ธรรมะเพื่อประชาชน พร้อมภาพประกอบ คติธรรม ข้อคิดสอนใจ

ดูก่อนท่านผู้เห็นภัยในวัฏสงสาร ท่านทั้งหลายอย่ากลัวต่อบุญเลย เพราะคำว่าบุญนี้เป็นชื่อของความสุข ดูก่อนท่านผู้เห็นภัยในวัฏสงสาร เราย่อมรู้ชัดผลแห่งบุญอันน่าปรารถนา น่าใคร่ น่าพอใจ ที่เราเสวยแล้วตลอดกาลนาน

ชาดก : ธรรมะเพื่อประชาชน Dhamma for peopleรวมนิทานอีสปพร้อมภาพประกอบ  ข้อคิดสอนใจ

ธรรมะเพื่อประชาชน : บุญใหญ่ถวายไทยธรรม


ธรรมะเพื่อประชาชน : บุญใหญ่ถวายไทยธรรม

Dhammaforpeople
ธรรมะเพื่อประชาชน
 

 

DhammaPP146_01.jpg

บุญใหญ่ถวายไทยธรรม        

                  มีวาระพระบาลีบทหนึ่ง ที่ท่านกล่าวไว้ในปิลินทวัจฉะเถระปทานนะว่า เราได้ถวายที่นอนในพระสุคตเจ้าและในคณะสงฆ์ผู้ประเสริฐสุดแล้ว ย่อมได้เสวยอานิสงส์ ๖ ประการอันสมควรแก่กรรมของเรา คือเรามีร่างกายที่สมส่วนอันบุญกรรมทำแต่ง เป็นผู้อ่อนโยนมีรูปงาม น่าดู เราย่อมได้ญาณอันประเสริฐ นี้ก็เป็นผลแห่งการถวายที่นอน เราย่อมได้ผ้านวม ผ้าลาดลายรูปสัตว์ ผ้าลาดทอด้วยไหม ผ้าลาดอันวิจิตร ผ้าลาดอย่างดีและผ้ากัมพลต่างๆ เป็นอันมาก ย่อมได้ผ้าปาวารก์มีขนอ่อนนุ่ม ผ้าทำด้วยขนสัตว์อ่อนนุ่มในที่ต่างๆ นี่ก็เป็นผลแห่งการถวายที่นอน


                      เมื่อใดเราเป็นผู้รำลึกถึงตน เมื่อนั้นเราเป็นผู้ไม่เปล่า มีฌาณเป็นที่อาศัย นี่ก็เป็นผลแห่งการถวายที่นอน การทำบุญทุกอย่าง จะอำนวยผลที่ดีแก่เราเสมอต่างกันแต่ว่า จะส่งผลช้าหรือเร็วทำถูกเนื้อนาบุญหรือเปล่า ถ้าก่อนให้มีจิตเลื่อมใส ให้แล้วก็มีความเบิกบาน หลังให้ก็หมั่นตามระลึกถึงบุญนั้นบ่อยๆ ไม่รู้สึกเสียดายในวัตถุทานที่ได้ถวายตัดขาดออกจากใจไปแล้ว ใจเกลี้ยงเกลาปลอดจากความตระหนี่ วัตถุทานที่ถวายก็บริสุทธิ์ เจตนาที่จะถวายก็บริสุทธิ์ เมื่อความบริสุทธิ์เหล่านั้นมาประมวลรวมกันกับปฏิคาหก คือผู้รับซึ่งเป็นผู้บริสุทธิ์เป็นเนื้อนาบุญอันเยี่ยมทานที่ได้ถวายไป แม้เพียงเล็กน้อยก็ย่อมมีอานิสงส์ยิ่งใหญ่จะนับจะประมาณมิได้ 

 

                  เหมือนพระปิลินทวัจฉเถระ ผู้ถวายทานถูกเนื้อนาบุญ ได้ทำบุญกับพระภิกษุสงฆ์มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุข ทำให้ท่านได้รับอานิสงส์ใหญ่ที่ไม่มีใครเหมือน พระอรหันตเถระรูปนี้ ท่านเคยสั่งสมบุญเอาไว้ในยุคสมัยที่มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จอุบัติขึ้นมาในโลกหลายพระองค์ด้วยกัน 

 

