เรื่องที่ ๑๒๕คนมีบุญ
คุณปราณี ผลส่ง เจ้าของร้านจะเด็ด และร้านบาร์บีสอยู่ที่ประตูน้ำ ทำเสื้อผ้าส่งออก ขายทั้งภายในและต่างประเทศ เริ่มเข้าวัดเมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ.๒๕๔๑ เล่าว่า ได้พบอานุภาพพระมหาสิริราชธาตุหลายเรื่อง
เรื่องแรกเป็นเรื่องรายได้ที่เกิดขึ้นเป็นอัศจรรย์ คุณปราณีแต่เดิมไม่เคยไปวัดพระธรรมกาย แต่ได้ไปนั่งสมาธิที่ศูนย์ กัลยาณมิตรประตูน้ำตามที่คุณหมอ อนุวัฒน์ ศีตมโนชญ์ชักชวน และได้เห็นสมาชิกที่นั่นสมัครไปนั่งสมาธิที่เชียงใหม่ ๗ วัน จึงขอสมัครบ้าง
เวลานั้นทางวัดมีการทำบุญสร้างองค์พระธรรมกายประจำตัวที่แกนกลาง มหาธรรมกายเจดีย์ คุณปราณียังไม่สนใจเพราะรู้สึกว่าต้องใช้เงินทำบุญค่อนข้างมาก จนกระทั่งวันหนึ่งได้ไปนั่งสมาธิกับเพื่อนกัลยาณมิตร ที่ศูนย์ฯ มีพระภิกษุจากวัดพระธร
เมื่อลูกค้ามาดูสินค้าแล้ว ได้สั่งซื้อสินค้าเป็นจำนวนแสนกว่าบาท และในตอนเย็นวันเดียวกันนั้น ก็มีลูกค้ามาสั่งสินค้าอีกกว่าแสนบาท ภายหลังกลับจากปฏิบัติธรรมที่เชียงใหม่ได้เพียง ๒ วัน มีลูกค้ามาสั่งสินค้าอีกถึง ๖ แสนบาท ทำให้สามีพูดว่า "ใครไม่เชื่ออานุภาพบุญ เจออย่างนี้ก็ต้องเชื่อแล้ว" ค้าขาย ๒ วันได้มากกว่า ๖ แสนบาท ไม่เคยเป็นอย่างนี้มาก่อน สามีจึงตัดสินใจทำบุญสร้างพระที่แกนกลางด้วยอีก ๑ องค์อานุภาพบุญเรื่องที่สองที่คุณปราณีได้พบคือ คุณปราณีมีลูกค้าเป็นชาวฝรั่งเศสอยู่รายหนึ่งชื่อว่า มิเกล แบรี่ เป็นลูกค้าประจำ ติดต่อค้าขายกันมานานเป็นเวลา ๖ ปีแล้ว สั่งซื้อของปีละ ๔ ครั้ง มาคราวนี้คุณมิเกลมีอาการปวดหลังมาก ขณะที่มาดูสินค้าที่โรงงาน คุณมิเกลเข้าห้องน้ำแล้ว ออกมานอนอยู่หน้าห้องน้ำ เพราะมีอาการปวดหลังมาก ลูกจ้างในร้านจึงพาไปส่งที่โรงแรม ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากบ้านของคุณปราณีนัก อีก ๓ วันต่อมาคุณปราณีเองได้ทราบเรื่อง จึงไปเยี่ยม พบว่าคนเจ็บไปหาหมอที่โรงพยาบาลพญาไท และได้ทานยาที่หมอให้มาแล้ว แต่อาการก็ยังไม่ดีขึ้นคุณปราณีจึงนำพระมหาสิริราชธาตุออกมาให้คนป่วยดู และมอบภาพพระมหาสิริราชธาตุให้คนป่วยอีก ๑ ภาพ แล้วฝึกให้เขาพูดคำว่า "สัมมา อะระหัง" และคำว่า "พระมหาสิริราชธาตุ" จนสามารถจำได้ คุณปราณีและเด็กที่ไปด้วยได้ช่วยกันสวดสรรเสริญ และอธิษฐานจิตขอพร โดยพูดออกเสียงดังๆ ว่า "ขอให้คุณมิเกล แบรี่หายป่วยเป็นอัศจรรย์" เช้าวันรุ่งขึ้น คนป่วยบอกว่าอาการดีขึ้น แต่ยังไม่หายสนิทขอให้คุณปราณีช่วยพาไปโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ คุณปราณีก็อธิษฐานจิตขอพรพระมหาสิริราชธาตุว่า "เมื่อพาคนเจ็บไปถึง ขอให้ได้พบหมอที่มีความสามารถ รักษาโรคให้คุณมิเกลหายด้วย"
