Dhammaforpeople
ธรรมะเพื่อประชาชน
บุญทุกบุญมีอานิสงส์
(พระปิลินทวัจฉะ ๒)
ทุกความสำเร็จของชีวิตล้วนต้องแลกมาด้วยความเพียรพยายาม หากเราปรารถนาความสุขและความสำเร็จในชีวิตมากเพียงใด เราก็ต้องใช้ความเพียรพยายาม และสั่งสมบุญบารมีให้มากขึ้นเพียงนั้น แม้ว่าบนเส้นทางการสร้างบารมีจะมีอุปสรรคมากมาย แต่ถ้าเรามีความเพียรและขันติแล้ว จะสามารถฝ่าฟันอุปสรรคนั้นต่อไปได้ ฉะนั้น เราต้องหมั่นฝึกฝนอบรมตนเองให้มีใจมุ่งมั่น และจดจ่ออยู่ที่ความสำเร็จ มีความเข้มแข็งและอดทน เพื่อเป้าหมายอันสูงสุดของชีวิตคือ การได้บรรลุมรรคผลนิพพาน
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ใน ปิยสูตร ว่า
“หมู่สัตว์ที่เกิดมาแล้วจำจะต้องตายในโลกนี้ หากได้ทำกรรมอันใดไว้คือบุญและบาป บุญและบาปทั้งสองประการนั้นแลเป็นสมบัติของเขา และเขาจะพาเอาบุญและบาปนั้นไป อนึ่ง บุญและบาปย่อมเป็นของติดตามเขาไป ประดุจเงาติดตามตนไป เพราะฉะนั้น บุคคลพึงทำกัลยาณกรรมสะสมไว้เป็นสมบัติในปรโลก ด้วยว่า บุญทั้งหลายย่อมเป็นที่พึ่งของสัตว์ทั้งหลายในปรโลก”
ทุกสรรพชีวิตที่เกิดมาในโลกนี้ สักวันหนึ่งย่อมต้องก้าวล่วงสู่จุดสุดท้ายแห่งชีวิตคือความตายด้วยกันหมดทั้งสิ้น ความตายไม่ใช่เรื่องสำคัญ ความสำคัญอยู่ที่ว่า ก่อนตายเราควรจะทำชีวิตให้เป็นประโยชน์แก่ตัวเองและชาวโลกได้อย่างไร นักปราชญ์บัณฑิตทั้งหลายท่านได้พิจารณาเห็นคุณค่าของชีวิต จึงพากเพียรพยายามสั่งสมแต่กัลยาณธรรม สร้างคุณงามความดีไว้ให้ได้มากที่สุด เพื่อยังประโยชน์สุขในปัจจุบันและในภพเบื้องหน้าให้เกิดขึ้นแก่ตนเอง เพราะท่านรู้ว่าบุญเท่านั้นเป็นที่พึ่งของชีวิตในปรโลก จะสุขหรือทุกข์ก็ขึ้นอยู่กับบุญในตัว
บุญกุศลที่เราได้ทำไว้จะเป็นเสมือน เงาติดตามตัวเราไปทุกหนทุกแห่ง และความดีที่เราได้ทำก็ยังเป็นแบบอย่างอันดีงามให้อนุชนรุ่นหลังได้ประพฤติปฏิบัติตามอีกด้วย เหมือนดังเรื่องของพระปิลินทวัจฉเถระ ผู้ได้ถวายไทยธรรมแด่ภิกษุสงฆ์แสนรูปมีพระพุทธเจ้าเป็นประมุข ตลอดชีวิตของท่านนั้นเป็นชีวิตที่งดงามด้วยบุญกุศลล้วนๆ ท่านได้ถวายไทยธรรมเป็นจำนวนมากถึง ๑๐๘ ชนิดด้วยกัน ไทยธรรมแต่ละชนิดที่ท่านได้ถวายก็มีอานิสงส์แตกต่างกันออกไป เป็นเรื่องที่น่าทึ่ง หลวงพ่อจึงขอนำอานิสงส์ที่ท่านได้ถวายไทยธรรมชนิดต่างๆ มาเล่าไว้ เพื่อเป็นกำลังใจแก่นักสร้างบารมีทุกๆ ท่าน ณ ที่นี้
* พระปิลินทวัจฉเถระเป็นหนึ่งในอสีติมหาสาวกที่ได้รับตำแหน่งเอตทัคคะ คือเป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลายผู้เป็นที่รักของเทวดา ก่อนบวชท่านเป็นลูกของพราหมณ์มหาศาล แต่เนื่องจากท่านเห็นภัยในสังสารวัฏ จึงออกบวชเป็นปริพาชก จนเรียนสำเร็จวิชชาจูฬคันธาระ สามารถเหาะเหินเดินอากาศได้ แล้วยังสามารถรู้วาระจิตของผู้อื่น ท่านเป็นผู้ถึงพร้อมด้วยลาภ ยศ และสักการะอันเลิศ อาศัยอยู่ในกรุงราชคฤห์
เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว ได้เสด็จเข้าไปในกรุงราชคฤห์ พระพุทธองค์ปรารถนาจะอนุเคราะห์ปริพาชกท่านนี้ จึงบันดาลให้วิชาของปิลินทวัจฉะเสื่อมไป ไม่สามารถเหาะได้ ปิลินทวัจฉปริพาชกจึงฉุกคิดขึ้นว่า มนต์จูฬคันธาระที่เราใช้ได้แคล่วคล่องนี้เสื่อมไปตั้งแต่พระสมณโคดมเสด็จมา พระองค์จะต้องมีมนต์มหาคันธาระที่ยิ่งกว่า หรือเป็นเจ้าของวิชชานี้อย่างแน่นอน เมื่อคิดอย่างนี้แล้วท่านก็เดินเข้าไปกราบเพื่อขอเรียนมหาคันธารวิชาให้ยิ่งๆ ขึ้นไป
พระบรมศาสดาตรัสว่า ถ้าจะเรียนมนต์นี้ต้องบวชเสียก่อน ท่านก็ไม่ลังเลเลยเพราะอยากได้วิชชาจึงได้ตัดสินใจบวชเป็นพระภิกษุทันที เมื่อได้ฟังคำสอนของพระพุทธองค์ ความรู้ก็ลึกซึ้งเข้าไปเรื่อยๆ เพียงไม่กี่วันก็ได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ เป็นผู้ที่มีเดชมีอานุภาพมาก เทวดาที่เคยเสวยสมบัติร่วมกับท่านมาหลายชาติ เมื่อรู้ว่าท่านได้เป็นพระอรหันต์แล้ว จึงเข้ามาหาท่านทั้งเช้าและเย็น เพราะฉะนั้นท่านจึงได้รับตำแหน่งภิกษุผู้เลิศทางด้านเป็นที่รักของเทวดา
ท่านได้ระลึกชาติไปดูเส้นทางบุญของท่านที่ผ่านมาว่าได้ทำกุศลกรรมอะไรไว้บ้าง ก็พบว่าได้สร้างบารมีกับพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาหลายพระองค์ โดยเฉพาะในยุคสมัยของพระปทุมุตตรสัมมาสัมพุทธเจ้า
ท่านได้ถวายขันตักนํ้าแด่ภิกษุสงฆ์จำนวนแสนรูป อานิสงส์นั้นทำให้ท่านได้ขันทองคำ ขันแก้วมณี ขันแก้วผลึก ขันแก้วทับทิม ขันมีรูปใบบัว และขันที่ทำด้วยสังข์ที่สามารถทำนํ้าจืดให้หวานได้ ภพชาตินี้บุญยังส่งผลให้ท่านเป็นผู้มีจริยาวัตรที่งดงาม นำมาซึ่งความเลื่อมใสแก่ผู้ได้พบเห็น
อานิสงส์การถวายเภสัช ทำให้ท่านได้อานิสงส์ถึง ๑๐ ประการคือ ทำให้เป็นผู้มีอายุยืน มีพละกำลังมาก มีปัญญามาก มีวรรณะผ่องใส มียศ มีความสุข ไม่มีอันตราย ไม่มีอัปมงคลใดๆ มากลํ้ากราย มหาชนต่างให้ความเคารพยำเกรง ท่านไม่เคยพลัดพรากจากของอันเป็นที่รัก จึงเป็นผู้ได้รับความสุขมาตลอดทุกภพทุกชาติ
และการที่พระเถระได้ถวายรองเท้าหนึ่งแสนคู่ ทำให้ท่านได้วอทอง ได้ยานช้าง ยานม้า รถหกหมื่นคันแวดล้อมท่านตลอดเวลา เมื่อท่านท่องเที่ยวอยู่ในสวรรค์ รองเท้าแก้วมณี รองเท้าทองคำ รองเท้าเงินย่อมเกิดขึ้นในขณะที่ยกเท้าขึ้น อานิสงส์ที่ท่านถวายผ้าเช็ดหน้าหนึ่งแสนผืนทำให้ได้เสวยอานิสงส์ ๕ อย่างคือ เป็นผู้มีผิวพรรณเปล่งปลั่งดุจทองคำ ปราศจากธุลี มีรัศมีผ่องใส มีฤทธิ์มีเดช เนื้อตัวของท่านละเอียดอ่อน ฝุ่นละอองไม่ติดที่ผิวกายของท่าน และท่านยังได้ถวายไม้เท้าแก่พระเถระผู้มากพรรษากาล อานิสงส์นั้นทำให้ท่านเป็นผู้มีบุตรมาก ไม่มีความสะดุ้งหวาดกลัว ใครๆ ก็ข่มเหงไม่ได้ ท่านทำอะไรไม่เคยพลั้งพลาด ทำให้ไม่พลัดไปเกิดในอบายภูมิเลย