                   อย่างในยุคของพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่า ปทุมุตระ ท่านได้เกิดในตระกูลของนายประตูเมืองในหงสวดีนคร ท่านมีทรัพย์สมบัติมาก เมื่อพิจารณาดูสมบัติเหล่านั้นก็สอนตัวเองว่า จะต้องนำออกด้วยการให้ทานแด่ภิกษุสงฆ์มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุข ทรัพย์เหล่านี้ก็จะได้เอาติดตัวไปได้ทุกภพทุกชาติ ท่านได้เห็นพระราชาในหงสวดีนคร ทรงถวายทานอันประเสริฐคือช้าง พร้อมด้วยบัลลังก์และพนักพิงแด่พระพุทธเจ้า

 

                      ตัวท่านเอง จึงอยากจะทำบุญที่ไม่เคยมีใครน่ะทำมาก่อน ท่านคิดที่จะถวายทานอยู่หลายวิธี ในที่สุดก็มาตัดสินใจที่จะถวายไทยธรรมชนิดต่างๆ แก่ภิกษุสงฆ์ ๑ แสนรูปจึงไปว่าจ้างให้ทำฉัตร ๑ แสนคัน ถวายผ้าหนึ่งแสนผืน ให้ทำบาตร ๑ แสนใบ จ้างช่างให้ทำมีดโกน พล้า เข็ม มีดสำหรับตัดเล็บ ให้ทำพัดใบตาล พัดขนปีกนกยูง และไทยธรรมชนิดอื่นๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นไม้สีไฟ ฝาบาตร สลกบาตร กระบวยตักน้ำ ผงย้อมผ้าและรางย้อมผ้า เมื่อรวบรวมไทยธรรมทุกชนิดแล้วก็กราบทูลขออนุญาตพระราชาว่า จะถวายไทยธรรมแด่พระสงฆ์ ๑ แสนรูป ท่านก็ได้รับอนุญาตให้ทำทานได้ ๗ วันเท่านั้นนะจ๊ะ 

 

                 อย่างไรก็ตามตลอดทั้ง ๗ วันนั้น ท่านได้ถวายทานด้วยมือของท่านเอง ทอดสายตาเห็นภิกษุสงฆ์จำนวนแสนรูป นุ่งห่มจีวรสีเหลืองอร่าม เห็นการลุกการนั่งของท่านเรียบร้อยสงบสำรวม โดยเฉพาะมีพระพุทธเจ้าทรงประทับนั่งเป็นประธานในท่ามกลางสงฆ์ ทำให้บังเกิดความปลื้มปีติในมหาทานที่ได้ทำไป รู้ว่าตัวเองได้ทำบุญถูกเนื้อนาบุญ ทรัพย์สมบัติที่ได้หมดไป เพราะถวายทานนั้นไม่ได้สูญไปเปล่า แต่จะเป็นเครื่องสนับสนุนในการประพฤติปฏิบัติธรรมของภิกษุสงฆ์ให้ยิ่งๆ ขึ้นไป ความรู้สึกเสียดายจึงไม่เกิดขึ้นในใจของท่านเลย กระแสบุญก็หลั่งไหลมาสู่ศูนย์กลางกายอยู่ตลอดเวลา หลังจากได้ถวายบาตรโลหะแทนบาตรดิน หรือบาตรที่ภิกษุสงฆ์แสวงหากันมาเองแล้ว 

 

            พระบรมศาสดาทรงเห็นบุญ ที่จะบังเกิดขึ้นในอนาคต แก่บุคคลผู้ใจบุญท่านนี้ จึงทรงพยากรณ์ไว้ว่า มานพผู้ใดได้ถวายทานอันประเสริฐไม่พร่องแก่เรา เราจะพยากรณ์แก่มานพนั้น ท่านทั้งหลายจงฟังเรากล่าว จตุรงคเสนาคือพลช้าง พลม้า พลรถและคนเดินเท้าจะแวดล้อมมานพนั้นเป็นนิจ รถ ๖๐,๐๐๐ คันประดับด้วยเครื่องอลังการทุกอย่าง จะแวดล้อมมานพนั้นเป็นประจำ นารี ๘๖,๐๐๐ นางประดับประดาสวยงาม มีผ้าและอาภรณ์อย่างวิจิตร สวมใส่แก้วมณีและกุลธน มีหน้าแฉล่มยิ้มแย้มแจ่มใสจะแวดล้อมมานพเป็นนิจ มานพนั้นจะรื่นรมอยู่ในเทวโลกตลอด ๓๐,๐๐๐ กัป จะได้เป็นเทวดาเสวยราชสมบัติในเทวโลก ๑,๐๐๐ ครั้ง แล้วจักได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ๑,๐๐๐ ครั้ง จะได้เป็นพระเจ้าประเทศราชอันไพบูลย์โดยขนานับมิได้ เมื่อมานพนี้อยู่ในเทวโลก พรั่งพร้อมไปด้วยบุญกรรม เทวดาจะทรงฉัตรแก้วไว้ให้ตลอด มานพนี้ปรารถนาเมื่อใด ฉัตรอันเกิดแต่ผ้าและดอกไม้ ประดุจธรรมเนรมิตจะกั้นอยู่เหนือศีรษะทันที

