ้าเมื่อไปทำมาหากิน ให้มีช่องทางที่ดีที่นำมาซึ่งความรุ่งเรืองต่อไปในอนาคต
และถ้าหากมีโอกาสเมื่อไร อิ่มตัวจากชีวิตทางโลก หรือเออลี่รีไทร์ เราจะกลับมาบวชใหม่ มารักษา พระศาสนาแล้ว ก็มาศึกษาธรรมะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างเต็มที่ เพราะเราได้ผ่าน ประสบการณ์ทางโลกมาแล้ว อิ่มตัวแล้ว หายสงสัยแล้ว เห็นว่าทางโลกก็อย่างนั้นๆ ถ้าบวชคราวนี้เราจะได้รุดหน้า ไม่ถอย หลังกลับเลย อย่างนี้วัดก็ไม่ร้างแล้ว
ปีหนึ่งมีบัณฑิตรองานจำนวนหนึ่งบวกกับตกค้างจากปีที่แล้วอีก ก็แสดงว่าเรามี ทหรํ หรือคนหนุ่มที่พร้อมจะเป็นพุทธบุตรจำนวนมาก เราก็ทยอยบวชกันสิ ชุดแรกที่จะไม่ทำให้วัดร้าง บวชกันให้เต็มก่อน สมมุติวัดร้างมีจำนวนพันวัด ชุดแรกหนึ่งเดือน บวชให้เต็มก่อนพันวัด บวช วัดละ ๑๐๒๐ รูป ก็พอ เดือนถัดไปอีกชุดหนึ่ง มาบวช ๑๒ ชุดต่อหนึ่งปี วัดจะไม่ว่างเลย ส่วนใครมีกุศลศรัทธาอยากบวชต่อก็ได้ ถือเป็นกำไร บุญนี้ก็จะได้กับตัว ๖๔ กัป ถึงโยมพ่อโยมแม่อีก ๓๒ กัป
วัดถ้าไม่ว่างพุทธบุตรก็แปลว่าเป็นวัดรุ่งไม่ใช่วัดร้าง วัดร้างแปลว่าวัดไม่มีพุทธบุตร ทำแค่นี้ง่ายๆ แล้วหมุนเวียนกันไป ชุดนี้บวชแล้วเป็นคนสุกแล้ว หรืออย่างน้อยสุกๆ ดิบๆ ก็ยังดี ถ้าดิบๆ ก็ไม่ ค่อยไหว นี่เป็นวิธีที่ง่ายและประหยัดที่สุด เป็นทางหนึ่ง ที่จะเป็นทางมาแห่งศาสนทายาท และเป็นอีกทางหนึ่งที่จะทำให้วัดร้างเปลี่ยนมาเป็นวัดรุ่งได้