อานุภาพพระมหาสิริราชธาตุ

พระมหาสิริราชธาตุ รุ่นดูดทรัพย์ สำหรับ ผู้สร้างพระธรรมกายประจำตัวภายในมหาธรรมกายเจดีย์นั้น จะได้รับของที่ระลึกเป็นพระธรรมกายของขวัญ

อานุภาพพระมหาสิริราชธาตุ ปรากฏการณ์มหาปีติ "อัศจรรย์...ตะวันแก้ว"

ปรากฏการณ์มหาปีติ "อัศจรรย์...ตะวันแก้ว"

 

อัศจรรย์ตะวันแก้ว วันที่ ๖ กันยายน พ.ศ.๒๕๔๑

คุณรัชนี สุขพงษ์ เป็นอาจารย์ ๓ ระดับ ๘ โรงเรียนเขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก เล่าว่า เคยได้ยินชื่อวัดพระธรรมกายมานาน แต่ไม่เคยไปพบเห็น คงเป็นเพราะบุญของตัวเองยังมาไม่ถึง ทำให้ใจไม่มีความคิดที่จะไป


ปี พ.ศ.๒๕๔๐ คุณรัชนีไปทำบุญวันเกิดที่วัดใกล้บ้าน พระอาจารย์ที่นั่นมอบของที่ระลึกเป็นเหรียญรูปหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ พร้อมกับพูดกับคุณรัชนีว่า "ของดี ต้องอยู่กับคนดี อาตมาให้เอาไปบูชา"


คุณรัชนีรับเหรียญมาแล้วก็นำมาแขวนไว้ที่หิ้งพระ เวลาไหว้พระสวดมนต์ก็นึกบูชาพร้อมกันไป พอถึงวันเกิดในปี พ.ศ. ๒๕๔๑ คุณรัชนีบอกกับสามีว่า ปีนี้ต้องการสร้างพระพุทธรูปถวายวัดเหมือนปีที่แล้ว แต่ยังไม่ทราบว่าจะถวายที่วัดใด วันหนึ่งได้พบคุณสังวรณ์ อินทญาติ ได้ให้เอกสารเกี่ยวกับการสร้างพระธรรมกายประจำตัวของวัดพระธรรมกาย คุณรัชนีรับมาหลายแผ่น และนำมาแจกเพื่อนๆ ในที่ทำงานด้วย ตนเองได้อ่านดูแล้ว ไม่พบรายละเอียดที่น่าสนใจ นอกจากคำเชิญชวนทำบุญ แล้วให้ส่งเงินไปตามที่อยู่


อย่างไรก็ดี คุณรัชนีก็คิดตกลงใจว่าจะสร้าง แต่ไม่ต้องการแค่ส่งเงินไป เธอต้องการไปเห็นวัดด้วยตนเองสักครั้ง ยังไม่รู้ว่าจะไปวัดพระธรรมกายด้วยรถโดยสารได้อย่างไร


ในที่สุดสามีของคุณรัชนีมีโอกาสได้พูดคุยกับคุณละม่อม ขันธเลิศ หัวหน้าประชาสัมพันธ์ของเขื่อนภูมิพล ได้ให้หมายเลขโทรศัพท์ของผู้นำบุญวัดพระธรรมกาย ๒ ท่าน ที่มีศูนย์ปฏิบัติธรรมอยู่ที่ตัวจังหวัด ชื่อคุณประมูล และคุณอร่าม อนุชปรีดา มีอาชีพเป็นอาจารย์ทั้งสองคน จึงรีบติดต่อไปทันที และได้นัดหมายกำหนดวันเวลาพบกันที่ศูนย์ปฏิบัติธรรม


วันนั้นคุณรัชนีประทับใจการต้อนรับมาก พอดีมีพระอาจารย์จากวัดพระธรรมกายไปให้การอบรม จึงได้ลงมือสวดมนต์ นั่งสมาธิภาวนาเป็นครั้งแรกทั้งสามีและภรรยา พระอาจารย์รูปนั้นท่านได้พูดคุยสัจธรรมต่างๆ ทำให้เกิดศรัทธาเต็มใจที่จะสร้างพระธรรมกายประจำตัวที่แกนกลางมหาธรรมกายเจดีย์ ๒ องค์