อานิสงส์ของการถวายยาหยอดตา ทำให้เป็นผู้มีนัยน์ตาสวยงาม นัยน์ตาไม่พร่ามัว มีนัยน์ตาแจ่มใส ท่านไม่เคยเป็นโรคเกี่ยวกับดวงตาเลย และยังทำให้ได้ตาทิพย์ ได้ปัญญาจักษุ คือ รู้แจ้งแทงตลอดในศาสตร์ทั้งปวง พอออกบวชก็มีดวงตาเห็นธรรม เป็นพระอรหันต์ผู้หลุดพ้นจากอาสวกิเลส และการที่ท่านได้ถวายลูกกุญแจและแม่กุญแจ ทำให้ได้ญาณอันเป็นเครื่องรู้ในธรรมทั้งหลาย เป็นผู้ไม่มีความคับแค้นใจ มีแต่ความปลอดโปร่งใจ
อานิสงส์การถวายยานัตถุ์ ทำให้ท่านมีความศรัทธาในพระศาสนาไม่คลอนแคลน มีศีลบริสุทธิ์ มีหิริโอตตัปปะ ถึงพร้อมด้วยสุตะ จาคะ ขันติ และปัญญา ความเป็นผู้มีศีล และมีปัญญาในการประคับประคองตนเองนี้ ทำให้ท่านมีแต่สุคติภูมิ เสวยสุขในสุคติโลกสวรรค์ และลงมาสร้างบารมีบนโลกมนุษย์อย่างมีความสุขสะดวกสบาย นอกจากนี้ ท่านยังได้ถวายตั่ง พอมาเกิดทำให้บังเกิดในสกุลสูง เป็นผู้มีโภคทรัพย์สมบัติมาก มีชื่อเสียงโด่งดัง เมื่อเป็นเทวดาในสวรรค์ บัลลังก์อันวิจิตรก็เกิดกับท่านเป็นเวลาถึงแสนกัป
อานิสงส์ที่ท่านได้ถวายนํ้ามันทาเท้า ไม่ว่าจะเกิดกี่ภพกี่ชาติ ท่านไม่เคยเจ็บป่วยเลย เป็นผู้มีรูปร่างงดงามแข็งแรง มีประสาทรับรสได้เร็ว และก็เป็นผู้มีอายุยืน ไม่เคยตายก่อนอายุขัย และอานิสงส์จากการถวายนํ้าบ้วนปาก ยังทำให้ท่านได้อานิสงส์ใหญ่ถึง ๕ ประการ คือ ทำให้ท่านเป็นผู้มีลำคอกลมกลึง มีเสียงไพเราะ ไม่มีโรคเกี่ยวกับปากและลำคอ และยังมีกลิ่นดอกอุบลหอมฟุ้งออกจากปากของท่านตลอดเวลา
เราจะเห็นว่า ทุกบุญมีอานิสงส์ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นบุญเล็กบุญน้อย ถ้าทำถูกเนื้อนาบุญแล้ว ย่อมมีอานิสงส์ยิ่งใหญ่ไพศาล ในขณะยังมีพระสงฆ์ซึ่งเป็นเนื้อนาบุญอันเลิศให้แก่เรา ก็ให้รีบชิงช่วงสร้างบารมีก่อนที่จะถูกช่วงชิงไป เรามีเวลาอยู่ในโลกนี้ไม่นานก็ต้องจากโลกนี้ไปแล้ว ก่อนที่ความตายจะเข้ามาเยือน ให้รีบสั่งสมบุญไว้ให้มากๆ เพราะการชิงช่วงกับช่วงชิงนี่มันเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลาทุกอนุวินาที ทรัพย์ที่เรามีอยู่ นอกจากมีไว้สำหรับหล่อเลี้ยงสังขารร่างกายแล้ว ก็มีไว้สำหรับสั่งสมบุญบารมี นำออกให้เป็นประโยชน์แก่ตนและชาวโลก ทรัพย์นั้นจะได้เป็นอริยทรัพย์ติดตามตัวเราไปข้ามชาติ เป็นเสบียงสำหรับสร้างบารมีให้เต็มเปี่ยมครบถ้วนบริบูรณ์ จะได้ไปถึงจุดหมายปลายทางสะดวกสบาย
ฉะนั้นอย่าประมาท เพราะเวลาในโลกนี้มันเหลือน้อยเต็มที่ เดี๋ยววันเดี๋ยวคืนเดี๋ยวก็หมดเวลาแล้ว ให้หมั่นสั่งสมบุญทุกๆ วัน โดยเฉพาะบุญที่เกิดจากการเจริญสมาธิภาวนา ให้ขยันนั่งธรรมะให้ได้ทุกๆ วัน ใจของเราจะได้เป็นบ่อเกิดแห่งบุญบารมี ใจใสสะอาดบริสุทธิ์ จะได้เข้าถึงความสุขภายใน เข้าถึงพระธรรมกายภายในกันทุกๆ คน
พระธรรมเทศนา โดย หลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่)
* มก. เล่ม ๗๑ หน้า ๒ ๘ , ๘๙๕