เรื่องที่ ๑๐๑ บอกบุญได้ง่าย ค้าขายดีขึ้น
คุณวันดี อุดมใจธรรมกุล มีอาชีพขายอาหาร เล่าว่า เมื่อทราบข่าวการทำบุญสร้างองค์พระธรรมกายประจำตัวที่แกนกลางมหาธรรมกายเจดีย์ คุณวันดีปรารถนาที่จะทำบุญนี้ แต่ไม่มีเงินทำบุญ จึงนำรูปภาพพระมหาสิริราชธาตุมาบูชา และอธิษฐานขอให้ได้เงินมาทำบุญ ได้พบคนดีๆ มาชี้ช่องทางทำมาหากินให้ร่ำรวย
อธิษฐานขอพรจากภาพถ่ายพระมหาสิริราชธาตุได้ ๓ วัน มีผู้จัดการบริษัทอเมริกันเอกซ์เพรส มารับประทานอาหารที่ร้าน จึงถามถึงสถานที่ขายอาหารทีี่อื่น ผู้จัดการรับปากจะดูให้ พอเวลา ๖ โมงเย็นในวันนั้นเขาบอกมาว่า หาสถานที่ขายได้แล้ว วันจันทร์ให้ไปทดลองขายได้ คุณวันดีไปทดลองขายเพียงวันเดียว ได้กำไรมา ๑ หมื่นบาท จึงทำบุญสร้างองค์พระทันที ในใจต้องการได้บุญเพิ่มอีกจากการบอกบุญ จึงคิดชักชวนผู้คนที่รู้จัก โดยใช้วิธีอธิษฐานจิตขอพรจากภาพถ่ายพระมหาสิริราชธาตุ ก็สามารถชักชวนให้มาทำบุญได้สำเร็จเป็นอัศจรรย์
มีญาติของคุณวันดีคนหนึ่ง ซึ่งคุณวันดีเคยชวนทำบุญมา ๓ ปีแล้ว ไม่เคยยอมทำ คุณวันดีจึงอธิษฐานจิตขอพรพระมหาสิริราชธาตุ เพียงไม่กี่วันญาติคนดังกล่าวโทรศัพท์มาหา ขอทำบุญสร้างองค์พระด้วยจำนวน ๔ องค์ เมื่อรับเงินทำบุญส่งให้ทางวัด ได้ใบอนุโมทนาบัตรพร้อมทั้งหนังสืออานุภาพพระมหาสิริราชธาตุเล่มต่างๆ ไป เมื่อได้อ่านหนังสือแล้ว ญาติขอทำบุญเพิ่มอีก ๔ องค์ คุณวันดีรับเงินไปทำบุญให้ ต่อมาญาติคนเดิมแจ้งว่าขอทำบุญเพิ่มอีก ๓ องค์ โดยจะสร้างพระให้กับคนที่มีบุญคุณที่เคยช่วยให้งานทำ
เมื่อญาติผู้นี้เริ่มทำบุญด้วยอย่างเป็นอัศจรรย์ คุณวันดีเริ่มรู้สึกมีกำลังใจ จึงอธิษฐานขอพรจากภาพพระมหาสิริราชธาตุ เมื่อไปชวนเพื่อน เพื่อนก็ร่วมทำบุญด้วย ชวนคนในบ้านก็ทำบุญกันทุกคน รวมแล้วในระยะเวลาเพียง ๒ สัปดาห์ สามารถชักชวนคนให้มาทำบุญสร้างพระธรรมกายประจำตัวได้ถึง ๒๐ องค์
หลังจากที่ได้รับพระมหาสิริราชธาตุมาแล้ว การค้าดีขึ้นมาก โดยเฉพาะช่วงเวลากลางวัน จะเป็นช่วงเวลา "โกยเงิน" เพราะลูกค้าจะมากันเต็มร้าน ในเวลากลางวันของวันหนึ่ง
น้องสาวซึ่งช่วยกันทำงานอยู่ได้เกิดมีอาการปวดท้องอย่างรุนแรงมาก มีอาการหมดเรี่ยวหมดแรง ราวจะเป็นลมหมดสติ คุณวันดีไม่สามารถทิ้งร้านเพื่อจะพาน้องสาวไปโรงพยาบาลได้
จึงให้พระมหาสิริราชธาตุคล้องที่คอน้องสาวไว้ อธิษฐานขอให้ท่านช่วย แล้วส่งน้องสาวขึ้นรถแท็กซี่ไปโรงพยาบาลเอกชนที่อยู่ใกล้ที่สุด
เมื่อรถแท็กซี่พาไปส่งที่โรงพยาบาลแล้ว ปวดท้องมากจนเดินไม่ไหว บุรุษพยาบาลได้นำรถเข็นมารับ แล้ว
เข็นไปปล่อยทิ้งไว้เฉยๆ ไม่มีใครมาดูแลอาการเลย อาจเป็นเพราะแต่งตัวแบบแม่ค้าปอนๆ คงคิดว่าไม่มีเงินค่ารักษา ไม่รู้จะทำอย่างไร น้องสาวจึงได้
อธิษฐานจิตกับพระมหาสิริราชธาตุของพี่สาวที่ให้มา ขอให้มีคนมาช่วยด้วย พอสิ้นคำอธิษฐานเท่านั้น มีคุณหมอที่รู้จักกันท่านหนึ่งเดินมาพบพอดี เป็นแพทย์สูงอายุ เปิดคลินิกอยู่ใกล้ๆ ร้าน ชื่อว่าคุณหมอวิชัย จึงร้องเรียกท่านว่า "คุณหมอคะ ช่วยหนูด้วย หนูปวดท้องมาก"
คุณหมอวิชัยเป็นหมอใหญ่อยู่ในโรงพยาบาลนี้ ท่านกรุณาจัดการให้ทันที ตรวจพบว่าเป็นถุงน้ำดีอักเสบ ใกล้จะแตกอยู่แล้ว ต้องเข้ารับการผ่าตัดโดยด่วน คุณหมอวิชัยเป็นผู้ลงนามรับรองแทนญาติให้เสร็จ การผ่าตัดเรียบร้อยสมบูรณ์ รอดตายได้ราวปาฏิหาริย์
คุณวันดีและน้องสาวเชื่อมั่นในความศักดิ์สิทธิ์ของพระมหาสิริราชธาตุมาก ได้สวดสรรเสริญอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นเวลาขณะที่ขายของ หรือนั่งอยู่บนรถประจำทาง อาบน้ำ ทานอาหาร เพราะเชื่อในอานุภาพของพระของขวัญอย่างเต็มที่
เรื่องทุกขเวทนายามเจ็บป่วยนั้น เป็นเรื่องเฉพาะตัว ของใครของมัน ญาติมิตรคนรักใคร่กันเพียงใด ก็ช่วยเหลือแบ่งความเจ็บปวดให้กันไม่ได้ แต่อาการทุกข์ทรมานเหล่านั้น จะมีอยู่เฉพาะในกายมนุษย์เท่านั้น ผู้ที่ปฏิบัติธรรมได้รับผล ได้พบกายภายในแล้ว สามารถนำจิตของตนทิ้งกายมนุษย์ เข้าไปอยู่ในกายภายในเรื่อยๆ ไป สามารถหนีความทุกขเวทนาในกายมนุษย์ได้ หากไม่คิดว่าจะปฏิบัติธรรมเพื่อให้หลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด เป็นการปฏิบัติเพื่อหนีความทุกข์จากการเจ็บป่วยก็ยังดี