เรื่องที่ ๖๘ พระไปหาแม่ก่อนลูกไปถึง
คุณวงเดือน แสนยานุสิน เจ้าของร้านแสนยานยนต์ อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้ทราบข่าวว่าทางวัดพระธรรมกายได้เปิดให้มีการสร้างพระธรรมกายประจำตัวประดิษฐานที่แกนกลางมหาธรรมกายเจดีย์เมื่อวันที่ ๑ กันยายน พ.ศ.๒๕๔๑ โดยได้ทราบจากน้องชาย พันเอกทันตแพทย์ ไพเกียรติ แสนยานุสิน แพทย์ใหญ่ประจำกองทัพภาคที่ ๑
คุณวงเดือนเมื่อได้ทราบเรื่องแล้ว จึงตัดสินใจทำบุญในคืนวันที่ ๓ กันยายน พ.ศ.๒๕๔๑ เพราะคิดว่าแม้จะเคยได้ทำบุญสร้างพระธรรมกายประจำตัวประดิษฐานที่ภายนอกมหาธรรมกายเจดีย์ไว้ ๕ องค์แล้วก็ตาม แต่องค์พระธรรมกายที่อยู่ภายนอกคงมีอายุไม่นานเท่าองค์พระธรรมกายที่ประดิษฐานภายในมหาธรรมกายเจดีย์ เพราะองค์พระภายในไม่ถูกแดดถูกฝน คุณวงเดือนตั้งใจสร้างพระธรรมกายประจำตัวบูชาธรรมหลวงพ่อวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ พร้อมทั้งอธิษฐานก่อนนอนว่า คืนนี้ขอให้ฝันเห็นเป็นอัศจรรย์ เพื่อเป็นกำลังใจว่า จะได้บุญใหญ่ครั้งนี้จริงๆ
เวลาดึกสงัดในคืนนั้น คุณวงเดือนฝันประหลาด ฝันเห็นคนกลุ่มใหญ่ชี้ชวนกันมองดูดวงอาทิตย์ คุณวงเดือนก็มองตาม เห็นดวงอาทิตย์กลายเป็นดวงแก้วใส พร้อมกันนั้นก็เห็นน้องสาวกำลังนั่งลงปลูกต้นไม้ชนิดหนึ่งที่พื้นดิน โดยมีน้องชายเป็นคนรดน้ำ คุณวงเดือนเดินไปดูน้องทั้งสองคน จึงเห็นว่าน้องทั้งคู่กำลังปลูกต้นมะพร้าว คุณวงเดือนหยิบขึ้นมาดู มะพร้าวกลายเป็นทองคำทั้งลูก รู้สึกตื่นเต้นดีใจมาก จนตกใจตื่นขึ้น
เช้าวันที่ ๔ กันยายน พ.ศ.๒๕๔๑ คุณวงเดือนรีบไปธนาคารโอนเงินทำบุญเข้าวัดพระธรรมกาย เพื่อสร้างพระธรรมกายประจำตัวประดิษฐานที่แกนกลางมหาธรรมกายเจดีย์ ขณะติดต่อกับพนักงานธนาคาร คุณวงเดือนก็เล่าความฝันให้เขาฟังไปด้วย จนพนักงานคนนั้นเกิดศรัทธาขอร่วมทำบุญ ด้วยการออกเงินค่าโอนให้
ในวันที่ ๖ กันยายน พ.ศ.๒๕๔๑ คุณวงเดือนเดินทางไปทำบุญวันอาทิตย์ต้นเดือนที่วัดพระธรรมกายตามปกติเหมือนทุกเดือน ตอนบ่ายได้ไปร่วมถ่ายภาพประวัติศาสตร์ที่ลานธรรมมหาธรรมกายเจดีย์ จึงได้เห็นปรากฏการณ์อัศจรรย์ตะวันแก้ว เหมือนกับที่เห็นในความฝัน แต่มีรายละเอียดปลีกย่อยมากกว่า เพราะเป็นการเห็นด้วยตาเนื้อ ไม่ใช่ตาของกายฝัน น้องชายก็ได้เห็นเหตุการณ์อัศจรรย์นี้พร้อมๆ กันด้วย
คืนนั้น คุณวงเดือนค้างคืนที่บ้านกรุงเทพฯ ไม่ได้กลับบ้านที่ปราณบุรี เมื่อเดินทางกลับถึงบ้าน คุณแม่ซึ่งอยู่ที่บ้านเล่าว่า เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมาท่านหลับฝันเห็นพระมาหาคุณแม่พูดว่า "พระท่านมากันเต็มห้องทีเดียวนะลูก ท่านมาหาแม่น่ะ"
ลูกสาวถามว่า "พระอะไรมาหาคะแม่" คุณแม่ของคุณวงเดือนเหลือบ ไปเห็นภาพหน้าปกหนังสืออานุภาพพระมหาสิริราชธาตุ แล้วพูดด้วยความตื่นเต้นว่า "นี่ นี่ พระอย่างภาพที่หน้าปกหนังสือนี้แหละ มาหาแม่เมื่อคืนนี้ มากันเต็มห้องเลย"
คุณแม่ของคุณวงเดือนเล่าด้วยความปีติยินดี ส่วนลูกสาวก็เล่าเรื่องเหตุการณ์ปาฏิหาริย์อัศจรรย์ตะวันแก้วให้คุณแม่ฟัง ทั้งสองคนแม่ลูกปีติเบิกบานใจกันมาก มีศรัทธาในพระพุทธศาสนา เข้าใจถ่องแท้ในเรื่องบุญกุศล และดีใจที่ได้ทำบุญในเนื้อนาบุญที่ตนเองเชื่อมั่น
แม่เห็นพระในฝัน แต่ลูกสาวลูกชายเห็นตะวันแก้วด้วยตาจริงๆ ไม่ใช่ฝันไป ไม่ว่าจะเป็นความฝันหรือความจริง ล้วนเป็นเรื่องที่ทำให้เกิดปีติเบิกบาน ทำให้จิตใจผ่องใส เป็นกุศลจิตด้วยกันทั้งสิ้น ความฝันของผู้เป็นแม่คงเนื่องมาจากอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ของพระมหาสิริราชธาตุที่ลูกๆ ได้ทำบุญกันไว้ เทพยดาจึงบันดาลให้เห็นเป็นนิมิต ให้ฝ่ายคุณแม่ได้รับรู้ถึงบุญที่ลูกๆ ได้ทำล่วงหน้าก่อนที่ลูกจะกลับถึงบ้าน นับเป็นเรื่องอัศจรรย์ยิ่งนัก ทำให้มีปีติเปี่ยมล้นกันทั้งครอบครัว อาจจะกล่าวว่าพระของขวัญพระมหาสิริราชธาตุนั้นเป็นองค์พระประจำครอบครัวก็ไม่ผิด ไม่ว่าพระมหาสิริราชธาตุจะอยู่ที่ใคร กระแสใจของคนในครอบครัวนั้นเชื่อมโยงกันอยู่ อานุภาพของท่านย่อมส่งผ่านไปได้โดยตลอด ยิ่งเป็นเจ้าของกันหลายองค์ ความศักดิ์สิทธิ์ก็ยิ่งเพิ่มทับทวีขึ้น อย่างน้อยที่สุดครอบครัวของผู้มีบุญควรจะมีไว้บูชาอย่างน้อย ๑ องค์ถ้าสามารถทำได้ จะได้เป็นสิริมงคลและได้คุ้มครองนำพาสิ่งที่ดีมาสู่ครอบครัว