วันรุ่งขึ้นเมื่อเล่าเรื่องให้เพื่อนร่วมงานรุ่นน้องชื่อ อาจารย์กมลวรรณ เพ็ชรคำ ก็ยินดีรับอาสาจัดหาชุดขาวให้แต่งตัวตามผู้นำบุญไปวัด ตลอดทางกิจกรรมที่จัดขึ้นในรถ สร้างความสุขและความประทับใจให้มาก ทั้งเรื่องการไหว้พระ สวดมนต์ ทำสมาธิ และการดูแลช่วยเหลือซึ่งกันและกันเหมือนเป็นญาติพี่น้องกันจริงๆ


คุณรัชนีได้เล่าความรู้สึกเมื่อได้มาร่วมงานบุญในวันที่ ๖ กันยายน ที่วัดพระธรรมกายว่า


"ข้าพเจ้าได้รู้ ได้เห็นสิ่งดีๆ หลายอย่าง ทำให้รู้สึกเสียดายเวลาที่ผ่านไปเหลือเกิน เราสองคนสามีภรรยาพยายามทำบุญมาตลอด แต่ทำอย่างขาดผู้นำบุญ ทำไปตามที่เราคิด จึงไม่ได้ความอิ่มใจเท่าที่ควร ครั้นได้พบผู้นำบุญพามาพบบุญใหญ่ที่นี่ ทำให้เรียนรู้การทำบุญชนิดต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว


สิ่งที่ข้าพเจ้าจะไม่ลืมเลยจนชั่วชีวิต และยังติดตราตรึงใจอยู่ทุกวันนี้ คือคลื่นกัลยาณมิตรแต่งชุดสีขาว เดินกันมาเป็นหมื่นเป็นแสนคน เป็นภาพที่ต้องตกตะลึง ช่างสวยงามอะไรเช่นนั้นหนอ เป็นสีขาวบริสุทธิ์ดุจดอกบัวขาว อะไรกันนี่ เรามัวไปอยู่เสียที่ไหน ทำไมสิ่งวิเศษ ทั้งแปลกประหลาดสวยงามอย่างนี้ มีอยู่ในเมืองไทยแท้ๆ เพิ่งได้เคยเห็น รู้สึกเสียดายแทนเพื่อนๆ ทุกคนจริงๆ ที่ไม่ได้มาพบ"


"ได้เห็นภาพงดงามบริสุทธิ์เช่นนี้ เป็นบุญของข้าพเจ้าแล้ว" เธอคิด


คุณรัชนีกับสามีคงมีบุญเก่ามาไม่น้อยเลย มาที่วัดพระธรรมกายครั้งแรก ในเวลาบ่ายใกล้เย็นวันนั้น ยังได้พบเหตุการณ์อัศจรรย์ตะวันแก้ว เธอได้เล่าว่า


"และทุกคนก็ต้องตกตะลึงยิ่งขึ้นไปอีก เมื่อมองขึ้นไปบนท้องฟ้า อะไรนั่น หลวงพ่อพระมงคลเทพมุนี (หลวงพ่อวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ) ปรากฏอยู่บนท้องฟ้า มีดวงอาทิตย์อยู่ตรงกลางท้องของท่าน มีรัศมีเป็นประกายเหมือนเพชร แวบวาบ ล้อมรอบสวยงามมาก มองไปที่องค์มหาธรรมกายเจดีย์ พระภิกษุสามเณรที่นั่งอยู่กลายเป็นสีชมพู โอย...บอกไม่ถูกว่ามหัศจรรย์อะไรเช่นนั้น ถ้าไม่เห็นด้วยตาตนเอง จะไม่เชื่อเลย ข้าพเจ้ามองไปรอบๆ ตัว เห็นเหล่ากัลยาณมิตรร้องไห้ด้วยความปลื้มปีติใจ บางคนร้องสาธุ ขอพรจากหลวงพ่อวัดปากน้ำกันใหญ่ ข้าพเจ้ามัวแต่ตกตะลึงพรึงเพริดขนลุกชูชัน ไม่ทันนึกขอพร เพราะในชีวิตก็เพิ่งเห็นความมหัศจรรย์อย่างนี้เป็นครั้งแรก ดีใจมาก ชั่วชีวิตนี้จะขอจดจำไปจนสังขารลาลับจากโลกนี้ทีเดียว คิดขึ้นมาขณะนั้นว่า เป็นโชคดีของตนเองยิ่งนัก ที่ตามผู้นำบุญมาวัดครั้งนี้ มิฉะนั้นแล้วคงจะเสียใจมาก เวลาได้ยินคนโน้นคนนี้เล่าให้ฟัง แล้วตนเองไม่ได้เห็น ไม่ทราบสิ่งอะไรดลใจให้มาพบสิ่งดีๆ เป็นมงคลแก่ชีวิตและครอบครัวข้าพเจ้าถึงเพียงนี้ สมแล้วที่อธิษฐานจิตก่อนมาวัดว่า เมื่อจะมาสัมผัสวัดพระธรรมกายเป็นครั้งแรก ขอให้พบสิ่งดีๆ จะได้นำข้อมูลที่พบไปเผยแพร่ เล่าให้เพื่อนๆ ฟัง และก็ไม่ผิดหวังเลยแม้แต่น้อย"

