ครหาว เสยฺโย วิญญูหิ ยญฺเจ พาลปฺปสํสนา ฯ
วิญญูชนตำหนิ ดีกว่าคนพาลสรรเสริญ
(ขุ.เถร. ๒๖/๓๖๔)
คนเราไม่สมบูรณ์พร้อมทุกอย่าง
การติจึงเป็นการอุดช่องโหว่อย่างหนึ่ง
โดยเฉพาะการชี้แนะจากบัณฑิต
เป็นการ “ติเพื่อก่อ” คือ ก่อเกิดประโยชน์ ก่อเกิดความดี
จึงนับว่าเรามีโชคอย่างยิ่ง ที่มีบัณฑิตคอยเอาใจใส่
จงเอาคำตำหนิเป็นครู เป็นพลังขับเคลื่อน
ไม่ใช่คำติเป็นตัวทำลาย กลับกาลายเป็นแรงเฉื่อย
และอย่าหลงระเริงกับคำชม คำป้อยอจนไม่เป็นอันพัฒนาอะไร
คำตำหนิของคนดี มีค่ากว่าคำชมของคนช่างประจบเป็นไหนๆ
จงนำคำตำหนิมาเป็นไฟแห่งความหวัง
เป็นพลังสร้างสรรค์ความดีอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
แล้วเราจะพบสัจจธรรมอย่างหนึ่งว่า คำตำหนิมีค่ากว่าทอง
อย่ามัวเศร้ามัวโศก เพราะถูกโขกถูกสั่งสอนเฉื่อยชา เอาแต่นอน จิตอาวรณ์หมดสิ้นกัน
จงนำคำตำหนิ เป็นดำริเริ่มสร้างสรรค์
จุดไฟจุดพลัง จุดความหวังความดีเอย
ขอขอบคุณ หนังสือ ส่องธรรม ล้ำภาษิต เล่ม ๒
สงวนลิขสิทธิ์ตาม พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ. ๒๕๓๗
ห้ามนำไปใช้ประโยชน์ทางการค้าหรือหากำไร ผู้ฝ่าฝืนมีความผิดและต้องรับโทษตามกฎหมาย