คาถาสวดเมื่อดับเทียนชัย
ทุกพระราชพิธี
นัตถิ เม สะระณัง อัญญัง พุพโธ เม สะระณัง วะรัง
เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โหตุ เต ชะยะมังคะลัง.
นัตถิ เม สะระณัง อัญญัง ธัมโม เม สะระณัง วะรัง
เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โหตุ เต ชะยะมังคะลัง.
นัตถิ เม สะระณัง อัญญัง สังโฆ เม สะระณัง วะรัง
เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โหตุ เต ชะยะมังคะลัง.
ยังกิญจิ วิตตัง อิธะ วา หุรัง วา
สัคเคสุ วา ยัง ระตะนัง ปะณีตัง
นะ โน สะมัง อัตถิ ตะถาคะเตนะ
อิทัมปิ พุทเธ ระตะนัง ปะณีตัง
เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ.
ขะยัง วิราคัง อะมะตัง ปะณีตัง
ยะทัชณะคา สัก๎ยะมุนี สะมาหิโต
นะ เตนะ ธัมเมนะ สะมัตถิ กิญจิ
อิทัมปิ ธัมเม ระตะนัง ปะณีตัง
เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ.
ยัมพุทธะเสฏโฐ ปะริวัณณะยี สุจิง
สะมาริมานันตะริกัญญะมาหุ
สะมาธินา เตนะ สะโม นะ วิชชะติ
อิทัมปิ ธัมเม ระตะนัง ปะณีตัง
เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ.
เย ปุคคะลา อัฏฐะ สะตัง ปะสัตถา
จัตตาริ เอตานิ ยุคานิ โหนติ
เต ทักขิเณยยา สุคะตัสสะ สาวะกา
เอเตสุ ทินนานิ มะหัปผะลานิ
อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง
เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ.
เย สุปปะยุตตา มะนะสา ทัฬ๎เหนะ
นิกกามิโน โคตะมะสาสะนัมหิ
เต ปัตติปัตตา อะมะตัง วิคัยหะ
ลัทธา มุธา นิพพุติง ภุญชะมานา
อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง
เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ.
ขีณัง ปุราณัง นะวัง นัตถิ สัมภะวัง
วิรัตตะจิตตายะติเก ภะวัส๎มิง
เต ขีณะพีชา อะวิรุฬหิฉันทา
นิพพันติ ธีรา ยะถายัมปะทีโป
อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง
เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ.
สัพพะโรคะวินิมุตโต สัพพะสันตาปะวัชชิโต
สัพพะเวระมะติกกันโต ยะถาทีโป จะ นิพพุโต.
คำแปล
ที่พึ่งอื่นของข้าพเจ้าไม่มี พระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่งอันประเสริฐของข้าพเจ้า ด้วยการกล่าวคำสัตย์นี้ ขอชัยมงคลจงมีแก่ท่าน.
ที่พึ่งอื่นของข้าพเจ้าไม่มี พระธรรมเป็นที่พึ่งอันประเสริฐของข้าพเจ้า ด้วยการกล่าวคำสัตย์นี้ ขอชัยมงคลจงมีแก่ท่าน.
ที่พึ่งอื่นของข้าพเจ้าไม่มี พระสงฆ์เป็นที่พึ่งอันประเสริฐของข้าพเจ้า ด้วยการความกล่าวคำสัตย์นี้ ขอชัยมงคลจงมีแก่ท่าน.
ทรัพย์เครื่องปลื้มใจอันใดอันหนึ่งในโลกนี้ และในโลกอื่นก็ดีหรือรัตนะอันใดอันประณีตในสวรรค์ วัตถุอันนั้น จะเสมอด้วยพระตถาคตเจ้า ย่อมไม่มี แม้อันนี้ เป็นรัตนะอันประณีตในพระพุทธเจ้า ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดีจงมี.
พระศากยมุนีเจ้า มีพระทัยดำรงมั่นได้บรรลุธรรมอันใดเป็นที่สิ้นไปแห่งกิเลส เป็นที่สำรอกกิเลส เป็นธรรมอันไม่ม้วยมรณ์เป็นธรรมอันประณีต สิ่งใดสิ่งหนึ่งเสมอด้วยพระธรรมนั้นย่อมไม่มี แม้อันนี้ เป็นรัตนะอันประณีตในพระธรรม ด้วยคำสัตย์นี้ขอความสวัสดีจงมี.
พระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐทรงสรรเสริญแล้ว ชึ่งสมาธิอันใดว่าเป็นธรรมอันสะอาด บัณฑิตทั้งหลายกล่าวแล้ว ซึ่งสมาธิอันใดว่าเป็นอนันตริกะให้ผลโดยลำดับ สมาธิอื่นเสมอด้วยสมาธินั้นย่อมไม่มี แม้อันนี้ เป็นรัตนะอันประณีตในพระธรรม ด้วยคำสัตย์นี้ขอความสวัสดีจงมี.
บุคคลทั้งหลายเหล่าใด แปดจำพวกสี่คู่ อันสัตบุรุษทั้งหลายสรรเสริญแล้ว บุคคลทั้งหลายเหล่านั้น เป็นสาวกพระสุคต ควรแก่ทักษิณาทาน ทานทั้งหลาย อันบุคคลถวายแล้วในท่านเหล่านั้น ย่อมเป็นของมีผลมาก แม้อันนี้เป็นรัตนะอันประณีตในพระสงฆ์ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดีจงมี.
อริยบุคคลทั้งหลายเหล่าใด ในศาสนาพระโคดมเจ้าประกอบแล้วดี มีใจมั่นคง มีความใคร่ออกไปแล้ว อริยบุคคลทั้งหลายเหล่านั้น ถึงแล้วซึ่งพระอรทัตตผลที่ควรถึง หยั่งเข้าสู่พระนิพพาน ได้ซึ่งความดับกิเลสโดยเปล่า ๆ ไม่ต้องซื้อแล้วเสวยผลอยู่แม้อันนี้เป็นรัตนะอันประณีตในพระสงฆ์ ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดีจงมี.
กรรมเก่า ของพระอริยบุคคล เหล่าใดสิ้นแล้ว กรรมใหม่ย่อมไม่มีปรากฏ พระอริยบุคคลเหล่าใด มีจิตอันหน่ายแล้วในภพต่อไป พระอริยบุคคลเหล่านั้น มีพืชอันสิ้นแล้ว มีความพอใจงอกไม่ได้แล้ว เป็นผู้มีปัญญา ย่อมปรินิพพาน เหมือนประทีปอันดับไปฉะนั้น แม้อันนี้ เป็นรัตนะอันประณีตในพระสงฆ์ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดีจงมี.
จงพ้นจากโรคทั้งปวงด้วย จงพ้นจากความเดีอดร้อนทั้งปวงด้วย จงล่วงพ้นเวรทั้งปวงด้วย เหมือนดวงประทีปดับไปฉะนั้น.