อุกาสะ วันทามิ ภันเต,สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต, มะยา กะตัง ปุญญัง สามินา อะนุโมทิตัพพัง,สามินา กะตัง ปุญญัง มัยหัง ทาตัพพัง, สาธุ สาธุ อะนุโมทามิ ฯ
อุกาสะ การุญญัง กัตวา, ติสะระเณนะ สะหะ สีลานิ เทถะ เม ภันเต,
(นั่งคุกเข่า ประนมมือ กล่าวว่า)
อะหัง ภันเต, สะระณะสีลัง ยาจามิ,
ทุติยัมปิ อะหัง ภันเต, สะระณะสีลัง ยาจามิ,
ตะติยัมปิ อะหัง ภันเต, สะระณะสีลัง ยาจามิ,
พระอาจารย์ กล่าวคำนมัสการพระรัตนตรัย ให้นาคกล่าวตาม ดังนี้
( นะโม ตัสสะ ภะคะวะโตอะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ ฯ ) ๓ จบ
พระอาจารย์กล่าวว่า “ยะมะหัง วะทามิ ตัง วะเทหิ”
ให้นาครับว่า “อามะ ภันเต”
จากนั้น พระอาจารย์กล่าวนำให้ สรณคมน์ และศีล ให้นาคกล่าวตามดังนี้
พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ,
ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ,
สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ,
ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ,
ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ,
ทุติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ,
ตะติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ,
ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ,
ตะติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ.
พระอาจารย์กล่าวว่า “ ติสะระณะคะมะนัง นิฏฐิตัง ”
ให้นาครับว่า “ อามะ ภันเต ”
พระอาจารย์จะกล่าวนำศีล ๑๐ และให้สามเณรกล่าวตามทีละบท
๑. ปาณาติปาตา เวระมะณี, สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ ฯ
๒. อะทินนาทานา เวระมะณี, สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ ฯ
๓. อะพรัหมะจะริยา เวระมะณี, สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ ฯ
๔. มุสาวาทา เวระมะณี, สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ ฯ
๕. สุรา เมระยะ มัชชะ ปะมาทัฏฐานา เวระมะณี, สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ ฯ
๖. วิกาละโภชะนา เวระมะณี, สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ ฯ
๗. นัจจะ คีตะ วาทิตะ วิสูกะทัสสะนาเวระมะณี,สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ ฯ
๘. มาลา คันธะ วิเลปะนะ ธาระณะ มัณฑะนะวิภูสะนัฏฐานา เวระมะณี, สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ ฯ
๙. อุจจาสะยะนะ มะหาสะยะนา เวระมะณี, สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ ฯ
๑๐. ชาตะรูปะ ระชะตะ ปะฏิคคะหะณา เวระมะณี, สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ ฯ
อิมานิ ทะสะ สิกขาปะทานิ สะมาทิยามิ ฯ
(กล่าว ๓ จบ เสร็จแล้วกราบ ๓ ครั้ง และยืนขึ้น ประนมมือ กล่าวว่า)
วันทามิ ภันเต, สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต,มะยากะตัง ปุญญัง สามินา อะนุโมทิตัพพัง,สามินา กะตัง ปุญญัง มัยหัง ทาตัพพัง, สาธุ สาธุ อะนุโมทามิ ฯ
(นั่งคุกเข่า กราบ ๓ ครั้ง )