บทสรุปส่งท้าย
วันนี้โลกกำลังร้อนระอุด้วยภัยโรคระบาด ภัยพิบัติธรรมชาติ ภัยสงคราม ภัยเศรษฐกิจ ภัยการเมืองและการทหาร ฯลฯ ทั้งที่โลก ก้าวหน้าด้วยเทคโนโลยีและความรู้วิชาการอย่างมหาศาล
ขณะเดียวกันชาวโลกส่วนมากก็ได้ลืมเลือน ละเลยแนวทาง การพัฒนาตนเองให้มีสัจจะต่อความดี ด้วยการควบคุมโรค ๖ ประจำกาย และรักษาสิ่งแวดล้อม ๕ ซึ่งบรรพบุรุษท่านได้อบรม สั่งสอน ปลูกฝังลูกหลานตามเส้นทางนี้กันมาอย่างต่อเนื่องหลาย ชั่วอายุคน ทั้งที่เป็นเส้นทางที่ถูกต้อง มีความเรียบง่าย เป็นการ ทำตามสัจจะที่ต้องรีบรู้และสัจจะที่ต้องรีบประพฤติ เพื่อให้สังคม มีสุข สิ่งแวดล้อมสะอาดน่าอยู่
เมื่อโลกเดือดร้อนเช่นนี้ เราจะมัวชักช้าอยู่ไย รีบลุกขึ้นมาฝึก ตนเอง บุตรหลาน สมาชิกในครอบครัว และมิตรสหายในสังคมให้มี สัจจะต่อความดี ตามแนวทางการควบคุมโรค ๖ ประจำกาย และ รักษาสิ่งแวดล้อม ๕ กันดีกว่า เพราะบรรพชนผู้รู้และบรรพบุรุษได้ พิสูจน์ยืนยันแล้วว่าถูกต้อง เราจะเสียเวลาลองผิดลองถูก หาทาง แก้ไขโลกด้วยวิธีอื่นกันทำไม
ร่วมจับมือกันให้มั่น เดินหน้าฝึกตนตามแนวทางการฝึกสัจจะ ต่อความดีของท่านกันเถิด ไม่ต้องรอเทพยดาฟ้าดิน อัศวินม้าขาว ที่ไหนมาช่วย สัจจะต่อความดีที่เราเพียรปฏิบัติอย่างไม่ลดละ กันทั้งบ้าน ทั้งเมือง ทั้งประเทศ และทั้งโลกนั่นแหละ คือ ที่พึ่ง ที่จะทำให้เราสามารถรักษาใจให้หยุดนิ่งอยู่กลางกายได้เป็นนิจ ให้ใจเราใสสว่าง ส่องเห็นความจริงทั้งปวงได้ถูกต้อง และร่วมมือ กันประกอบคุณงามความดีที่เห็นเหล่านั้น อย่างกระฉับกระเฉง ไม่ช้าโลกก็จะพลิกจากร้ายกลายเป็นดี ตามสัจจะต่อความดีของเรา ได้อย่างอัศจรรย์
เมื่อโลกเดือดร้อนเช่นนี้ |
เราจะมัวชักช้าอยู่ไย |
รีบลุกมาฝึกตนเอง บุตรหลาน |
สมาชิกในครอบครัว และมิตรสหายในสังคม |
ให้มีสัจจะต่อความดี |
ไว้เป็นที่พึ่งกันเถิด |
สัจจะต่อความดี อานุภาพพลิกโลก
พระเผด็จ ทตฺตชีโว
คณะวิพากษ์ คณะจัดทำต้นฉบับและหนังสือ