อานุภาพ พระมหาสิริราชธาตุ ปรากฏการณ์มหาปีติ "อัศจรรย์...ตะวันแก้ว"

อัศจรรย์ตะวันแก้ว วันที่ ๑๑ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๔๑

คุณอาด นึกชนะ อายุ ๔๐ ปีเศษ อาชีพเป็นแม่บ้าน บ้านอยู่ซอยจรัญสนิทวงศ์ ๔๔ ได้เคยเห็นเหตุการณ์ปาฏิหาริย์อัศจรรย์ตะวันแก้ว วันที่ ๖ กันยายน พ.ศ.๒๕๔๑ จึงได้ชวนคนขายปลาทูชาวแม่กลอง ให้ไปร่วมงานทำบุญปิดองค์พระภายนอกมหาธรรมกายเจดีย์ในวันที่ ๑๑ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๔๑ เพราะเห็นว่าสองสามีภรรยาเป็นคนมีลักษณะดี ทั้งหน้าตาท่าทางกิริยาและน้ำเสียงดูเป็นคนมีบุญ


วันที่ ๑๓ ตุลาคม สองสามีภรรยานำรถมาขายปลาทูที่หน้าบ้านพักคุณอาดอีกครั้ง ตามกำหนดวันที่เคยมาเป็นประจำ คุณอาดได้ออกไปซื้อปลาทูนึ่งแม่กลองเหมือนที่เคยซื้อทุกครั้ง พร้อมทั้งถามสองสามีภรรยาคู่นั้นว่า ได้ไปวัดพระธรรมกายในวันที่ ๑๑ ตุลาคม ตามที่ชักชวนไว้หรือเปล่า


ผู้เป็นภรรยาชื่อคุณสมนึก จันทร์เที่ยง อายุ ๕๒ ปี พูดว่า "นึกว่าไม่ได้กลับแล้ว นึกว่าตายอยู่ที่วัดแล้ว" ขณะเดียวกันสามีชื่อคุณบุญส่ง เปี่ยมสมบูรณ์ อายุ ๖๖ ปี ก็พูดยืนยันว่า "ผมว่า เขาเกือบตายอยู่ที่วัดแล้ว" คุณอาดและลูกค้าที่ยืนซื้อปลาทูก็พากันคิดว่า รถที่ไปในงานมีจำนวนมากด้วยกัน รถคงติดเป็นขบวนยาวกระมัง จนกระทั่งหาทางกลับบ้านไม่ได้ คงทำให้คุณสมนึกรู้สึกอ่อนเพลียมาก แต่เหตุการณ์กลับตรงกันข้าม สองสามีภรรยายืนยันว่า เขาทั้งสองคนพร้อมบุตรชายอายุ ๑๙ ปีชื่อคุณอิทธิชัย เรียนอยู่มหาวิทยาลัยรามคำแหง ได้ชวนกันไปวัดในวันนั้น และทั้งสามคนได้เห็นเหตุการณ์อัศจรรย์ ตะวันแก้วด้วยกัน


คุณสมนึกเล่าว่า เวลานั้นเป็นเวลาบ่ายสี่โมงเศษ ขณะที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโยสอนให้ทุกคนทำสมาธิ และท่านเงียบเสียงลง คุณสมนึกรีบตั้งจิตอธิษฐานในใจว่า ถ้าตนเองมีบุญ ขอให้เห็นหลวงพ่อวัดปากน้ำ ภาษีเจริญเต็มองค์ ขณะนั้นได้ยินเสียงกลุ่มคนฮือขึ้น จึงได้มองไปทางพระอาทิตย์ ทันใดนั้นคุณสมนึกได้เห็นภาพของหลวงพ่อวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ห่มจีวรสีเหลืองสุกปลั่งนั่งอยู่ในดวงอาทิตย์ คุณสมนึกรู้สึกเหมือนคนตื่นเต้นสุดขีด ลืมตัวขาดสติ ร้องแต่ถ้อยคำว่า "ลูกเห็นหลวงพ่อแล้วจริงๆ ด้วย ลูกเห็นหลวงพ่อแล้วจริงๆ ด้วย" ไม่สนใจเสียงร้องห้ามของสามีว่า อย่าส่งเสียงดังไป เดี๋ยวใครเขาจะว่าเอา จากนั้นคุณสมนึกก็หมดสติไม่รู้สึกตัวอีกเลย


ฝ่ายคุณบุญส่งเล่าว่า เห็นภรรยาตะโกนเสียงดังสุดเสียงว่า "ลูกเห็นหลวงพ่อสดแล้วจริงๆ ด้วย ซ้ำๆ อยู่หลายครั้ง พร้อมทั้งกระโดดตัวลอยขึ้นไปสูงมาก ก็ได้ส่งเสียงห้ามปราม เกรงคนที่ลุกฮือยืนดูอยู่ด้วยกันจะตำหนิเอา ห้ามเท่าไรๆ ก็เหมือนกับภรรยาไม่ได้ยินเสียง จนกระทั่งภรรยาเลิกกระโดดทรุดฮวบเหมือนหมดสติ ลงไปกองอยู่ที่พื้นดินพิงขาของสามีอยู่ คุณบุญส่งเวลานั้นลืมอาการของภรรยาไปสิ้นเชิง เพราะตกตะลึงที่เห็นความแปลกประหลาดที่ดวงอาทิตย์ ซึ่งยืดออกมาแล้วหดเข้าไปได้ ภายในดวงอาทิตย์มีรูปพระนั่งสมาธิเป็นโครงร่างอยู่ ไม่ชัดนัก ดวงอาทิตย์ทั้งดวงหมุนได้เวียนไปทางขวา รอบดวงมีสีต่างๆ หลายสีกระจายกันล้อมอยู่เหมือนสีรุ้ง เวลาดวงอาทิตย์หมุน สีเหล่านี้ก็เปลี่ยนไปต่างๆ สวยงามมาก เสียงผู้คนที่เห็นเหตุการณ์จำนวนมากร้องเฮกันอื้ออึง


คุณบุญส่งดูอยู่นานพอสมควร จึงก้มลงมองดูภรรยาที่พิงขาตนเองอยู่ เห็นว่าได้สติแล้ว คุณสมนึกพูดว่า ได้เห็นขนาดนี้แล้ว ตายเป็นตาย ไม่เสียดายชีวิตเลย


ฝ่ายคุณอิทธิชัย ผู้เป็นลูกชาย เมื่อพ่อแม่ชวนมา ไม่นึกเชื่อเรื่องปาฏิหาริย์เลย เพราะเป็นเด็กสมัยใหม่ ครั้นได้มาประจักษ์แก่สายตาตนเอง ก็พูดว่า "ผมยังงงอยู่เลยนะเนี่ย เกิดขึ้นได้ยังไง แต่ผมเชื่อสนิทใจว่าเป็นปาฏิหาริย์จริงๆ ใครจะใช้วิทยาการสมัยใหม่ ทำยังไงก็ทำไม่ได้แน่นอน"


ทั้งหมดนี้เป็นประสบการณ์ของพ่อค้าแม่ค้าขับรถขายปลาทูนึ่งแม่กลองครอบครัวหนึ่ง ซึ่งมาที่วัดพระธรรมกายเป็นครั้งแรกในชีวิต

 

บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล