ปัตตวรรค สิกขาบทที่ ๑๐ ภิกษุรู้อยู่ และน้อมลาภที่เขาจะถวายสงฆ์

วันที่ 30 เมย. พ.ศ.2565

ปัตตวรรค สิกขาบทที่ ๑๐ ภิกษุรู้อยู่ และน้อมลาภที่เขาจะถวายสงฆ์

ปัตตวรรค สิกขาบทที่ ๑๐

คำแปลพระบาลีที่เป็นพุทธบัญญัติ
        “อนึ่ง ภิกษุใดรู้อยู่ น้อมลาภที่เขาน้อมไว้เป็นของจะถวายสงฆ์มาเพื่อตนเป็นนิสสัคคิยปาจิตตีย์”

เนื้อความย่อในหนังสือนวโกวาท
        “ภิกษุรู้อยู่ และน้อมลาภที่เขาจะถวายสงฆ์มาเพื่อตนต้องนิสสัคคิยปาจิตตีย์”

อธิบายความโดยย่อ
        คำว่า ลาภ หมายถึง ปัจจัย ๔ คือจีวร บิณฑบาตเสนาสนะคิลานเภสัชและรวมถึงเภสัชภัณฑ์กัปปิยภัณฑ์อย่างอื่น โดยที่สุดแม้ก้อนผงเจิม ไม้         ชำระฟัน ด้ายชายผ้า ก็จัดเป็นลาภ
        ลาภเช่นนี้ถ้าเขาจัดไว้เพื่อถวายแก่สงฆ์เป็นส่วนรวม หากภิกษุไปพูดขอ พูดเลียบเคียง หรือแสดงกิริยาอาการว่าตนต้องการ จนเขาเปลี่ยนใจมาถวายให้แก่ตน ถือว่าน้อมมาเพื่อตน
        เมื่อพูดหรือแสดงอาการ เป็นทุกกฏ ถ้าได้มา เป็นนิสสัคคิยปาจิตตีย์
        น้อมลาภเช่นนั้นไปเพื่อภิกษุอื่น เพื่อเจดีย์เป็นทุกกฏ
        น้อมลาภที่เขาจะถวายเจดีย์ที่เขาจะถวายบุคคล ให้สับกันเสีย เป็นทุกกฏเหมือนกัน
        ถ้าภิกษุไม่รู้แน่ว่าเขาจะถวายใคร สงสัยแต่ขืนล่วงละเมิด เป็นทุกกฏ
        แต่ถ้าเขามาปรึกษาว่าควรถวายใคร บอกแนะนำให้เขา ไม่เป็นอาบัติ

เจตนารมณ์ของสิกขาบทข้อนี้
        สิกขาบทนี้ทรงบัญญัติไว้เพื่อให้ภิกษุรู้ประมาณในลาภ ป้องกันมิให้เป็นคนมักมากเห็นแก่ได้เที่ยวขอลาภที่เขาตั้งใจจะถวายสงฆ์ไม่เจาะจงภิกษุใด มาเพื่อประโยชน์ตน ซึ่งเป็นการเห็นแก่ตัวเห็นแก่ได้และเป็นการตัดลาภของภิกษุอื่นไปในตัว

อนาปัตติวาร
        ในสิกขาบทนี้ท่านแสดงภิกษุผู้ได้รับยกเว้นไม่ต้องอาบัติไว้คือ 
        (๑) ภิกษุที่พวกทายกถามว่าจะถวายที่ไหน บอกแนะนำว่า ไทยธรรมของพวกท่านพึงได้รับการใช้สอย พึงได้รับการปฏิสังขรณ์หรือพึงตั้งอยู่ได้นานในที่ใดก็หรือ จิตของพวกท่านเลื่อมใสในภิกษุรูปใดก็จงถวายในที่นั้นหรือแก่ภิกษุรูปนั้นเถิด
        (๒) ภิกษุผู้วิกลจริต 
        (๓) ภิกษุผู้เป็นต้นบัญญัติหรืออาทิกัมมิกะ ได้แก่ พวกภิกษุฉัพพัคคีย์

 

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.003874933719635 Mins