 

               ในอีกแสนกัปพระบรมศาสดาทรงพระนามว่าโคดม จะเสด็จอุบัติขึ้นในโลก มานพนี้จะได้เป็นพระสาวกของพระบรมศาสดา มีชื่อว่าปิลินทวัจฉะ จะเป็นผู้อันเทวดา อสูร คนธรรพ์ ภิกษุ ภิกษุณีมาเคารพสักการะบูชาเป็นผู้ไม่มีอาสวะ แล้วจะนิพพาน

 

                เมื่อมานพได้รับฟังคำพยากรณ์อันเป็นสิริมงคลเช่นนั้นแล้ว ท่านก็ยิ่งเพิ่มพูนความปีติมากขึ้น เพราะเชื่อว่าพระดำรัสของพระพุทธเจ้านั้นไม่เคยเป็นสอง ทุกถ้อยคำที่พระองค์ตรัสล้วนเป็นความจริงแท้ จึงหาโอกาสสั่งสมบุญเรื่อยมาไม่เคยขาดเลย ไทยธรรมทุกชนิดที่เป็นของสมควรแก่สมณบริโภค ท่านก็จะไปแสวงหามาถวายจนได้ ตลอดชีวิตของท่านไม่เคยอิ่มในการให้ทานเลย พอละสังขารก็ได้ไปบังเกิดในเทวโลก เสวยทิพยสมบัติมากมายในสวรรค์ทั้ง ๖ ชั้นเป็นเวลายาวนาน ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ พระราชาประเทศราช เป็นมหาเศรษฐีก็นับครั้งไม่ถ้วน

 

                  พอมาในยุคสมัยนี้น่ะ ท่านได้บังเกิดในตระกูลพราหมณ์ได้ชื่อว่าปิลินทวัจฉะ มีสมบัติมากมายก่ายกองทีเดียว เมื่อเติบโตขึ้นก็ตั้งใจร่ำเรียน สติปัญญาของท่านก็เป็นเลิศ สามารถเรียนจนจบศิลปศาสตร์ทุกสาขา วันหนึ่งท่านได้ฟังพระธรรมเทศนา ในสำนักของพระบรมศาสดา เกิดกุศลศรัทธาจึงออกบวชตามพระพุทธองค์ บวชได้ไม่นานก็ได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ พุทธพยากรณ์ที่ท่านได้รับมาในครั้งนั้น ได้กลายเป็นจริงทุกประการ นี่ก็เป็นตัวอย่างของท่านทานบดีผู้ได้ถวายมหาทานบารมีถูกเนื้อนาบุญ ทำให้ท่านได้อานิสงส์ใหญ่ มีบุญพิเศษติดตัวข้ามภพข้ามชาติ ส่งผลต่อๆ กันมาถึงพบชาติสุดท้ายคือ ทำให้ได้เข้าถึงเอกันตบรมสุขในอายตนะนิพพาน นั่นก็เป็นเพราะท่านได้โอกาสดีๆ คือได้พบเนื้อนาบุญ ไทยธรรมก็พร้อม ศรัทธาก็มีอย่างเต็มเปี่ยม การที่ท่านไม่ยอมให้โอกาสดีๆ นี้น่ะผ่านเลยไป ผลที่บังเกิดขึ้นจึงเป็นอย่างที่หลวงพ่อได้กล่าวมาแล้วนะจ๊ะ

พระธรรมเทศนา โดย หลวงพ่อธัมมชโย

 

 
 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล