ปาฏิหาริย์ขององค์พระมหาสิริราชธาตุที่เล่าไว้ในเรื่องนี้ เป็นพลังพิเศษของเนื้อวัตถุธาตุที่นำมาสร้างเป็นองค์พระ รวมทั้งอานุภาพพลังบุญที่ผู้มีฤทธิ์ทางจิตอาราธนาไว้ มีผู้พบเห็นความอัศจรรย์ไม่เหมือนกัน

คุณภาณุพันธ์ เอกชูเกียรติ เล่าว่า เมื่อเวลาประมาณ ๑๘.๐๐ น. วันที่ ๔ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๔๑ คุณภาณุพันธ์ นำพระมหาสิริราชธาตุติดตัวไป ๒ องค์ เพื่อเชิญชวนเพื่อนร่วมงานรุ่นพี่ท่านหนึ่งให้ทำบุญสร้างพระธรรมกายประจำตัวที่แกนกลางเจดีย์ นอกจากได้บุญแล้วยังได้รับพระของขวัญ จึงได้นำไปเป็นตัวอย่างให้ดู

เมื่อพบกัน คุณภาณุพันธ์ยื่นพระมหาสิริราชธาตุให้ดู ถามว่า "พระ ๒ องค์นี่ สวยไหมพี่" เพื่อนดูแล้วพูดว่า "พระอะไร สวย แปลกดีนะ ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย"

คุณภาณุพันธ์เห็นเพื่อนเริ่มสนใจ ถึงกับออกปากชม จึงวางพระทั้ง ๒ องค์ลงในมือเพื่อนที่ยื่นมารับไปดูให้ใกล้ชิด ทันทีที่เพื่อนดูแล้วกำไว้ด้วยมือทั้งสองแสดงสีหน้าแววตาตื่นเต้น พูดเสียงสั่นอย่างแปลกใจเต็มที่ "โอ้โฮ นี่พระอะไร แรง (หมายถึงมีฤทธิ์หรือความศักดิ์สิทธิ์) มากจริงๆ พุทธานุภาพแรงเหลือเกิน ดูซิพี่ขนลุกขึ้นมาเองและรู้สึกร้อนทั้งตัวเลย ทนไม่ไหวแล้ว เธอรับคืนไปก่อนนะ แล้วรีบเล่าประวัติพระองค์นี้ให้ฟังหน่อย ได้มาจากไหนกัน"

คุณภาณุพันธ์ได้เล่าเรื่องราวที่มาของพระมหาสิริราชธาตุ รวมทั้งถ่ายทอดโอวาทบางตอนของพระเดชพระคุณพระราชภาวนาวิสุทธิ์ให้ฟัง ผู้ฟังดีใจอย่างเห็นได้ชัด ออกปากว่าจะทำบุญให้ได้พระอย่างนี้บ้าง คุณภาณุพันธ์ไม่โต้แย้งอะไร แม้จะไม่ทำบุญเพื่อบูชาธรรมพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ทำเพราะอยากได้พระก็ยังดี

รุ่งขึ้นวันที่ ๕ สิงหาคม คุณภาณุพันธ์นำเทปบรรยายเรื่องพระมหาสิริราชธาตุไปฝากเพื่อนคนเดิม เวลาประมาณ ๓ ทุ่ม โทรศัพท์คุยกันอีกครั้ง เพื่อนพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นมาก เล่าว่า เมื่อเขารับเทปจากคุณภาณุพันธ์ไปแล้ว ใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อ ขับรถกลับบ้าน ตลอดทางร่างกายของเขามีอาการขนลุกซู่ ชูชันตลอดเวลา แม้ขณะพูดคุยกับคุณภาณุพันธ์เกี่ยวกับเรื่ององค์พระนี้ก็ยังมีอาการขนลุกอยู่ตลอดเวลา