เป็นเรื่องที่แปลกมาก ไปถึงโรงพยาบาลเป็นเวลา ๗ โมงเช้า ได้พบคุณหมอวิรัตน์ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในการรักษาโรคนี้พอดี คุณหมอตรวจพบว่า กระดูกสันหลังของคนป่วยหลุดอยู่ ๒ ท่อน จึงส่งไปทำกายภาพบำบัด แต่หลังทำกายภาพบำบัดแล้ว อาการก็ยังไม่ดีขึ้น คุณปราณีจึงได้อธิษฐานจิตโดยนำน้ำมาขอพรพระมหาสิริราชธาตุขอให้น้ำนี้เป็นน้ำมนต์ แล้วให้คุณมิเกลดื่ม เพียงวันรุ่งขึ้น อาการปวดต่างๆ ก็หายอย่างอัศจรรย์ คุณปราณีได้ สวดสรรเสริญพระมหาสิริราชธาตุและทำน้ำมนต์ให้ดื่มต่ออีก ๓ วัน เมื่อกลับไปตรวจที่โรงพยาบาลอีกครั้ง เจ้าหน้าที่พยาบาลพากันแปลกใจมากว่า ทำไมถึงหายเป็นปกติได้รวดเร็วมากอย่างอัศจรรย์ เพราะการทำกายภาพบำบัดต้องใช้เวลาในการรักษานานพอสมควร คนป่วยบอกกับเจ้าหน้าที่ เหล่านั้นว่า คุณปราณีอธิษฐานจิตกับพระให้ก่อนคุณมิเกลจะเดินทางกลับประเทศฝรั่งเศส คุณปราณีได้ให้คุณมิเกลนำภาพพระมหาสิริราชธาตุ ไปติดที่หน้าร้านที่ฝรั่งเศส บอกว่าติด แล้วจะทำให้ขายของได้ดี และให้ท่องคำว่า สัมมา อะระหัง ไปเรื่อยๆ ซึ่งคุณมิเกลก็เต็มใจทำตามทุกอย่างคุณปราณียังได้พบอานุภาพเรื่องที่สามอีกคือ หลานสาวของสามีชื่อ คุณวันดี ผลส่ง เคยเป็นเนื้องอกใน มดลูก ผ่าตัดไปได้ ๖ เดือน ก็มาเป็นเนื้องอกที่ตาอีก ได้ไปรักษาอยู่หลาย โรงพยาบาล โรงพยาบาลที่มีชื่อเสียงหรือมีแพทย์ที่เชี่ยวชาญ ก็ยังไม่สามารถรักษาได้ โดยหมอชี้แจงว่า ม่านตาทะลุ รักษาไม่ได้ และยังตรวจพบเนื้องอกในลำไส้ขึ้นมาอีกแห่งหนึ่ง ถ้าทิ้งไว้จะกลายเป็นเนื้อร้าย จึงต้องจำใจทำการผ่าตัด โดยได้นัดวันเวลากับทางโรงพยาบาลไว้แล้ววันหนึ่งคุณวันดีมาหาคุณปราณี ขอให้ช่วยหาทางรักษาให้ด้วย คุณปราณีบ่นเรื่องเคยชวนมาวัดแล้วไม่ยอมไป แต่ก็ได้ลองอธิษฐานขอพรกับพระมหาสิริราชธาตุทำน้ำมนต์เหมือนครั้งที่แล้วอีกครั้ง ได้อธิษฐานจิตว่าขอให้หาย ซึ่งหลังจากดื่มน้ำมนต์ไปแล้ว หมอทำการตรวจเอ็กซเรย์อีกครั้ง ไม่พบเนื้องอกที่ลำไส้ จึงไม่ต้องผ่าตัดนอกจากนั้นคุณวันดียังบอกอีกว่า เนื้องอกที่ดวงตาก็หายเป็นปกติเหมือนเดิมทั้งหมดนี้คุณวันดีเชื่อว่าเป็นเพราะความศรัทธาเชื่อมั่นในผลบุญ และอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ของพระมหาสิริราชธาตุช่วยให้ค้าขายดี และช่วยให้หายป่วยได้อย่างอัศจรรย์ 
