ภูตคามวรรค สิกขาบทที่ ๖
คำแปลพระบาลีที่เป็นพุทธบัญญัติ
“อนึ่ง ภิกษุใดรู้อยู่ เข้าไปนอนแทรกแซงภิกษุผู้เข้าไป ก่อนในวิหารอันเป็นของสงฆ์ ด้วยหมายใจว่า ผู้ใดมีความคับใจ ผู้นั้นจักหลีกไปเอง ทำความหมายใจอย่างนี้เท่านั้นให้เป็นเหตุ ไม่มีอย่างอื่น เป็นปาจิตตีย์”
เนื้อความย่อในหนังสือนวโกวาท
“ภิกษุรู้อยู่ว่า กุฎีนี้มีผู้อยู่ก่อน แกล้งไปนอนเบียด ด้วยหวังจะให้ผู้อยู่ก่อนคับแคบใจเข้าก็จะหลีกไปเอง ต้องปาจิตตีย์”
อธิบายความโดยย่อ
คำว่า วิหารอันเป็นของสงฆ์ หมายถึงกุฎีที่อยู่อาศัยอันพักนอนได้ที่เป็นส่วนกลางสำหรับภิกษุ
คำว่า เข้าไปนอนแทรกแซง คือ เข้าไปนอนเบียด ทำให้ผู้ที่นอนอยู่ก่อนมีความรู้สึกอึดอัด ทนไม่ได้ย้ายไปนอนที่อื่น หรือย้ายออกไปเลย การเข้าไปนอนเบียดด้วยมีเจตนาจะกันที่นั้นไว้เพื่อตนเอง ให้ภิกษุอื่นย้ายไปอย่างนี้เป็นอาบัติ
กรณีที่นอนเบียดโดยมีภิกษุอื่นมาขอนอนด้วยในที่อยู่ของตน หรือนอนในวิหารของสงฆ์อันเป็นที่อยู่รวมกัน หรือในกรณีที่มีกิจจำเป็นเช่น ภิกษุถูกความร้อนความหนาวเบียดเบียนจึงเข้าไปอาศัยเพื่อหลบร้อนหลบหนาวชั่วคราว ไม่เป็นอาบัติ
เจตนารมณ์ของสิกขาบทนี้
สิกขาบทนี้ทรงบัญญัติไว้เพื่อป้องกันมิให้ภิกษุเป็นผู้เห็นแก่ตัว เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว เอารัดเอาเปรียบภิกษุอื่น กีดกันภิกษุอื่นมิให้มีที่นอนดีเหมือนตน ทำให้ภิกษุอื่นเดือดร้อน ทำให้ภิกษุอยู่ร่วมกันอย่างสันติไม่ได้
อนาปัตติวาร
ในสิกขาบทนี้ท่านแสดงภิกษุผู้ได้รับยกเว้นไม่ต้องอาบัติไว้คือ
(๑) ภิกษุอาพาธเข้าไป
(๒) ภิกษุถูกความหนาวหรือความร้อนเบียดเบียนแล้วเข้าไป
(๓) ภิกษุมีอันตราย
(๔) ภิกษุผู้วิกลจริต
(๕) ภิกษุผู้เป็นต้นบัญญัติหรือภิกษุอาทิกัมมิกะ ได้แก่ พวกภิกษุฉัพพัคคีย์