วัดพระธรรมกายชอบชวนคนทําบุญ แล้วมีของที่ระลึกมาล่อ
ถือเป็น “การทํามาร์เก็ตติ้ง” หรือ “พุทธพาณิชย์” หรือไม่ ?
เรื่องนี้...ถือเป็นประเด็นที่น่าสนใจมาก ๆ แต่ก่อนจะตอบ จะขอยกตัวอย่างเรื่องในอดีตชาติของโชติกเศรษฐีที่ท่านคิดกุศโลบายวางแผนเพื่อดึงดูดคนให้เข้าวัดมาฟังธรรมกับพระพุทธเจ้าให้มากที่สุด โดยการเอารัตนชาติไปโปรยบนพื้นรอบพระคันธกุฎีสูงถึงเข่า เพื่อให้คนที่มาฟังธรรมหยิบเอารัตนชาติใส่มือกลับบ้านไปได้ ด้วยเหตุนี้ จึงมีมหาชนแห่เข้าวัดจํานวนมากมายมหาศาล ซึ่งถ้าในยุคนี้...มีคนทําเหมือนท่านเศรษฐีในกาลก่อน ก็คงโดนโจมตีว่า “ทํามาร์เก็ตติ้ง จ้างคนเข้าวัด ไปแล้ว” !!!
และถ้าการกระทําเช่นนี้ผิดจริง ๆ พระวิปัสสีสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ต้องกล่าวตักเตือนไปแล้ว แต่นี่พระองค์ก็ไม่ได้ตําหนิว่าอะไรท่านเศรษฐีเลยแม้แต่น้อย เพราะท่านเศรษฐีทําด้วยใจบริสุทธิ์ โดยคิดว่า คนที่อยากเข้าวัดมี 2 ประเภท คือ มาเพราะจิตเลื่อมใส กับมาเพราะความโลภอยากได้รัตนชาติ แต่สุดท้ายพอคนประเภทที่ 2 นี้ได้ฟังธรรมจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว ก็จะเปลี่ยนเป็นคนดี และหมดกิเลสบรรลุธรรมตามพระองค์ไปด้วยในที่สุด
จากกุศโลบายอันชาญฉลาดของท่านเศรษฐีนี่เอง ทําให้ท่านโชติกเศรษฐีในชาตินั้นได้บุญและบริวารสมบัติไปเป็นจํานวนมาก และผลบุญนี้ก็ส่งผลทําให้ท่านกลายเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในโลก และบรรลุธรรมในชาติสุดท้าย
จากกรณีศึกษาข้างต้น วัดพระธรรมกายยังไม่เคยทําเช่นนี้เลย แต่สิ่งที่ทํา คือ เพียงแค่มอบองค์พระหรือของที่ระลึกให้กับผู้ที่ทําบุญเท่านัน ซึ่งการมอบก็มีวัตถุประสงค์ไว้ให้นึกถึงบุญ เพราะเมื่อกาลเวลาผ่านเลยไป ความทรงจําของคนเราก็จะลดน้อยถอยลงไปเรื่อย ๆ แต่ถ้ามาเห็นพระของขวัญ ก็จะนึกได้ว่า พระองค์นี้...เราได้มาเพราะทําบุญนี้...ทําบุญนั้น และเมื่อนึกถึงบุญได้ใจก็จะปลื้ม เกิดความสบายอกสบายใจ และเมื่อใจสบาย ไม่เครียด ไม่กังวล ทําอะไรก็จะสําเร็จได้ง่าย ๆ
การมอบพระหรือของที่ระลึกต่าง ๆ นั้น ถือว่าเป็นเรื่องปกติ เพราะวัดอื่น ๆ ก็ทํากัน ถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่เป็นสามัญ หรืออย่างที่เห็นเด่นชัดมากในสมัยหลวงปู่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ท่านก็มอบพระผงรุ่น 1 - 3 ให้กับคนที่มาสร้างโรงเรียนพระปริยัติธรรมเหมือนกัน
แล้วอย่างนี้...จะมาบอกว่าวัดพระธรรมกายทํามาร์เก็ตติ้ง หรือเป็นพุทธพาณิชย์ได้อย่างไร ???
Cr. ร. ลิ่วเฉลิมวงศ์ สำนักสื่อธรรมะ
dhamma-media.blogspot.com