ภิกษุรู้อยู่ว่า กุฎีนี้มีผู้อยู่ก่อน แกล้งไปนอนเบียด ต้องปาจิตตีย์

วันที่ 02 พย. พ.ศ.2565

651109_02.jpg

ภูตคามวรรค สิกขาบทที่ ๖

คำแปลพระบาลีที่เป็นพุทธบัญญัติ
        “อนึ่ง ภิกษุใดรู้อยู่ เข้าไปนอนแทรกแซงภิกษุผู้เข้าไป ก่อนในวิหารอันเป็นของสงฆ์ ด้วยหมายใจว่า ผู้ใดมีความคับใจ ผู้นั้นจักหลีกไปเอง ทำความหมายใจอย่างนี้เท่านั้นให้เป็นเหตุ ไม่มีอย่างอื่น เป็นปาจิตตีย์”

เนื้อความย่อในหนังสือนวโกวาท
          “ภิกษุรู้อยู่ว่า กุฎีนี้มีผู้อยู่ก่อน แกล้งไปนอนเบียด ด้วยหวังจะให้ผู้อยู่ก่อนคับแคบใจเข้าก็จะหลีกไปเอง ต้องปาจิตตีย์”

อธิบายความโดยย่อ
         คำว่า วิหารอันเป็นของสงฆ์ หมายถึงกุฎีที่อยู่อาศัยอันพักนอนได้ที่เป็นส่วนกลางสำหรับภิกษุ    
         คำว่า เข้าไปนอนแทรกแซง คือ เข้าไปนอนเบียด ทำให้ผู้ที่นอนอยู่ก่อนมีความรู้สึกอึดอัด ทนไม่ได้ย้ายไปนอนที่อื่น หรือย้ายออกไปเลย การเข้าไปนอนเบียดด้วยมีเจตนาจะกันที่นั้นไว้เพื่อตนเอง ให้ภิกษุอื่นย้ายไปอย่างนี้เป็นอาบัติ
         กรณีที่นอนเบียดโดยมีภิกษุอื่นมาขอนอนด้วยในที่อยู่ของตน หรือนอนในวิหารของสงฆ์อันเป็นที่อยู่รวมกัน หรือในกรณีที่มีกิจจำเป็นเช่น ภิกษุถูกความร้อนความหนาวเบียดเบียนจึงเข้าไปอาศัยเพื่อหลบร้อนหลบหนาวชั่วคราว ไม่เป็นอาบัติ

เจตนารมณ์ของสิกขาบทนี้
         สิกขาบทนี้ทรงบัญญัติไว้เพื่อป้องกันมิให้ภิกษุเป็นผู้เห็นแก่ตัว เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว เอารัดเอาเปรียบภิกษุอื่น กีดกันภิกษุอื่นมิให้มีที่นอนดีเหมือนตน ทำให้ภิกษุอื่นเดือดร้อน ทำให้ภิกษุอยู่ร่วมกันอย่างสันติไม่ได้

อนาปัตติวาร
         ในสิกขาบทนี้ท่านแสดงภิกษุผู้ได้รับยกเว้นไม่ต้องอาบัติไว้คือ
         (๑) ภิกษุอาพาธเข้าไป
         (๒) ภิกษุถูกความหนาวหรือความร้อนเบียดเบียนแล้วเข้าไป
         (๓) ภิกษุมีอันตราย
         (๔) ภิกษุผู้วิกลจริต
         (๕) ภิกษุผู้เป็นต้นบัญญัติหรือภิกษุอาทิกัมมิกะ ได้แก่ พวกภิกษุฉัพพัคคีย์

 

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.0096006830533346 Mins