มุสาวาทวรรค สิกขาบทที่ ๗ ภิกษุแสดงธรรมแก่ผู้หญิง เกินกว่า ๖ คำขึ้นไป

วันที่ 22 พค. พ.ศ.2565

มุสาวาทวรรค สิกขาบทที่ ๗ ภิกษุแสดงธรรมแก่ผู้หญิง เกินกว่า ๖ คำขึ้นไป

มุสาวาทวรรค สิกขาบทที่ ๗

คำแปลพระบาลีที่เป็นพุทธบัญญัติ
       “อนึ่ง ภิกษุใดแสดงธรรมแก่มาตุคามเกิน ๕-๖ คำเป็นปาจิตตีย์ เว้นไว้แต่มีชายผู้รู้เดียงสาอยู่ด้วย”

เนื้อความย่อในหนังสือนวโกวาท
        “ภิกษุแสดงธรรมแก่ผู้หญิง เกินกว่า ๖ คำขึ้นไป ต้องปาจิตตีย์(เว้นไว้แต่มีบุรุษผู้รู้เดียงสาอยู่ด้วย)”

อธิบายความโดยย่อ
        คำว่า มาตุคาม ได้แก่ หญิงมนุษย์ผู้รู้เดียงสาแล้ว
        คำว่า ธรรม ได้แก่ บาลีที่เป็นพุทธภาษิต สาวกภาษิต อิสิภาษิต เทวตาภาษิต ซึ่งประกอบด้วยอรรถ ประกอบด้วยธรรมในสิกขาบทนี้ทรงห้ามไว้เพื่อให้ภิกษุแสดงธรรมอย่างเปิดเผย ไม่กระซิบสอนหรือแสดงธรรมขณะอยู่กันสองต่อสองกับผู้หญิง เมื่อจำเป็นที่จะต้องพูดต้องแสดง ก็พูดหรือแสดงได้ไม่เกิน ๕-๖ คำ อันเป็นการทักทายกันตามปกติเว้นแต่มีชายผู้รู้เดียงสานั่งฟังอยู่ด้วย ซึ่งสามารถเป็นสักขีพยานแก่ภิกษุได้ว่าได้พูดหรือแสดงอะไรออกไป

เจตนารมณ์ของสิกขาบทนี้
        สิกขาบทนี้ทรงบัญญัติไว้เพื่อป้องกันมิให้ภิกษุถูกกล่าวหาหรือถูกสงสัยว่าพูดเกี้ยวหญิง ในกรณีพูดกับผู้หญิงสองต่อสอง

อนาปัตติวาร
        ในสิกขาบทนี้ท่านแสดงภิกษุผู้ได้รับยกเว้นไม่ต้องอาบัติไว้คือ 
        (๑) มีผู้ชายรู้เดียงสาอยู่ด้วย 
        (๒) ภิกษุแสดงธรรมเพียง ๕-๖ คำ 
        (๓) ภิกษุแสดงธรรมหย่อนกว่า ๕-๖ คำ 
        (๔) ภิกษุลุกขึ้นแล้วนั่งแสดงธรรมต่อไป 
        (๕) มาตุคามลุกขึ้นแล้วนั่งลงอีก ภิกษุแสดงธรรมแก่มาตุคามนั้น 
        (๖) ภิกษุแสดงธรรมแก่มาตุคามอื่น 
        (๗) ภิกษุถามปัญหา 
        (๘) ภิกษุถามปัญหาแล้วกล่าวแก้
        (๙) ภิกษุแสดงธรรมเพื่อประโยชน์แก่คนอื่นอยู่ มาตุคามฟังอยู่ด้วย
        (๑๐) ภิกษุผู้วิกลจริต
        (๑๑) ภิกษุผู้เป็นต้นบัญญัติหรือภิกษุอาทิกัมมิกะ ได้แก่ พระอุทายี

 

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.016388936837514 Mins